The name derives from the Greek hyd

The name derives from the Greek hydro for "water" and genes for "forming", since it burned in air to form water. It was Henry Cavendish who collected the gas over Mercury in 1766, subjected it to systematic study, and reported his findings in 1766 to the Royal Society. He made no claim to having discovered Hydrogen. Cavendish first thought the gas was phlogiston, but then was the first to distinguish it from other gases. Probably this distinction was a major contribution to Antoine-Laurent de Lavoisier's belief that each gas is a separate element and led him to name it.

Hydrogen was observed and collected long before it was recognized as a unique gas. Robert Boyle had before 1671 dissolved iron in dilute hydrochloric acid and prepared what he described as the inflammable solution of Mars [Iron]. Johann Becher and Georg Stahl had proposed a combustible substance, phlogiston, which they felt responsible for all burning.

Hydrogen's historic use is as an industrial chemical. The heavier elements were originally made from hydrogen or from other elements that were originally made from hydrogen. Much of its current use is in improving crude oil in refineries. However, hydrogen was considered for energy even in the 19th century – by Jules Verne, as well as by contemporary scientists.


Sources
Hydrogen is estimated to make up more than 90% of all the atoms or three quarters of the mass of the universe. This element is found in the stars, and plays an important part in powering the universe through both the proton-proton reaction and carbon-nitrogen cycle – stellar hydrogen fusion processes that release massive amounts of energy by combining hydrogen to form helium.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชื่อมาจากไฮโดรกรี "น้ำ" และยีนสำหรับ "ขึ้นรูป" เนื่องจากมันเขียนในอากาศน้ำแบบฟอร์ม Henry Cavendish ผู้รวบรวมก๊าซผ่านสารปรอทใน 1766 ผ่านการศึกษาอย่างเป็นระบบ และรายงานผลการวิจัยของเขาใน 1766 ไปยังราชสมาคม ได้ เขาทำไม่เรียกร้องให้มีการค้นพบไฮโดรเจน คาเวนดิชครั้งแรกคิดว่า ก๊าซโฟลจิสตัน แต่แล้ว ก่อนเพื่อแยกออกจากก๊าซอื่น ๆ อาจนี้เป็นส่วนสำคัญเพื่อ Laurent Antoine de ลาวอยซิเออร์เชื่อว่า ก๊าซแต่ละองค์ประกอบแยกต่างหาก และการตั้งชื่อไฮโดรเจนถูกสังเกต และรวบรวมก่อนจะถือเป็นก๊าซไม่ซ้ำกัน โรเบิร์ตบอยล์ได้ก่อนเหล็ก 1671 ละลายในกรดไฮโดรคลอริก dilute และเตรียมสิ่งที่เขาอธิบายว่า การแก้ปัญหาวัตถุไวไฟของดาวอังคาร [เหล็ก] โยฮันน์ Becher และจอร์จ Stahl ได้เสนอสารติดไฟ โฟลจิสตัน ซึ่งพวกเขารู้สึกว่าความรับผิดชอบสำหรับการเขียนทั้งหมดใช้ประวัติศาสตร์ของไฮโดรเจนเป็นสารเคมีอุตสาหกรรม ธาตุหนักกว่าเดิมทำ จากไฮโดรเจน หรือ จากองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เริ่มต้นทำจากไฮโดรเจน มากของการใช้ปัจจุบันเป็นในการปรับปรุงน้ำมันดิบในโรงกลั่นน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ไฮโดรเจนเป็นพลังงานแม้ในศตวรรษที่ 19 จูลส์เวิร์น และนักวิทยาศาสตร์ร่วมสมัยแหล่งที่มาไฮโดรเจนคือประมาณทำขึ้นมากกว่า 90% ของอะตอมทั้งหมดหรือสามในสี่ของมวลของจักรวาล องค์ประกอบนี้พบในดาว และบทบาทสำคัญในการเปิดจักรวาลผ่านปฏิกิริยาโปรตอนโปรตอนและวัฏจักรไนโตรเจน–คาร์บอน – กระบวนการหลอมรวมไฮโดรเจนดาวฤกษ์ที่ปล่อยพลังงานจำนวนมหาศาล โดยการรวมไฮโดรเจนกับฮีเลียมฟอร์ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชื่อมาจากภาษากรีก Hydro สำหรับ "น้ำ" และยีนสำหรับ "รูป" เพราะมันเผาในอากาศในรูปแบบน้ำ มันเป็นเฮนรี่คาเวนดิชที่เก็บรวบรวมก๊าซกว่าปรอทใน 1766 ภายใต้ไปยังระบบการศึกษาและรายงานผลการวิจัยของเขาใน 1766 ที่จะ Royal Society เขาทำให้ไม่มีการเรียกร้องให้มีการค้นพบไฮโดรเจน คาเวนดิชแรกคิดว่าเป็นก๊าซ phlogiston แต่แล้วก็เป็นครั้งแรกที่จะแตกต่างจากก๊าซอื่น ๆ อาจจะแตกต่างนี้เป็นผลงานที่สำคัญกับความเชื่อที่อองตวนเดอ-Laurent Lavoisier ว่าก๊าซแต่ละคนเป็นองค์ประกอบที่แยกต่างหากและทำให้เขาตั้งชื่อมันว่า. ไฮโดรเจนเป็นที่สังเกตและเก็บรวบรวมนานก่อนที่จะได้รับการยอมรับว่าเป็นก๊าซที่ไม่ซ้ำกัน โรเบิร์ตบอยล์ได้ก่อน 1,671 ละลายธาตุเหล็กในกรดไฮโดรคลอเจือจางและเตรียมความพร้อมในสิ่งที่เขาอธิบายว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ติดไฟของดาวอังคาร [เหล็ก] โยฮันน์เฟรดริกเคอและตอห์ได้เสนอสารที่ติดไฟ phlogiston ซึ่งพวกเขารู้สึกว่าต้องรับผิดชอบสำหรับทุกการเผาไหม้. ใช้ประวัติศาสตร์ไฮโดรเจนเป็นสารเคมีอุตสาหกรรม องค์ประกอบที่หนักกว่าเดิมที่ทำจากไฮโดรเจนหรือจากองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมามีพื้นเพมาจากไฮโดรเจน มากในการใช้ในปัจจุบันคือในการปรับปรุงน้ำมันดิบในโรงกลั่นน้ำมัน อย่างไรก็ตามไฮโดรเจนได้รับการพิจารณาสำหรับการใช้พลังงานแม้ในศตวรรษที่ 19 - โดย Jules Verne เช่นเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ร่วมสมัย. แหล่งไฮโดรเจนคาดว่าจะทำให้ได้มากกว่า 90% ของทุกอะตอมหรือสามในสี่ของมวลของจักรวาล องค์ประกอบนี้จะพบในดวงดาวและมีบทบาทสำคัญในการเปิดเครื่องจักรวาลทั้งปฏิกิริยาโปรตอนโปรตอนและคาร์บอนไนโตรเจนวงจร - กระบวนการไฮโดรเจนฟิวชั่นเป็นตัวเอกที่ปล่อยจำนวนมหาศาลของพลังงานโดยการรวมไฮโดรเจนฮีเลียม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

希腊：从最derives hydro name为“水”和“基因”，因为它的作用，在空气-水burned这是形式。在任何collected是亨利的气汞，它在1766 subjected到他的研究，和reported findings systematic在1766到皇家学会。他提出想做不到了。discovered氢能的板烟，第一是燃素气但它是第一个distinguish然后从另一gases。这主要是Probably distinction到Antoine-Laurent贡献信仰是Lavoisier ' s de每个LED元件和气体是一separate为他到它。氢能是collected之前它是观察和recognized长罗伯特波义耳气体作为一个独特的溶解有1671之前。铁在稀酸和prepared hydrochloric易燃液什么的，他作为一个described [铁] Becher是火星。有一个尖端和Georg proposed可燃物质，这felt燃素，他们负责所有燃烧。氢能的使用是作为一个工业化学historic重大小。originally）是从hydrogen或从其他国产这是originally大小。它从hydrogen做Much of current是在改善粗油使用。然而，在炼油厂。即使是考虑hydrogen十九世纪，能源，通过在由儒勒·凡尔纳，以及当代科学家都一样。来源氢能是让游戏更estimated 90%到所有的原子比的两次或三次universe坏。这个元素的质量找到了，是在一个明星在供电部分和重要的plays universe的反应通过两proton-proton和融合过程中stellar hydrogen carbon-nitrogen——是由释放的能量为massive hydrogen对雏鸡混合helium形式。