,I’ll move on to Freedom from debt

,I’ll move on to Freedom from debt should be our primary aim to achieve true happiness. Borrowing can increase our wealth, but we need to be prepared for possible downsides. To promote financial literacy, the Bank of Thailand has come up with the “savings planner”, a document for recording your monthly income and all expenses, ranging from food, lottery tickets, transport and allowance to parents to medical expenses. At the end of the year, the sums indicate which expenses can be trimmed the following year.
Then comes a big question: how much we should save? When is “enough” enough?
The Stock Exchange of Thailand has offered a formula to gauge our financial health: Preferable net wealth = age x annual income x 10 per cent. You list all assets, ranging from cash, saving deposits and gold to houses. From this you deduct all liabilities, such as mortgage and hire-purchase loans.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผมจะย้ายไปอิสระจากหนี้ควรเป็นเป้าหมายหลักของเราเพื่อให้บรรลุความสุข กู้ยืมเงินสามารถเพิ่มความมั่งคั่งของเรา แต่เราต้องตระเตรียมข้อเสียไปได้ เพื่อส่งเสริมการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เกิดขึ้นกับ "ออมนักวางแผน" เอกสารสำหรับบันทึกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตั้งแต่อาหาร หวย ขนส่ง และค่าการพยาบาลบิดามารดาและรายได้ของคุณ ปลายปี ผลบวกบ่งชี้ว่า ค่าใช้จ่ายซึ่งสามารถตัดในปีต่อไปแล้ว มาคำถามใหญ่: เราควรออมเท่าใด เมื่อเป็น "พอ" พอตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เสนอสูตรการวัดสุขภาพทางการเงินของเรา: ความมั่งคั่งสุทธินิยม =อายุ x รายได้ต่อปี x 10 ร้อย คุณรายการสินทรัพย์ทั้งหมด ตั้งแต่เงินสด ประหยัดเงินและทองไปบ้าน จาก คุณหักหนี้สินทั้งหมด เช่นสินเชื่อจำนองและเช่าซื้อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผมจะย้ายไปอิสรภาพจากหนี้ควรจะเป็นจุดมุ่งหมายหลักของเราเพื่อให้บรรลุความสุขที่แท้จริง การกู้ยืมสามารถเพิ่มความมั่งคั่งของเรา แต่เราจะต้องมีการจัดเตรียมไว้สำหรับข้อเสียไปได้ เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เกิดขึ้นกับ "การวางแผนการออม" เอกสารประกอบการบันทึกรายได้ต่อเดือนของคุณและค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่อาหาร, หวย, การขนส่งและค่าเผื่อให้กับผู้ปกครองเป็นค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ ในตอนท้ายของปีเงินก้อนระบุค่าใช้จ่ายซึ่งสามารถตัดแต่งในปีต่อไป.
แล้วมาเป็นคำถามใหญ่: เท่าใดเราควรบันทึก? เมื่อเป็น "พอ" พอที่
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เสนอสูตรที่จะวัดสุขภาพทางการเงินของเรา: ความมั่งคั่งสุทธิดีกว่า = X อายุรายได้ต่อปี x ร้อยละ 10 รายการสินทรัพย์ทั้งหมดตั้งแต่เงินสดเงินฝากและทองคำไปบ้าน จากนี้คุณหักหนี้สินทั้งหมดเช่นสินเชื่อที่อยู่อาศัยและเช่าซื้อเงินให้กู้ยืม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผมจะย้ายไปเพื่ออิสรภาพจากหนี้ควรจะเป็นเป้าหมายหลักของเราเพื่อให้บรรลุความสุขที่แท้จริง การกู้ยืมเงินสามารถเพิ่มความมั่งคั่งของเรา แต่เราก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับ downsides ที่เป็นไปได้ การส่งเสริมการรู้หนังสือทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เกิดขึ้นกับ " ออมทรัพย์วางแผน " เอกสารเพื่อการบันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตั้งแต่อาหาร , หวย , การขนส่งและค่าใช้จ่ายให้ผู้ปกครองเพื่อค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ ที่ส่วนท้ายของปี ผลรวมซึ่งบ่งชี้ถึงค่าใช้จ่ายที่สามารถตัดปีต่อไปนี้แล้วก็มาถึงคำถามใหญ่ : เท่าไหร่เราควรจะช่วย เมื่อมี " พอ " พอตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เสนอสูตรในการวัดสุขภาพทางการเงินของเรา : กว่าสุทธิความมั่งคั่ง = อายุ X รายได้ x 10 เปอร์เซ็นต์ รายการทรัพย์สินทั้งหมด ตั้งแต่เงินสด เงินฝากออมทรัพย์ และ ทอง บ้าน จากคุณหักภาระหนี้สินทั้งหมด เช่น การจำนองและสินเชื่อเช่าซื้อ