Conductivity of fruits and vegetabl

Conductivity of fruits and vegetables allows ohmic heating to be implemented as a
sterilization method of these products. Ohmic heating has been tested in the treatment of
artichoke heads (Guida, Ferrari, Pataro, Chambery, Di Maro, & Parente, 2013), carrots
(Lemmens et al., 2009), cauliflower (Eliot-Godéreaux, Zuber, & Goullieux, 2001)
papaya pulp (Gomathy, Thangavel, Balakrishnan, & Kasthuri, 2015) and fruit desserts
(Castro, Teixeira, Salengke, Sastry, & Vicente, 2004; Pereira, Pereira, Teixeira, &
Vicente, 2006; Louarme & Billaud, 2012) and the effects on nutritional parameters have
been compared with those showed after the application of conventional treatments.
These studies are mainly focused on the evaluation of the stability or degradation of
sugars, ascorbic acid, carotenoids or polyphenols. However, to our knowledge little is
known about the effect of ohmic method on protein and amino acid profile in a food
product and specifically in infant foods. The composition of amino acids in a food can
be used as a measure of its nutritive value since it is the factor determining the quality
of protein (Levesque, Elango, & Ball, 2012). In the present study the amino acid profile
of vegetable baby purees before sterilization (control samples) and after retort
sterilization (as conventional treatment) and ohmic heating (as alternative treatment)
was evaluated. The aim was to investigate the feasibility of the ohmic treatment to
provide vegetable purees with an enhanced amino acid profile as compared with
conventional sterilization.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นำผักและผลไม้ช่วยให้ความร้อนแบบความต้านทานที่จะดำเนินการเป็นการ วิธีการฆ่าเชื้อของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เครื่องทำความร้อนแบบความต้านทานได้รับการทดสอบในการรักษา หัวอาร์ติโชค (Guida เฟอร์รารี่ Pataro, Chambery, Di Maro และนเจโล Parente, 2013), แครอท (Lemmens et al. 2009), กะหล่ำดอก (Godéreaux คาเฟ่ Zuber, & Goullieux, 2001) เยื่อมะละกอ (Gomathy, Thangavel, Balakrishnan และ Kasthuri, 2015) และของหวานผลไม้ (Castro, Teixeira, Salengke, Sastry และ Vicente, 2004 Pereira, Pereira, Teixeira, & Vicente, 2006 Louarme & Billaud, 2012) และมีผลกระทบในทางโภชนาการพารามิเตอร์ การเปรียบเทียบกับที่พบหลังจากการประยุกต์ใช้การรักษาแบบเดิม การศึกษาเหล่านี้ส่วนใหญ่มุ่งเน้นที่การประเมินของความมั่นคงหรือการเสื่อมสภาพของ น้ำตาล กรดแอสคอร์บิค carotenoids หรือโพลีฟีน ความรู้ของเรา เพียงเล็กน้อยก็ตาม รู้จักเกี่ยวกับผลของวิธีการแบบความต้านทานบนข้อมูลส่วนตัวของโปรตีนและกรดอะมิโนในอาหาร ผลิตภัณฑ์และโดยเฉพาะในเด็กทารกอาหาร องค์ประกอบของกรดอะมิโนในอาหารสามารถ ใช้เป็นการวัดคุณค่าของมันเป็นตัวกำหนดคุณภาพ โปรตีน (Levesque, Elango และ ลูก 2012) ในปัจจุบันศึกษากรดอะมิโน ของจากผักเด็ก ก่อนทำหมัน (ตัวอย่างควบคุม) และ หลังทอร์ท ทำหมัน (เป็นการรักษาแบบเดิม) และแบบความต้านทานความร้อน (เป็นการรักษาทางเลือก) รับการประเมิน จุดประสงค์คือการ ตรวจสอบความเป็นไปได้ของการรักษาแบบความต้านทานการ ให้ผักซุปข้น ด้วยการเพิ่มกรดอะมิโนเป็น compared ด้วย ฆ่าเชื้อทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การนำผักและผลไม้จะช่วยให้ความร้อน ohmic ที่จะนำมาใช้เป็น
วิธีการฆ่าเชื้อของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ร้อน ohmic ได้รับการทดสอบในการรักษาของ
หัวอาติโช๊ค (Guida เฟอร์รารี Pataro, Chambery ดิ Maro และ Parente, 2013), แครอท
(Lemmens et al., 2009) กะหล่ำ (เอเลียต-Godéreaux, Zuber และ Goullieux, 2001)
มะละกอเยื่อกระดาษ (Gomathy, Thangavel, บาลาคและ Kasthuri, 2015) และผลไม้ขนมหวาน
(คาสโตร Teixeira, Salengke, Sastry & Vicente 2004; รารา, Teixeira และ
เบง 2006 Louarme & Billaud 2012) และผลกระทบกับพารามิเตอร์ทางโภชนาการได้
รับเมื่อเทียบกับผู้ที่แสดงให้เห็นว่าหลังจากการประยุกต์ใช้การรักษาแบบเดิม.
การศึกษาเหล่านี้จะมุ่งเน้นในการประเมินผลของความมั่นคงหรือการย่อยสลายของ
น้ำตาลวิตามินซีหรือนอยด์โพลีฟีน อย่างไรก็ตามเพื่อให้ความรู้ของเราน้อยเป็นที่
รู้จักกันเกี่ยวกับผลกระทบของวิธีโอห์มมิกในโปรตีนและกรดอะมิโนในอาหารที่
สินค้าและโดยเฉพาะในอาหารทารก องค์ประกอบของกรดอะมิโนในอาหารสามารถ
นำมาใช้เป็นตัวชี้วัดของคุณค่าทางโภชนาการของมันเพราะมันเป็นปัจจัยกำหนดคุณภาพ
ของโปรตีน (Levesque, Elango & Ball, 2012) ในการศึกษาในปัจจุบันของกรดอะมิโน
ของ purees ทารกผักก่อนที่จะฆ่าเชื้อ (ตัวอย่าง Control) และหลังการฆ่าเชื้อ
ฆ่าเชื้อ (เช่นเดียวกับการรักษาแบบเดิม) และความร้อน ohmic (ในขณะที่การรักษาทางเลือก)
ถูกประเมิน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการรักษา ohmic ไป
ให้ purees ผักที่มีกรดอะมิโนที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ
การฆ่าเชื้อธรรมดา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นำผักและผลไม้ที่ช่วยให้ความร้อนเพื่อใช้เป็นค่าเป็นวิธีการฆ่าเชื้อของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ค่าความร้อนที่ได้ในการรักษาของหัวโช๊ค ( Guida , Ferrari , pataro ฌองเบอรี , DI , เมาโร และ parente 2013 ) , แครอท( lemmens et al . , 2009 ) , กะหล่ํา ( อีเลียตพระเจ้าและ reaux ซูเบอร์ , และ , goullieux , 2001 )เนื้อมะละกอ ( gomathy thangavel Balakrishnan , , , และ kasthuri 2015 ) และของหวานผลไม้( salengke TEIXEIRA Castro , , , sastry & Vicente , 2004 ; Pereira Pereira TEIXEIRA , , , และVicente , 2006 ; louarme & billaud , 2012 ) และผลกระทบต่อพารามิเตอร์ทางโภชนาการได้ได้รับเมื่อเทียบกับที่พบหลังการรักษาแบบปกติการศึกษาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การประเมินเสถียรภาพหรือการย่อยสลายของน้ำตาล , วิตามินซี , แคโรทีนอยด์ หรือโพลีฟีน . อย่างไรก็ตาม ความรู้น้อยทราบเกี่ยวกับผลของวิธีการค่าโปรตีนและกรดอะมิโนโปรไฟล์ในอาหารและโดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์อาหารทารก องค์ประกอบของกรดอะมิโนในอาหารสามารถถูกใช้เป็นตัวชี้วัดคุณค่าทางโภชนาการของมัน เพราะมันเป็นปัจจัยกำหนดคุณภาพโปรตีน ( เลเวสก์ elango , และ , ลูกบอล , 2012 ) ในการศึกษาวิเคราะห์กรดอะมิโนลูกผัก purees ก่อนที่หมัน ( ตัวอย่างควบคุม ) และหลังการฆ่าเชื้อหมัน ( เช่นการรักษาความร้อนปกติ ) และค่า ( เป็นทางเลือก )ถูกประเมิน มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการรักษาค่าให้ purees ผักด้วยการปรับปรุงรายละเอียดของกรดอะมิโนเป็นเมื่อเทียบกับการฆ่าเชื้อปกติ