Recently, there is an abuse of food

Recently, there is an abuse of food additives on food processing and preservation because people
think that these materials help to increase sensory quality and shelf-life of foods. However, these
additives might cause public health hazard. Borax is one of these materials.
When Borax is added to foods, it prolongs shelf-life of foods by limiting fermentation, controlling
moulds and bacteria. In food processing, Borax makes animal-based products firm, brittle, tough,
and appetite. Besides, Borax can keep meat and fish fresh for sometime. Due to these
characteristics, Borax has been abused in food production leading to heavy public health hazard.
Borax might cause acute poisoning and make people die when used at a level of 15-30 gram for
adult and 3-5 gram for child (Tran Dang, 2006). When eaten, 85% of Borax can be eliminated,
while 15% will be accumulated in organs, especially in fat. Chronic poisoning negatively affects
liver and kidney when Borax accumulates to enough level (Luong Thi Hong Nga, Pham Cong
Thanh, 2001). As its toxic and harmful characteristics, almost regional and international
organizations in 1970s of 20th century have not allowed the use of Borax as food additive (Tran
Dang, 2006). In Vietnam, Decree No. 867/QD-BYT issued on April 4, 1998 and Decree No.
3742/QĐ-BYT on September 30, 2001 have forbidden the use of Borax in food processing and
preservation, however, in practice it is not the case.
The study was conducted to get a full picture of Borax abuse in real life and to find ways to actively
eliminate Borax from positive samples using (hot) water (70-90oC).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไม่มีการละเมิดของวัตถุเจือปนอาหารแปรรูปและการเก็บรักษาเนื่องจากผู้คนคิดว่า วัสดุเหล่านี้ช่วยเพื่อเพิ่มคุณภาพทางประสาทสัมผัสและอายุการเก็บรักษาอาหาร อย่างไรก็ตาม เหล่านี้วัตถุเจือปนอาจทำให้เกิดสาธารณภัย Borax เป็นวัสดุเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อเพิ่มอาหาร Borax มันยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร โดยจำกัดการหมัก การควบคุมแม่พิมพ์และแบคทีเรีย ในการประมวลผลอาหาร Borax ทำผลิตภัณฑ์สัตว์ตามบริษัท เปราะ ทนและความอยากอาหาร นอกจาก Borax สามารถเก็บเนื้อสัตว์และปลาสดสำหรับบางครั้ง เนื่องจากเหล่านี้ลักษณะ Borax มีได้ถูกในการผลิตอาหารที่นำไปสู่อันตรายหนักสาธารณสุขBorax อาจทำให้เกิดพิษเฉียบพลัน และทำให้คนตายระดับ 15-30 กรัมสำหรับผู้ใหญ่และ 3-5 กรัมสำหรับเด็ก (ทรานแดง 2006) เมื่อกิน สามารถตัด 85% ของ Boraxในขณะที่ 15% จะถูกสะสมในอวัยวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไขมัน เป็นพิษเรื้อรังส่งผลเสียมีผลต่อตับและไตเมื่อ Borax สะสมระดับเพียงพอ (ลอง Thi Hong พังงา คอฟามแท็ง 2001) เป็นความเป็นพิษ และเป็นอันตรายลักษณะ เกือบระดับภูมิภาค และนานาชาติองค์กรในทศวรรษ 1970 ของศตวรรษที่ 20 ได้รับอนุญาตให้ใช้เป็น additive อาหาร (ทราน Boraxแดง 2006) ในเวียดนาม พระราชกฤษฎีกาหมายเลข 867/คิว ดีสวีต-BYT ออกในเดือน 4 เมษายน 1998 และกฤษฎีกาเลข3742/QĐ-BYT บน 30 กันยายน 2001 ได้ห้ามใช้ Borax ในอาหาร และอนุรักษ์ อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ ไม่ใช่การวิจัยดูรูปภาพทั้งหมดของ Borax ละเมิดในชีวิตจริง และหาวิธีการอย่างแข็งขันกำจัด Borax จากตัวอย่างการบวกโดยใช้ (ร้อน) น้ำ (70-90oC)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อเร็วๆ นี้ มีการใช้วัตถุเจือปนอาหารในการแปรรูปอาหารและการถนอมอาหาร เพราะคน
คิดว่าวัสดุเหล่านี้ช่วยเพิ่มคุณภาพทางประสาทสัมผัสและอายุการเก็บของอาหาร อย่างไรก็ตาม สารเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอันตราย
สาธารณสุข สารบอแรกซ์เป็นหนึ่งในวัสดุเหล่านี้ .
เมื่อสารบอแรกซ์ เพิ่มอาหาร มันยืด อายุการเก็บรักษาของอาหารโดยการหมักจำกัดการควบคุม
เชื้อราและแบคทีเรียในการประมวลผลอาหาร , สารบอแรกซ์ ทำให้สัตว์ตามผลิตภัณฑ์ของบริษัท , เปราะ , ยาก ,
และความอยากอาหาร นอกจากนี้ สารบอแรกซ์ สามารถเก็บเนื้อและปลาสำหรับบางครั้ง เนื่องจากคุณลักษณะเหล่านี้
, บอแรกซ์ได้รับการทารุณกรรมในการผลิตอาหารสู่ภัยสาธารณสุขหนัก .
บอแรกซ์อาจทำให้เกิดพิษเฉียบพลัน และทำให้ผู้คนตายเมื่อใช้ในระดับ 15-30 กรัม สำหรับผู้ใหญ่และเด็ก
3-5 กรัม ( ทรานดัง , 2006 )กินแล้ว 85% ของบอแรกซ์สามารถยกเลิก
ในขณะที่ 15% จะถูกสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะไขมัน พิษเรื้อรังส่งผลกระทบต่อตับและไต เมื่อสารบอแรกซ์
สะสมในระดับพอ ( Luong Thi Hong พังงา ฟาม กง
Thanh , 2001 ) เป็นลักษณะของพิษและเป็นอันตราย เกือบทั้งในระดับภูมิภาคและระดับระหว่างประเทศ
องค์กรในยุค 70 ของศตวรรษที่ 20 ได้ ไม่อนุญาตให้ใช้สารบอแรกซ์เป็นสารเติมแต่งอาหาร ( Tran
ดัง , 2006 ) ในเวียดนาม ประกาศหมายเลข 867 / qd-byt ออกเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2541 และคำสั่งไม่ 3742
/ Q Đ - แต่เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2544 ได้มีการใช้สารบอแรกซ์ในอาหารและ
รักษา ห้าม อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติมันเป็นกรณีที่ไม่
วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้เพื่อให้ได้ภาพเต็มของบอแรกซ์ใช้ในชีวิตจริง และหาวิธีที่จะขจัดสารบอแรกซ์อย่าง
จากตัวอย่างบวกด้วย ( ร้อน ) น้ำ ( 70-90oc )