Information on the general features

Information on the general features of farms, farm operations
and energy utilization from 59 questionnaires (or farms) shows
a wide range of the amount of resource inputs (Table 2). Such
variations are reflected in the difference between the median and
the mean values. In most cases median of the data set is smaller
than the mean value. Questionnaire results show that the average
farm size of sugarcane growers in this region was 27 17.7 ha
(meanstandard deviation from 59 questionnaires). The farm
sizes can be further divided into a small (1.6e10 ha) with 15%,
medium (>10e30 ha) with 47%, and large farms (>30e96 ha) with
38% of the total sugarcane area (Table 2). The yield ha
1 varies with
the farm size; the smaller farms had a lower yield in general but did
not have any statistical significant difference. The cane yield was
not statistically related to the amount of fertilizer application. The
overall yield range was 32e120 ton ha
1, and about 40% of farms
had the yield less than 60 ton ha
1. The low sugarcane productivity
is partly due to the low soil fertility associated with sandy soil and
with the long period of land use for sugarcane cultivation (Land
Development Department, 1993). From the interviews, most of
the farmers have continued growing their sugarcane for more than
20 years. Thus, the emissions from land used changed to sugarcane
was not accounted for in this study.
Sugarcane yield was sent as feedstock to sugar mills located
within eastern Thailand. On average, the farms were located about
2014.7 km (meanstandard deviation from 59 questionnaires)
away from the sugar mills. Average diesel consumption for transportation
was 2.5 km per liter. There was no obvious difference
among farm sizes in terms of distance to the sugar mills, but the
amount of fertilizer, herbicide and insecticide varied with the farm
size (Table 2).
It is worth noting that the N fertilizer application rate varied
significantly (a factor of 18) from 19 to 938 kg-N ha
1, while the
yield varied by merely a factor of 3. In addition to the dependence of
yield on nature of soil and its fertility level, it may also indicate that
some improvements in fertilizer application may be possible so
that less fertilizer is used and the yield is not significantly affected.
Greenhouse gas emissions from excessive use of fertilizer could also
be reduced.
Irrigationwas usually carried out during the start of the growing
season, since sugarcane was planted in March before the rainy

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะทั่วไปของฟาร์ม การดำเนินงานฟาร์มและการใช้ประโยชน์พลังงานจาก 59 แสดงแบบสอบถาม (หรือฟาร์ม)ความหลากหลายของจำนวนทรัพยากรปัจจัยการผลิต (ตารางที่ 2) ดังกล่าวรูปแบบจะกลายเป็นความแตกต่างระหว่างค่ามัธยฐาน และค่าเฉลี่ยการ ในกรณีส่วนใหญ่ ค่ามัธยฐานของชุดข้อมูลมีขนาดเล็กกว่าค่าเฉลี่ย ผลลัพธ์แบบสอบถามแสดงว่าค่าเฉลี่ยขนาดฟาร์มของเกษตรกรอ้อยในเขตนี้มี 27 17.7 ฮา(หมายถึง ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากแบบสอบถาม 59) ฟาร์มขนาดสามารถถูกแบ่งเป็นขนาดเล็ก (1.6e10 ฮา) 15%ปานกลาง (> 10e30 ฮา) 47% และฟาร์มขนาดใหญ่ (> 30e96 ฮา) ด้วย38% ของพื้นที่ทั้งหมดอ้อย (ตาราง 2) จากผลตอบแทนฮา 1 แตกต่างกันไปขนาดฟาร์ม ฟาร์มขนาดเล็กมีผลผลิตต่ำโดยทั่วไป แต่ไม่ได้ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ มีผลตอบแทนเท้าทางสถิติไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนปุ๋ย ที่โดยรวม ช่วงผลผลิตได้ 32e120 ตันฮา 1 และประมาณ 40% ของฟาร์มมีผลตอบแทนน้อยกว่า 60 ตันฮา 1 ผลผลิตอ้อยน้อยบางส่วนเนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ต่ำดินที่เกี่ยวข้องกับดินทราย และระยะยาวที่ดินใช้ในการเพาะปลูกอ้อย (ที่ดินกรมพัฒนา 1993) จากการสัมภาษณ์ ส่วนใหญ่เกษตรกรที่มีต่อการเจริญเติบโตของอ้อยในมากกว่าปี 20 ดังนั้น ไอเสียจากใช้ที่ดินเปลี่ยนแปลงอ้อยไม่นำมาพิจารณาในการศึกษานี้ผลผลิตอ้อยส่งไปเป็นวัตถุดิบให้โรงงานน้ำตาลที่ตั้งอยู่ภายในประเทศไทย โดยเฉลี่ย ฟาร์มมีอยู่เกี่ยวกับ20 14.7 km (หมายถึงส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากแบบสอบถามที่ 59)จากน้ำตาล ปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลเฉลี่ยสำหรับการขนส่ง2.5 กิโลเมตรต่อลิตรได้ มีความแตกต่างไม่ชัดเจนนี่ขนาดฟาร์มในระยะห่างจากโรงงานผลิตน้ำตาล แต่ปุ๋ย สารกำจัดวัชพืช และยาฆ่าแมลงแตกต่างกันกับฟาร์มขนาด (ตาราง 2)เป็นน่าสังเกตว่า อัตราการใช้ปุ๋ย N แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (ตัวคูณ 18) จาก 19 ไป 938 กิโลกรัม-เอ็นฮา 1 ในขณะผลผลิตที่แตกต่างกัน โดยปัจจัยเพียง 3 นอกจากการพึ่งพาของตอบธรรมชาติของดินและระดับความอุดมสมบูรณ์ มันอาจยังบ่งชี้ว่าปรับปรุงในการใส่ปุ๋ยอาจเป็นไปได้ดังนั้นที่ใช้ปุ๋ยน้อยลง และจากผลตอบแทนจะไม่มากได้รับผลกระทบปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้มากเกินไปของปุ๋ยยังสามารถลดลงIrrigationwas มักจะดำเนินการในช่วงเริ่มต้นของการเติบโตฤดูกาล เนื่องจากมีปลูกอ้อยในเดือนมีนาคมก่อนที่ฝนตก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะโดยทั่วไปของฟาร์มและการดำเนินงานฟาร์มและการใช้พลังงานที่ได้จากแบบสอบถาม 59 (หรือฟาร์ม) แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของจำนวนของปัจจัยการผลิตทรัพยากร(ตารางที่ 2) เช่นรูปแบบที่จะสะท้อนให้เห็นในความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยและค่าเฉลี่ย ในกรณีส่วนใหญ่เฉลี่ยของชุดข้อมูลที่มีขนาดเล็กกว่าค่าเฉลี่ย ผลแบบสอบถามแสดงให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยของขนาดฟาร์มของเกษตรกรที่ปลูกอ้อยในภูมิภาคนี้คือ 27? 17.7 ฮ่า (หมายความว่าอย่างไรส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากแบบสอบถาม 59) ฟาร์มขนาดสามารถแบ่งออกเป็นขนาดเล็ก (1.6e10 ฮ่า) ​​15% ขนาดกลาง (> 10e30 ฮ่า) ​​47% และฟาร์มขนาดใหญ่ (> 30e96 ฮ่า) ​​กับ38% ของพื้นที่ปลูกอ้อยรวม (ตารางที่ 2) ? ฮ่าผลผลิต 1 ขึ้นอยู่กับขนาดของฟาร์ม; ฟาร์มขนาดเล็กมีอัตราผลตอบแทนที่ต่ำกว่าโดยทั่วไป แต่ไม่ได้มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติใดๆ ผลผลิตอ้อยที่ได้รับไม่ได้เกี่ยวข้องทางสถิติกับปริมาณของการใช้ปุ๋ย ช่วงผลผลิตโดยรวม 32e120 ตันฮ่า 1 และประมาณ 40% ของฟาร์มมีผลผลิตน้อยกว่า60 ตันฮ่า 1 ผลผลิตอ้อยที่ต่ำเป็นส่วนหนึ่งเนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำที่เกี่ยวข้องกับดินปนทรายและมีระยะเวลาที่ยาวนานของการใช้ที่ดินสำหรับการเพาะปลูกอ้อย(ที่ดินกรมพัฒนา, 1993) จากการสัมภาษณ์ส่วนใหญ่ของเกษตรกรที่เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องของพวกเขาสำหรับอ้อยมากกว่า20 ปี ดังนั้นการปล่อยก๊าซจากที่ดินที่ใช้เปลี่ยนไปปลูกอ้อยไม่ได้มาใช้ในการศึกษาครั้งนี้. ผลผลิตอ้อยถูกส่งไปเป็นวัตถุดิบในการโรงงานน้ำตาลตั้งอยู่ภายในภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยเฉลี่ยฟาร์มตั้งอยู่ประมาณ20 กม. 14.7 (หมายความว่าอย่างไรส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากแบบสอบถาม 59) ห่างจากโรงงานน้ำตาล ปริมาณการใช้ดีเซลเฉลี่ยสำหรับการขนส่งเป็น 2.5 กิโลเมตรต่อลิตร ไม่มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดในหมู่ขนาดฟาร์มในแง่ของระยะทางไปยังโรงงานน้ำตาลแต่ปริมาณของปุ๋ยสารกำจัดวัชพืชและยาฆ่าแมลงที่แตกต่างกันกับฟาร์มขนาด(ตารางที่ 2). มันเป็นที่น่าสังเกตว่าอัตราการใส่ปุ๋ยไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (ก ปัจจัยที่ 18) 19-938 กิโลกรัม-N ฮ่า 1 ในขณะที่อัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกันโดยเพียงปัจจัย3. นอกจากการพึ่งพาอาศัยกันของผลตอบแทนในลักษณะของดินและความอุดมสมบูรณ์ของระดับของมันยังอาจบ่งชี้ว่าการปรับปรุงบางส่วนในใส่ปุ๋ยอาจจะเป็นไปได้เพื่อว่าการใช้ปุ๋ยน้อยถูกนำมาใช้และผลผลิตที่ไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ. การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้งานที่มากเกินไปของปุ๋ยก็อาจจะลดลง. Irrigationwas มักจะดำเนินการในช่วงเริ่มต้นของการเจริญเติบโตฤดูกาลเนื่องจากอ้อยปลูกมีนาคมก่อนที่ฝน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของฟาร์ม ฟาร์ม และการใช้พลังงานจากการดำเนินงาน
59 คน ( หรือฟาร์ม ) แสดงให้เห็นว่า
หลากหลายปริมาณปัจจัยการผลิตทรัพยากร ( ตารางที่ 2 ) การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
สะท้อนให้เห็นในความแตกต่างระหว่างค่ามัธยฐานและค่าเฉลี่ยค่า
. ในกรณีส่วนใหญ่มัธยฐานของข้อมูลชุดตัวเล็ก
กว่าค่าเฉลี่ย ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าโดยเฉลี่ย
ขนาดของฟาร์ม เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยในเขตนี้คือ 27  17.7 ฮา
( หมายถึง  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจาก 59 คน ) ฟาร์ม
ขนาดสามารถเพิ่มเติมแบ่งออกเป็นขนาดเล็ก ( 1.6e10 ฮา ) 15 %
ปานกลาง ( > 10e30 ฮา ) กับ 47% และฟาร์มขนาดใหญ่ ( > 30e96 ฮา )
38 % ของพื้นที่ปลูกทั้งหมด ( ตารางที่ 2 ) ผลผลิต
1 ฮาไป
ฟาร์มขนาดเล็ก ฟาร์มขนาดเล็กมีผลผลิตลดลงทั่วไป แต่ทำ
ไม่มีความแตกต่างใด ๆอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อ้อยผลผลิตคือ
อย่างมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับปริมาณการใส่ปุ๋ย
ช่วงผลผลิตโดยรวม 32e120 ตันฮา
1 และประมาณ 40% ของฟาร์ม
ได้ผลผลิตต่ำกว่า 60 ตัน ฮา
1 น้อยอ้อยผลผลิต
ส่วนหนึ่งเนื่องจากการต่ำ ความอุดมสมบูรณ์ของดินที่เกี่ยวข้องกับดินทรายและ
กับระยะเวลาของการใช้ที่ดินเพื่อเพาะปลูกอ้อย ( ที่ดิน
กรมพัฒนา , 1993 ) จากการสัมภาษณ์ ส่วนใหญ่เกษตรกรปลูกอ้อยต่อไป

ของพวกเขามานานกว่า 20 ปี ดังนั้น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ที่ดินเปลี่ยนอ้อย
ไม่คิดในการศึกษานี้ ผลผลิตอ้อยเป็นวัตถุดิบเพื่อส่ง

น้ำตาล ตั้งอยู่ในเขตภาคตะวันออก เฉลี่ยฟาร์มตั้งอยู่ประมาณ 20  14.7 km ( หมายถึง
 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจาก 59 คน )
ห่างจากน้ำตาล . ปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลเฉลี่ยสำหรับการขนส่ง
คือ 2.5 กม. ต่อลิตร ไม่มีความแตกต่างระหว่างขนาดฟาร์ม
ชัดเจนในแง่ของระยะทางกับน้ำตาล แต่
ปริมาณปุ๋ยที่ใช้ สารกำจัดวัชพืชและแมลงตามฟาร์ม

ขนาด ( ตารางที่ 2 )เป็นมูลค่า noting ว่าไนโตรเจนปุ๋ยแตกต่างกัน
อย่างมีนัยสำคัญ ( ปัจจัย 18 ) จาก 19 ถึง 938 kg-n ฮา
1 ในขณะที่
ผลผลิตแตกต่างกันเพียงปัจจัย 3 นอกจากการพึ่งพาของ
ต่อธรรมชาติของดิน และระดับความอุดมสมบูรณ์ของมัน มันอาจจะบ่งชี้ว่ามีการปรับปรุงในการใส่ปุ๋ย

อาจจะเป็นไปได้ ดังนั้นที่ใช้ปุ๋ยน้อยลงและผลผลิตจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างมาก
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้มากเกินไปของปุ๋ยสามารถ

irrigationwas ลดลง มักจะดำเนินการในช่วงเริ่มต้นของฤดูปลูก
ตั้งแต่อ้อยปลูกในเดือนมีนาคม ก่อนฝนตก