Usage of The ModelsStep 1: It is re

Usage of The Models
Step 1: It is recommended to teach the topic of simple electric circuits in the class the usualway, followed by solving some problems. After the topic is presented, the model should be introduced.
Step 2: The teacher should previously construct an example of the 3-D model as shown
in Figure 4 or Figure 5 and then explain how the model is related to what has been instructed before. The instructor should emphasize that the battery increases the potential that drops
across the resistors, and the potential is the same everywhere on wires connecting resistors or any other element of the circuit.
Step 3: As always, working in groups enhances the students’ understanding and
minimizes the teachers’ involvement. Therefore, it better allow students to work in groups.
Once the groups of three or four students are formed, it is time to construct the 3-D model of the circuit. The initial skeleton frames of the circuit that the students will construct need not
to be as complex as described in Figure 2 and Figure 3 so as to make them get familiar with the model building. Students can initially construct the three-dimensional model of the
circuits by using wires. It is also necessary for the teacher to give some guidance in the
beginning of the building of the model. It is crucial to emphasize that the voltage rise in the
3-D model is represented by the heights of the wire corresponding to the battery.
Step 4: As a quick informal test of the usefulness of the 3-D model building
methodology, a circuit similar to the one in Figure 6 can be presented to the students. For this
study, the 10th grade students were asked to compare the electric potentials of points K, L, M
and N in Figure 8. Most of the students (15 out of 22) could give the correct answer to this
question. Parenthetically the achievement test didn’t include this question.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การใช้งานของแบบจำลองขั้นตอนที่ 1: แนะนำการสอนหัวข้อวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายในคลา usualway ตาม ด้วยการแก้ปัญหา หลังจากหัวข้อการนำเสนอ รูปแบบควรจะแนะนำขั้นตอนที่ 2: ครูควรเคยสร้างตัวอย่างของแบบจำลอง 3 มิติแสดงในรูปที่ 4 หรือ 5 รูป และอธิบายวิธีแบบเกี่ยวข้องกับอะไรได้รับคำแนะนำก่อนแล้ว ผู้สอนควรเน้นที่ แบตเตอรี่เพิ่มศักยภาพที่หยดการ resistors และเป็น เหมือนกันทุกที่บนสายเชื่อมต่อ resistors หรือองค์ประกอบอื่น ๆ ของวงจรขั้นตอนที่ 3: เสมอ ทำงานเป็นกลุ่มช่วยเพิ่มความเข้าใจของนักเรียน และช่วยลดการมีส่วนร่วมของครู ดังนั้น มันดีขึ้นช่วยให้นักเรียนทำงานเป็นกลุ่มเมื่อกลุ่มของนักเรียนสาม หรือสี่จะเกิดขึ้น เป็นเวลาที่จะสร้างแบบจำลอง 3 มิติของวงจร ต้องการเฟรมโครงกระดูกเริ่มต้นของวงจรที่จะสร้างนักเรียนที่ไม่จะซับซ้อนตามที่อธิบายไว้ในรูปที่ 2 และรูปที่ 3 เพื่อให้คุ้นเคยกับการสร้างแบบจำลอง นักเรียนสามารถเริ่มสร้างแบบจำลองสามมิติของการวงจร โดยใช้สาย นอกจากนี้ยังจำเป็นสำหรับครูให้คำแนะนำบางอย่างในการจุดเริ่มต้นของการสร้างแบบจำลอง การเน้นที่แรงดันไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในการแบบจำลอง 3 มิติจะถูกแสดง ด้วยความสูงของลวดตรงแบตเตอรี่ขั้นตอนที่ 4: เป็นการทดสอบอย่างรวดเร็วของประโยชน์ของการสร้างแบบจำลอง 3 มิติวิธี วงจรคล้ายกับในรูปที่ 6 สามารถนำนักเรียน ในการนี้ศึกษา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 10 ถูกต้องเปรียบเทียบศักยภาพไฟฟ้าจุด K, L, Mและ N ในรูปที่ 8 (15 จาก 22) นักเรียนส่วนใหญ่สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องนี้คำถามนี้ Parenthetically ทดสอบความสำเร็จไม่มีคำถามนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การใช้แบบจำลองขั้นตอนที่ 1: ขอแนะนำที่จะสอนเรื่องของวงจรไฟฟ้าที่เรียบง่ายในชั้นเรียน usualway ตามด้วยการแก้ปัญหาบางอย่าง
หลังจากหัวข้อที่จะนำเสนอในรูปแบบที่ควรจะนำมาใช้.
ขั้นตอนที่ 2: ครูก่อนหน้านี้ควรสร้างตัวอย่างของรูปแบบ 3
มิติที่แสดงในรูปที่4 หรือรูปที่ 5 แล้วอธิบายวิธีการรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ได้รับการสั่งการก่อน . ผู้สอนควรเน้นว่าแบตเตอรี่เพิ่มศักยภาพที่ลดลงทั่วทั้งตัวต้านทานและมีศักยภาพที่จะเหมือนกันทุกที่บนสายไฟเชื่อมต่อตัวต้านทานหรือองค์ประกอบอื่น ๆ ของวงจร. ขั้นที่ 3: ในฐานะที่เคยทำงานในกลุ่มช่วยเพิ่มความเข้าใจของนักเรียนและช่วยลดการมีส่วนร่วมของครูผู้สอน ดังนั้นจึงดีกว่าให้นักเรียนทำงานในกลุ่ม. เมื่อกลุ่มของสามหรือสี่นักเรียนจะเกิดขึ้นก็เป็นเวลาที่จะสร้างแบบจำลอง 3 มิติของวงจร กรอบโครงกระดูกเริ่มต้นของวงจรที่นักเรียนจะสร้างไม่จำเป็นต้องที่จะไม่ซับซ้อนเท่าที่อธิบายไว้ในรูปที่ 2 และรูปที่ 3 เพื่อที่จะทำให้พวกเขาได้รับคุ้นเคยกับการสร้างแบบจำลอง นักเรียนเริ่มแรกสามารถสร้างแบบจำลองสามมิติของวงจรโดยใช้สายไฟ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับครูที่จะให้คำแนะนำบางอย่างในจุดเริ่มต้นของการสร้างแบบจำลอง มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเน้นว่าการเพิ่มขึ้นของแรงดันไฟฟ้าในที่รูปแบบ 3 มิติเป็นตัวแทนจากความสูงของสายที่สอดคล้องกับแบตเตอรี่. ขั้นตอนที่ 4: ในฐานะที่เป็นการทดสอบทางการอย่างรวดเร็วของประโยชน์ของ 3 มิติการสร้างแบบจำลองวิธีการวงจรคล้ายกับในรูปที่ 6 สามารถนำเสนอให้กับนักเรียน สำหรับวันนี้การศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 10 ถูกถามเพื่อเปรียบเทียบศักยภาพไฟฟ้าของจุด K, L, M และไม่มีข้อความในรูปที่ 8 นักศึกษาส่วนใหญ่ (15 จาก 22) สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องนี้คำถาม สอดทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการไม่ได้รวมคำถามนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้โมเดล
ขั้นที่ 1 : ควรสอนเรื่องวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายในชั้นเรียน usualway ตามมาด้วยการแก้ไขปัญหาบางอย่าง ตามหัวข้อที่นำเสนอ รูปแบบควรแนะนำ .
ขั้นที่ 2 : ครูควรก่อนหน้านี้สร้างตัวอย่างของโมเดล 3 มิติที่แสดง
ในรูปที่ 4 และรูปที่ 5 แล้ว อธิบายว่า รูปแบบ เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ได้รับการสั่งสอนมาก่อน ผู้สอนควรเน้นที่ แบตเตอรี่เพิ่มศักยภาพที่ลดลง
ผ่านตัวต้านทานและศักยภาพเป็นเหมือนกันทุกที่บนสายไฟเชื่อมต่อกับตัวต้านทาน หรือองค์ประกอบใด ๆอื่น ๆของวงจร
ขั้นตอนที่ 3 : เป็นเสมอ ทำงานในกลุ่มช่วยเพิ่มความเข้าใจของนักเรียนและ
ช่วยลดการมีส่วนร่วม . ดังนั้น จึงน่าจะช่วยให้นักเรียนทำงานเป็นกลุ่ม
เมื่อกลุ่มสามหรือสี่ปีที่จะเกิดขึ้น ถึงเวลาที่จะสร้างโมเดล 3 มิติของวงจรไฟฟ้า เริ่มต้นโครงเฟรมของวงจรที่นักเรียนจะสร้างไม่ต้อง
จะซับซ้อนเท่าที่อธิบายไว้ในรูปที่ 2 และรูปที่ 3 เพื่อให้คุ้นเคยกับอาคารแบบนักศึกษาสามารถเริ่มสร้างโมเดลสามมิติของ
วงจรโดยใช้สายไฟ มันก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับครูที่จะให้คำแนะนำบางอย่างใน
เริ่มต้นของอาคารของแบบจำลอง มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเน้นว่าแรงดันไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในรูปแบบ 3-D
แสดงโดยความสูงของลวดที่สอดคล้องกับแบตเตอรี่ .
ขั้นตอนที่ 4 :เป็นแบบทดสอบที่รวดเร็วของประโยชน์ของ 3 มิติ รูปแบบอาคาร
วิธีการ , วงจรคล้ายกับในรูปที่ 6 จะถูกนำเสนอให้กับนักเรียน สำหรับการศึกษานี้
, นักเรียนเกรด 10 ที่ถูกถามเพื่อเปรียบเทียบศักยภาพไฟฟ้าจุด K , L , M และ N
ในรูปที่ 8 นักเรียนส่วนใหญ่ ( 15 จาก 22 ) ไม่สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องกับคำถามนี้

เกี่ยวกับวงเล็บ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่รวมคำถามนี้