Poverty is an exceptionally complic

Poverty is an exceptionally complicated social phenomenon, and trying to discover its causes is equally complicated. The stereotypic (and simplistic) explanation persists—that the poor cause their own poverty—based on the notion that anything is possible in America. Some theorists have accused the poor of having little concern for the future and preferring to “live for the moment”; others have accused them of engaging in self‐defeating behavior. Still other theorists have characterized the poor as fatalists, resigning themselves to a culture of poverty in which nothing can be done to change their economic outcomes. In this culture of poverty—which passes from generation to generation—the poor feel negative, inferior, passive, hopeless, and powerless.
The “blame the poor” perspective is stereotypic and not applicable to all of the underclass. Not only are most poor people able and willing to work hard, they do so when given the chance. The real trouble has to do with such problems as minimum wages and lack of access to the education necessary for obtaining a better‐paying job.

More recently, sociologists have focused on other theories of poverty. One theory of poverty has to do with the flight of the middle class, including employers, from the cities and into the suburbs. This has limited the opportunities for the inner‐city poor to find adequate jobs. According to another theory, the poor would rather receive welfare payments than work in demeaning positions as maids or in fast‐food restaurants. As a result of this view, the welfare system has come under increasing attack in recent years.

Again, no simple explanations for or solutions to the problem of poverty exist. Although varying theories abound, sociologists will continue to pay attention to this issue in the years to come.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความยากจนเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่ซับซ้อนล้ำ และพยายามค้นพบสาเหตุของมันมีความซับซ้อนอย่างเท่าเทียมกัน อธิบาย stereotypic (และพี่) ยังคงอยู่ — ที่ยากจนทำให้เกิดความยากจนของตนเองซึ่งตามแนวคิดที่พิถีพิถันสุดในอเมริกา Theorists บางได้ถูกกล่าวหาว่าคนจนมีความกังวลเล็กน้อยสำหรับอนาคต และพลุกพล่าน "อยู่ในขณะนี้" อื่น ๆ ได้ถูกกล่าวหาว่าพวกเขาในลักษณะ self‐defeating ยังคง theorists อื่น ๆ มีลักษณะเป็น fatalists ลาตัวเองมาจากวัฒนธรรมของความยากจนที่ไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงผลทางเศรษฐกิจยากจน ในวัฒนธรรมของความยากจนนี้ — ซึ่งส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่นซึ่งคนจนรู้สึกลบ น้อย แฝง ตา และอำนาจมุมมอง "ตำหนิคนจน" จะไม่ใช้กับทั้งหมดที่ underclass และ stereotypic ไม่มีคนจนมากที่สุด และยินดีทำงานหนัก จะทำเมื่อมีโอกาส มีปัญหาจริงกับปัญหาดังกล่าวเป็นค่าจ้างขั้นต่ำและไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาที่จำเป็นสำหรับการรับงาน better‐payingเมื่อเร็ว ๆ นี้ พูดมีความสำคัญในทฤษฎีอื่น ๆ ของความยากจน มีทฤษฎีหนึ่งของความยากจนกับการบินของชนชั้นกลาง นาย จากเมือง และเข้าไป ในชานเมืองรวมทั้ง นี้ถูกจำกัดโอกาสสำหรับ inner‐city ไม่ดีหางานเพียงพอ ตามทฤษฎีอื่น คนจนจะค่อนข้างได้รับชำระเงินสวัสดิการมากกว่าทำงาน ในตำแหน่ง demeaning เป็นแม่บ้าน หรือ ในร้านอาหาร fast‐food จากมุมมองนี้ ระบบสวัสดิการได้มาภายใต้การเพิ่มการโจมตีในปีที่ผ่านมาอีกครั้ง ไม่มีคำอธิบายง่าย ๆ สำหรับหรือวิธีแก้ปัญหาความยากจนอยู่ แม้ว่าทฤษฎีที่แตกต่างกันมาก พูดจะยังให้ความสนใจกับประเด็นนี้ในปีที่ผ่านมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความยากจนเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่มีความซับซ้อนเป็นพิเศษและพยายามที่จะค้นพบสาเหตุของมันมีความซับซ้อนอย่างเท่าเทียมกัน stereotypic (และง่าย) ยังคงมีคำอธิบายที่ไม่ดีของตัวเองทำให้เกิดความยากจนขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่าอะไรเป็นไปได้ในอเมริกา บางทฤษฎีได้ถูกกล่าวหาว่าไม่ดีของการมีความกังวลเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับอนาคตและเลือกที่จะ "อยู่ในขณะนี้"; คนอื่น ๆ ได้กล่าวหาว่าพวกเขามีส่วนร่วมในพฤติกรรมของตัวเองชนะ ยังคงทฤษฎีอื่น ๆ ที่มีความโดดเด่นเป็นที่น่าสงสาร fatalists ลาออกของตัวเองให้เข้ากับวัฒนธรรมของความยากจนที่ไม่มีอะไรสามารถทำได้ในการเปลี่ยนแปลงผลทางเศรษฐกิจของประเทศ ในวัฒนธรรมของความยากจนซึ่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่นที่ให้ความรู้สึกที่ไม่ดีลบด้อยกว่า, เรื่อย ๆ , สิ้นหวังและหมดหนทาง.
"ตำหนิน่าสงสาร" มุมมองที่เป็น stereotypic และไม่สามารถใช้ได้กับทุกคนสามัญ ไม่เพียง แต่เป็นคนที่น่าสงสารมากที่สุดสามารถและเต็มใจที่จะทำงานอย่างหนักที่พวกเขาทำเช่นนั้นเมื่อได้รับโอกาส ปัญหาจริงจะทำอย่างไรกับปัญหาเช่นค่าจ้างขั้นต่ำและการขาดการเข้าถึงการศึกษาที่จำเป็นสำหรับการได้รับงานที่ดีกว่าจ่าย. เมื่อเร็ว ๆ นี้นักสังคมวิทยาได้มุ่งเน้นทฤษฎีอื่น ๆ ของความยากจน ทฤษฎีหนึ่งของความยากจนจะทำอย่างไรกับการบินของคนชั้นกลางรวมทั้งนายจ้างจากเมืองและในเขตชานเมือง นี้มีการ จำกัด โอกาสในการเขตเมืองชั้นในที่ไม่ดีที่จะหางานที่เพียงพอ ตามทฤษฎีอื่นที่ไม่ดีค่อนข้างจะได้รับเงินสวัสดิการกว่าการทำงานในตำแหน่งที่เหมาะเป็นสาวใช้ในร้านอาหารหรืออาหารอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากมุมมองนี้ระบบสวัสดิการที่มีมาภายใต้การโจมตีที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา. อีกครั้งไม่มีคำอธิบายที่ง่ายสำหรับการหรือแนวทางในการแก้ปัญหาความยากจนอยู่ แม้ว่าทฤษฎีที่แตกต่างกันมากนักสังคมวิทยาจะยังคงให้ความสนใจกับปัญหานี้ในปีที่ผ่านมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความยากจนเป็นโคตรซับซ้อนปรากฏการณ์ทางสังคม และพยายามที่จะค้นพบสาเหตุเป็นอย่างซับซ้อน การ stereotypic ( และง่าย ) คำอธิบายยังคงอยู่ที่ยากจนเพราะความยากจนของตนเองตามความคิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้ในอเมริกา ทฤษฎีได้ถูกกล่าวหาว่าคนจนมีปัญหาเล็ก ๆน้อย ๆสำหรับอนาคตและเลือกที่จะ " อยู่ในขณะนี้ "คนอื่นกล่าวหาว่าพวกเขามีส่วนร่วมใน‐ตนเองเอาชนะพฤติกรรม ทฤษฎีอื่น ๆยังคงมีลักษณะที่ไม่ดี เช่น fatalists การลาออกเอง วัฒนธรรมของความยากจนที่ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้เพื่อเปลี่ยนแปลงผลทางเศรษฐกิจของตน ในวัฒนธรรมของความยากจนที่ผ่านจากรุ่นสู่รุ่น จนรู้สึกลบ , ด้อยกว่า , เรื่อยๆ , สิ้นหวัง และหมดหนทาง .
" โทษคนจน " มุมมองเป็น stereotypic และไม่ใช้ทั้งหมดของใต้ชนชั้น . ไม่เพียง แต่เป็นคนจนคนส่วนใหญ่สามารถและเต็มใจที่จะทำงานหนัก พวกเขาทำ ดังนั้นเมื่อได้รับโอกาส ปัญหาที่แท้จริงได้จะทำอย่างไรกับปัญหา เช่น ค่าจ้างขั้นต่ำ และการขาดการเข้าถึงการศึกษาที่จำเป็นสำหรับการได้รับงานที่จ่าย‐ดีกว่า

เมื่อเร็วๆ นี้นักสังคมวิทยาได้เน้นทฤษฎีอื่น ๆ ของความยากจน ทฤษฎีหนึ่งของความยากจนมีอะไรกับการบินของชนชั้นกลาง รวมทั้งนายจ้างจากเมืองและในเขตชานเมือง นี้มี จำกัด โอกาสภายใน‐คนจนเมืองในการค้นหางานที่เพียงพอ ตามทฤษฎีอื่นคนจนจะได้รับการจ่ายเงินสงเคราะห์มากกว่างานในคำสั่งตำแหน่งแม่บ้านหรือในร้านอาหาร‐อย่างรวดเร็ว เป็นผลจากมุมมองนี้ , ระบบสวัสดิการที่มีมาภายใต้การโจมตีที่เพิ่มขึ้นในปีล่าสุด

อีก ไม่ง่ายอธิบายหรือแก้ไขปัญหาความยากจนอยู่ แม้ว่าตามทฤษฎีบริบูรณ์แล้วนักสังคมวิทยาจะยังคงให้ความสนใจกับปัญหาในภายภาคหน้า