With the publication of Social Foun

With the publication of Social Foundations of Thought and Action: A Social Cognitive Theory, Bandura (1986) advanced a view of human functioning that accords a central role to cognitive, vicarious, self-regulatory, and self-reflective processes in human adaptation and change. People are viewed as self-organizing, proactive, self-reflecting and self-regulating rather than as reactive organisms shaped and shepherded by environmental forces or driven by concealed inner impulses. From this theoretical perspective, human functioning is viewed as the product of a dynamic interplay of personal, behavioral, and environmental influences. For example, how people interpret the results of their own behavior informs and alters their environments and the personal factors they possess which, in turn, inform and alter subsequent behavior. This is the foundation of Bandura's (1986) conception of reciprocal determinism, the view that (a) personal factors in the form of cognition, affect, and biological events, (b) behavior, and (c) environmental influences create interactions that result in a triadic reciprocality. Bandura altered the label of his theory from social learning to social "cognitive" both to distance it from prevalent social learning theories of the day and to emphasize that cognition plays a critical role in people's capability to construct reality, self-regulate, encode information, and perform behaviors.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ด้วยการประกาศของสังคมรากฐานของความคิดและการดำเนินการ: A ทฤษฎีการรับรู้ทางสังคม Bandura (1986) ขั้นสูงมุมมองของมนุษย์ทำงานที่ accords บทบาทศูนย์กลางเพื่อกระบวนการรับรู้ กิยามะฮ์ self-regulatory และ self-reflective มนุษย์ปรับตัวและเปลี่ยนแปลง คนที่ดู เป็นตัวเอง จัด เชิงรุก สะท้อนตนเอง และควบคุมตนเองไม่ ใช่ เป็นสิ่งมีชีวิตปฏิกิริยารูป และ shepherded โดยสภาพแวดล้อม หรือจากแรงกระตุ้นภายในปกปิด คนทำงานจะดูจากมุมมองของทฤษฎีนี้ เป็นผลิตภัณฑ์ของล้อแบบไดนามิกของส่วนบุคคล พฤติกรรม และสิ่งแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อ ตัวอย่าง วิธีคนแปลผลลัพธ์ของพฤติกรรมตนจะแจ้งให้ทราบ และเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และปัจจัยส่วนบุคคลที่พวกเขามีที่ กลับ แจ้ง และเปลี่ยนพฤติกรรมตามมา นี่คือรากฐานของของ Bandura (1986) ความคิดของ reciprocal determinism มุมมองที่ปัจจัย (ก) บุคคลในรูปแบบของประชาน ผล และ กิจกรรมชีวภาพ, (ข) ลักษณะการทำงาน และ (ค) สิ่งแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อสร้างการโต้ตอบที่ทำให้ triadic reciprocality Bandura เปลี่ยนป้ายชื่อของทฤษฎีของเขาจากการเรียนรู้ทางสังคมเพื่อสังคม "รับรู้" ทั้งระยะห่างจากการเรียนรู้สังคมแพร่หลายทฤษฎีวัน และเน้นให้ ประชานมีบทบาทสำคัญในความสามารถของบุคคลเพื่อสร้างความเป็นจริง ควบคุมตนเอง การเข้ารหัสข้อมูล การทำพฤติกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ด้วยการตีพิมพ์ของฐานรากทางสังคมของความคิดและการกระทำ: ทฤษฎีองค์ความรู้เพื่อสังคม, การ Bandura (1986) สูงมุมมองในการทำงานของมนุษย์ที่สอดคล้องบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการองค์ความรู้, ชะลอ, กำกับดูแลตนเองและกระบวนการตนเองสะท้อนในการปรับตัวของมนุษย์และการเปลี่ยนแปลง . คนจะมองว่าการจัดระเบียบตัวเองในเชิงรุกด้วยตนเองและสะท้อนให้เห็นถึงการควบคุมตัวเองมากกว่าที่จะมีชีวิตเป็นปฏิกิริยาที่มีรูปร่างและบำรุงเลี้ยงโดยกองกำลังสิ่งแวดล้อมหรือแรงผลักดันจากแรงกระตุ้นภายในที่มองไม่เห็น จากมุมมองของทฤษฎีนี้การทำงานของมนุษย์ถูกมองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของกันและกันแบบไดนามิกของใช้ส่วนบุคคลพฤติกรรมและมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่นวิธีการที่คนตีความผลของการแจ้งพฤติกรรมของพวกเขาเองและเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพวกเขาและปัจจัยส่วนบุคคลที่พวกเขามีซึ่งในทางกลับแจ้งและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ตามมา ซึ่งเป็นรากฐานของบันดูระ (1986) ความคิดของชะตาซึ่งกันและกัน, มุมมองว่า (ก) ปัจจัยส่วนบุคคลในรูปแบบของความรู้ความเข้าใจที่มีผลกระทบต่อและเหตุการณ์ทางชีวภาพ (ข) พฤติกรรมและ (ค) มีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมสร้างปฏิสัมพันธ์ที่มีผลใน reciprocality triadic Bandura เปลี่ยนแปลงฉลากของทฤษฎีของเขาจากการเรียนรู้ทางสังคมเพื่อสังคม "องค์ความรู้" ทั้งสองจะห่างจากทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมที่แพร่หลายของวันและจะเน้นความรู้ความเข้าใจที่มีบทบาทสำคัญในความสามารถของคนที่จะสร้างความเป็นจริงตัวเองควบคุมข้อมูลเข้ารหัส และปฏิบัติพฤติกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กับการประกาศของรากฐานทางสังคมของความคิด และการกระทำ : ทฤษฎีปัญญาทางสังคม Bandura ( 1986 ) , ขั้นสูงมุมมองการทำงานของมนุษย์ให้สอดคล้องบทบาทศูนย์กลางทางปัญญาของตนเอง ซึ่งตนเองสะท้อนและกระบวนการในการปรับตัวของมนุษย์และการเปลี่ยนแปลง คนมองว่าตนเองจัดระเบียบเชิงรุกตนเองสะท้อนและควบคุมตนเองมากกว่าที่จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างและสี shepherded โดยกองกำลังของสิ่งแวดล้อมหรือขับเคลื่อนด้วยแรงกระตุ้นภายใน ปกปิด จากมุมมองทางทฤษฎีนี้ การทำงานของมนุษย์ถูกมองว่าเป็นสินค้าของทางพลวัตของส่วนบุคคล พฤติกรรม และอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่นแล้วคนแปลผลของพฤติกรรมของพวกเขาเองและแจ้งเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมและปัจจัยส่วนบุคคลที่พวกเขามี ที่ จะ แจ้งให้ทราบ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ตามมา นี้เป็นรากฐานของ Bandura ( 1986 ) ความคิดของกฎแห่งกรรม ทฤษฏี การดูว่า ( 1 ) ปัจจัยส่วนบุคคลในรูปแบบของการรับรู้อารมณ์และเหตุการณ์ทางชีวภาพ ( 2 ) พฤติกรรม( C ) และอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมสร้างการโต้ตอบที่เป็นผลในการเอื้อประโยชน์ต่อกัน triadic . แบนดูราการเปลี่ยนแปลงฉลากของทฤษฎีของเขาจากการเรียนรู้ทางสังคมเพื่อสังคม " พุทธิปัญญา " ทั้งระยะทางจากแพร่หลายการเรียนรู้ทางสังคม ทฤษฎี ของวัน และเน้นว่า การมีบทบาทสำคัญในความสามารถของผู้คนเพื่อสร้างความเป็นจริง ตนเองควบคุมเข้ารหัสข้อมูล


และแสดงพฤติกรรม