ผู้ให้ข้อมูลทั้ง 12 คน ให้ข้อมูลคล้ายกันว่ามีแรงจูงใจในการเรียนภาษาอัง การแปล - ผู้ให้ข้อมูลทั้ง 12 คน ให้ข้อมูลคล้ายกันว่ามีแรงจูงใจในการเรียนภาษาอัง ไทย วิธีการพูด

ผู้ให้ข้อมูลทั้ง 12 คน ให้ข้อมูลคล้

ผู้ให้ข้อมูลทั้ง 12 คน ให้ข้อมูลคล้ายกันว่ามีแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษที่ผ่านมาและวางแผนการเรียนในอนาคต เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานทั้งการอ่าน-เขียนเอกสารหรืออีเมลภาษาอังกฤษและสื่อสารกับแพทย์ชาวต่างชาติ และเพื่อเป็นการพัฒนาการทำงานในอนาคต อีกทั้งองค์กรก็มีความคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่จะสามาถใช้ภาษาอังกฤษได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผู้ให้ข้อมูลบางคนมีประสบการณ์การไปต่างประเทศ จึงมีความสนใจที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อช่วยการสื่อสารเมื่อไปต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามการกำหนดแผนที่ชัดเจนในการเรียนภาษาอังกฤษในอนาคตของผู้ให้ข้อมูลนั้นพบว่าสัมพันธ์กับความจำเป็นของการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน ความรู้สึกภายในต่อตนเองในการใช้ภาษาอังกฤษ และการบริหารจัดการเวลาเรียน เวลาทำงาน และเวลาส่วนตัว ผู้ให้ข้อมูลในกลุ่มงาน Monitor และ Coordinator กล่าวถึงความจำเป็นในการใช้ภาษาอังกฤษในที่ทำงาน แรงจูงใจภายในในการเรียนภาษาอังกฤษ และความมุ่งมั่นในการเรียนภาษาอังกฤษที่คล้ายกัน ในบทบาทของ Supervisor ทีม ดังเช่น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า
“เราทำงานในตำแหน่งนี้ เราก็ควรจะได้ภาษาอังฤษตามที่เขาตั้งเกณฑ์ไว้ นี่ผลสอบ TOEIC ยังไม่ผ่านเลยนะ...เราต้องทำงานสนับสนุนรุ่นน้องๆ เราต้องทำให้ได้ดีกว่านี้” “ถึงภาษาเราได้แค่นี้ตอนนี้ โดยรวมประสิทธิภาพของงานเรายังไปได้ งานยังไปได้ ไม่เป็นอุปสรรค แต่ถ้าภาษาเราพัฒนาขึ้น เราจะสื่อสารได้เร็วขึ้น ทันท่วงที คล่องขึ้น เวลามีประชุมเราก็สามารถบอกทุกสิ่งอย่างที่เราต้องการจะนำเสนอได้” “คิดว่าต้องเรียนจริงจังให้มันแบบ effective... ถ้าสอบผ่าน จะเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่ง...น่าจะได้เรียนภาษาอังกฤษอีกทีปีหน้า เพราะติดเรียนอย่างอื่นอยู่ เรียนหลายอย่างไม่ไหว”
เจ้าหน้าที่อีกคนเล่าว่า
“เราต้องตรวจงาน ทำรายงานภาษาอังกฤษ บางครั้งก็ต้องช่วยทีมเรื่องภาษาอังกฤษ...แม้ว่าผลสอบ TOEIC ยังไม่ผ่าน แต่ไม่หมดกำลังใจ เพราะเรายังสื่อสารรู้เรื่อง ข้อสอบไม่ได้วัดความสามาถเราทั้งหมด และยังอยากเรียนต่อ เรียนพูด มองหาหลักสูตรเรียนอยู่ กำลังพยายามจัดการเวลาให้ไปเรียนได้อยู่”

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่บางคนที่สอบ TOEIC ผ่านเกณฑ์ตำแหน่งแล้ว ก็ยังสนใจเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เพราะ
“อยากพูดให้ได้ดีกว่านี้ คล่องกว่านี้ อยากพูดให้ได้เหมือนพูดภาษาไทย” “อยากพูดให้ได้แบบเป็นธรรมชาติมากกว่าพูดแบบจำ...อยากอยู่ในสถานการณ์ที่เราสื่อสารภาษาอังกฤษได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นช่วย”

สำหรับผู้ให้ข้อมูลในกลุ่มพยาบาล ทุกคนกล่าวว่ายังมีแรงจูงใจมีความสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษ แต่เนื่องจากความจำเป็น ในการใช้ภาษาอังกฤษน้อยกว่ากลุ่ม Monitor และ Coordinator ความมุ่งมั่นในการเรียนภาษาอังกฤษและลักษณะของความสนใจในการเรียนจึงแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของ ความรู้สึกภายในต่อตนเองในการใช้ภาษาอังกฤษ และการบริหารจัดการเวลาเรียน เวลาทำงาน และเวลาส่วนตัว ดังเช่น A Research Nurse มีความตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ เพราะรู้สึกเกรงใจที่ต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน
“ถ้าต้องใช้ภาษาอังกฤษยาวๆ เราต้องพึ่งคนอื่น เกรงใจ ไม่อยากให้เขาช่วย อยากทำเอง... เคยส่ง Email ให้หมอ(ชาวต่างชาติ) เขาตอบว่า: I don’t understand. รู้สึกแย่..เราเขียนเขาไม่เข้าใจเหรอ ก็เลยเอาไปให้เพื่อนร่วมงานช่วย...ตอนแรกๆทำงานที่นี่ ก็รู้สึกว่าเราคงทำไม่ได้ แต่เราก็ทำได้ ไม่ใช่ว่าภาษาอังกฤษดีขึ้น แต่ว่ามีคนช่วยมากกว่า...คะแนนสอบ TOEIC ก็ยังไม่ผ่านเกณฑ์ของตำแหน่ง แต่งานเราก็ทำได้ปกติ...แต่ตอนนี้ยังไม่หมดความพยายามนะ...เรากดดันตัวเอง อยากฟังอ่านพูดเขียนได้มากขึ้น ให้สื่อสารไปแล้วเขาเข้าใจ...ที่นี่เขาก็อยากให้เราเรียน ให้เราพัฒนาตัวเอง แต่ไม่ได้กดดัน เพราะเราก็ยังทำงานได้อยู่... คนที่ได้ภาษาอังกฤษ ดูดีมีการศึกษา เราก็อยากเป็นแบบนั้น เรากดดันตัวเอง...หา course เรียนเพิ่มเติมอยู่...”

Research Nurse อีกคนหนึ่งมีความตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษเพราะสนใจทำงานในตำแหน่ง Monitor แต่ยังจัดการเวลาไปเรียนไม่ได้
“สอบ TOEIC ผ่านเกณฑ์ตำแหน่งแล้ว แต่รู้ตัวว่าโดยรวมๆ เรายังอยู่ในระดับปานกลางอยู่.. ในชีวิตจริง เรายังไม่ได้เรื่องฟัง-พูด อย่างที่อยากได้ คืออยากได้แบบคุยรู้เรื่อง เขาถามอะไรตอบได้ทันที ถ้าทำได้จะภูมิใจมาก เราเห็นคนพูดได้ดี เราอยากเป็นแบบนั้น... ถึงเราได้ภาษาอังกฤษเท่านี้ เราก็ทำงานที่รับผิดชอบได้... แต่ถ้าเราได้ภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นเราก็อาจจะได้เสนอให้ขึ้นเป็น Monitor คือภาษาอังกฤษเป็นเกณฑ์หนึ่ง ร่วมกับดูความรับผิดชอบอื่นๆด้วย...ตอนนี้พยายามฝึกด้วยตัวเอง ยังไปสมัครเรียนไม่ได้ เพราะยังหาเวลาไม่ได้ ต้องรอลูกโตก่อน”

ในทางตรงข้าม Research Nurse อีกคนหนึ่ง มีความเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องไปสมัครเรียนภาษาอังกฤษ เพราะยังทำงานได้ปกติ และสามารถเรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานจริงได้ รวมทั้งพอใจกับตำแหน่งปัจจุบัน
“สอบ TOEIC ยังไม่ผ่านเกณณ์ตำแหน่ง... แต่ถ้าประเมินตัวเองในการใช้ภาษาอังกฤษ ก็พอได้ ทำงานได้ ไม่เป็นไร... งานของเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาก... บางคนเขาเห็นเราใช้ภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง เขาก็ไม่ใช้ภาษาอังกฤษกับเรา หรือไม่ก็คุยง่ายๆ” “แรงจูงใจสำคัญมาก ต้องมีแรงจูงใจถึงจะเรียนภาษาอังกฤษได้ ของเรานี่แรงจูงใจไม่เกี่ยวกับเรื่องตำแหน่งอะไร ไม่นะ ทำแค่นี้พอใจแล้ว ไม่ชอบงานตำแหน่งสูงกว่านี้ รับผิดชอบมากกว่านี้... แต่ก็อยากเรียนพูดให้คล่องขึ้น เป็นประโยชน์เวลาเราไปต่างประเทศ แต่ไม่อยากไปเรียนที่โรงเรียน เพราะไม่มีเวลาไปเรียน ต้องดูแลครอบครัว ก็อาศัยเรียนแบบธรรมชาติ อาศัยฟังจากหมอ มันจะคุ้นชิน ”

อย่างไรก็ตามผู้ให้ข้อมูลบางคน กล่าวถึงแรงจูงใจที่เกี่ยวกับ integrativeness บ้างแต่ไม่ชัดเจน เนื่องจากเหตุผลที่กล่าวถึงก็เกี่ยวพันกับแรงจูงใจที่เกี่ยวข้องกัน instrumental อาทิ “ไม่ได้ชอบวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตของฝรั่ง แต่ก็ชอบฟังเพลง ดูหนังฝรั่ง เพื่อฝึกฟังภาษาอังกฤษ” “อยากคุย สื่อสารกับหมอชาวต่างชาติ ที่ไม่ใช่เรื่องคนไข้บ้าง แต่ไม่รู้จะคุยอะไร กลัวว่าถ้าเริ่มแล้วเขาตอบมาเราจะไม่เข้าใจ ยังตื่นเต้นอยู่” “เวลามีชาวต่างชาติ มาประชุมเราก็อยากคุย แลกเปลี่ยนกับเขารู้เรื่องมากขึ้น” “อยากเรียนภาษาอังกฤษให้ได้เหมือนเจ้าของภาษา”

นอกจากนี้ผู้ให้ข้อมูลบางคนแสดงความมุ่
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ผู้ให้ข้อมูลทั้ง 12 คนให้ข้อมูลคล้ายกันว่ามีแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษที่ผ่านมาและวางแผนการเรียนในอนาคตเนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานทั้งการอ่านเขียนเอกสารหรืออีเมลภาษาอังกฤษและสื่อสารกับแพทย์ชาวต่างชาติและเพื่อเป็นการพัฒนาการทำงานในอนาคตอีกทั้งองค์กรก็มีความคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่จะสามาถใช้ภาษาอังกฤษได้เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ผู้ให้ข้อมูลบางคนมีประสบการณ์การไปต่างประเทศจึงมีความสนใจที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อช่วยการสื่อสารเมื่อไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตามการกำหนดแผนที่ชัดเจนในการเรียนภาษาอังกฤษในอนาคตของผู้ให้ข้อมูลนั้นพบว่าสัมพันธ์กับความจำเป็นของการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน ความรู้สึกภายในต่อตนเองในการใช้ภาษาอังกฤษ และการบริหารจัดการเวลาเรียน เวลาทำงาน และเวลาส่วนตัว ผู้ให้ข้อมูลในกลุ่มงาน Monitor และ Coordinator กล่าวถึงความจำเป็นในการใช้ภาษาอังกฤษในที่ทำงาน แรงจูงใจภายในในการเรียนภาษาอังกฤษ และความมุ่งมั่นในการเรียนภาษาอังกฤษที่คล้ายกัน ในบทบาทของ Supervisor ทีม ดังเช่น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า "เราทำงานในตำแหน่งนี้เราก็ควรจะได้ภาษาอังฤษตามที่เขาตั้งเกณฑ์ไว้นี่ผลสอบ TOEIC ยังไม่ผ่านเลยนะ... เราต้องทำงานสนับสนุนรุ่นน้อง ๆ เราต้องทำให้ได้ดีกว่านี้""ถึงภาษาเราได้แค่นี้ตอนนี้โดยรวมประสิทธิภาพของงานเรายังไปได้งานยังไปได้ไม่เป็นอุปสรรคแต่ถ้าภาษาเราพัฒนาขึ้นเราจะสื่อสารได้เร็วขึ้นทันท่วงทีคล่องขึ้นเวลามีประชุมเราก็สามารถบอกทุกสิ่งอย่างที่เราต้องการจะนำเสนอได้""คิดว่าต้องเรียนจริงจังให้มันแบบมีประสิทธิภาพ... ถ้าสอบผ่านจะเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่ง... น่าจะได้เรียนภาษาอังกฤษอีกทีปีหน้าเพราะติดเรียนอย่างอื่นอยู่เรียนหลายอย่างไม่ไหว" เจ้าหน้าที่อีกคนเล่าว่า “เราต้องตรวจงาน ทำรายงานภาษาอังกฤษ บางครั้งก็ต้องช่วยทีมเรื่องภาษาอังกฤษ...แม้ว่าผลสอบ TOEIC ยังไม่ผ่าน แต่ไม่หมดกำลังใจ เพราะเรายังสื่อสารรู้เรื่อง ข้อสอบไม่ได้วัดความสามาถเราทั้งหมด และยังอยากเรียนต่อ เรียนพูด มองหาหลักสูตรเรียนอยู่ กำลังพยายามจัดการเวลาให้ไปเรียนได้อยู่” อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่บางคนที่สอบ TOEIC ผ่านเกณฑ์ตำแหน่งแล้ว ก็ยังสนใจเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เพราะ "อยากพูดให้ได้ดีกว่านี้คล่องกว่านี้อยากพูดให้ได้เหมือนพูดภาษาไทย" "อยากพูดให้ได้แบบเป็นธรรมชาติมากกว่าพูดแบบจำ... อยากอยู่ในสถานการณ์ที่เราสื่อสารภาษาอังกฤษได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นช่วย" สำหรับผู้ให้ข้อมูลในกลุ่มพยาบาลทุกคนกล่าวว่ายังมีแรงจูงใจมีความสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษแต่เนื่องจากความจำเป็นในการใช้ภาษาอังกฤษน้อยกว่ากลุ่มจอภาพและผู้ประสานงานความมุ่งมั่นในการเรียนภาษาอังกฤษและลักษณะของความสนใจในการเรียนจึงแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของความรู้สึกภายในต่อตนเองในการใช้ภาษาอังกฤษและการบริหารจัดการเวลาเรียนเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวดังเช่นเพราะรู้สึกเกรงใจที่ต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานมีความตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษพยาบาลวิจัย “ถ้าต้องใช้ภาษาอังกฤษยาวๆ เราต้องพึ่งคนอื่น เกรงใจ ไม่อยากให้เขาช่วย อยากทำเอง... เคยส่ง Email ให้หมอ(ชาวต่างชาติ) เขาตอบว่า: I don’t understand. รู้สึกแย่..เราเขียนเขาไม่เข้าใจเหรอ ก็เลยเอาไปให้เพื่อนร่วมงานช่วย...ตอนแรกๆทำงานที่นี่ ก็รู้สึกว่าเราคงทำไม่ได้ แต่เราก็ทำได้ ไม่ใช่ว่าภาษาอังกฤษดีขึ้น แต่ว่ามีคนช่วยมากกว่า...คะแนนสอบ TOEIC ก็ยังไม่ผ่านเกณฑ์ของตำแหน่ง แต่งานเราก็ทำได้ปกติ...แต่ตอนนี้ยังไม่หมดความพยายามนะ...เรากดดันตัวเอง อยากฟังอ่านพูดเขียนได้มากขึ้น ให้สื่อสารไปแล้วเขาเข้าใจ...ที่นี่เขาก็อยากให้เราเรียน ให้เราพัฒนาตัวเอง แต่ไม่ได้กดดัน เพราะเราก็ยังทำงานได้อยู่... คนที่ได้ภาษาอังกฤษ ดูดีมีการศึกษา เราก็อยากเป็นแบบนั้น เรากดดันตัวเอง...หา course เรียนเพิ่มเติมอยู่...”Research Nurse อีกคนหนึ่งมีความตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษเพราะสนใจทำงานในตำแหน่ง Monitor แต่ยังจัดการเวลาไปเรียนไม่ได้ “สอบ TOEIC ผ่านเกณฑ์ตำแหน่งแล้ว แต่รู้ตัวว่าโดยรวมๆ เรายังอยู่ในระดับปานกลางอยู่.. ในชีวิตจริง เรายังไม่ได้เรื่องฟัง-พูด อย่างที่อยากได้ คืออยากได้แบบคุยรู้เรื่อง เขาถามอะไรตอบได้ทันที ถ้าทำได้จะภูมิใจมาก เราเห็นคนพูดได้ดี เราอยากเป็นแบบนั้น... ถึงเราได้ภาษาอังกฤษเท่านี้ เราก็ทำงานที่รับผิดชอบได้... แต่ถ้าเราได้ภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นเราก็อาจจะได้เสนอให้ขึ้นเป็น Monitor คือภาษาอังกฤษเป็นเกณฑ์หนึ่ง ร่วมกับดูความรับผิดชอบอื่นๆด้วย...ตอนนี้พยายามฝึกด้วยตัวเอง ยังไปสมัครเรียนไม่ได้ เพราะยังหาเวลาไม่ได้ ต้องรอลูกโตก่อน”
ในทางตรงข้าม Research Nurse อีกคนหนึ่ง มีความเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องไปสมัครเรียนภาษาอังกฤษ เพราะยังทำงานได้ปกติ และสามารถเรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานจริงได้ รวมทั้งพอใจกับตำแหน่งปัจจุบัน
“สอบ TOEIC ยังไม่ผ่านเกณณ์ตำแหน่ง... แต่ถ้าประเมินตัวเองในการใช้ภาษาอังกฤษ ก็พอได้ ทำงานได้ ไม่เป็นไร... งานของเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาก... บางคนเขาเห็นเราใช้ภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง เขาก็ไม่ใช้ภาษาอังกฤษกับเรา หรือไม่ก็คุยง่ายๆ” “แรงจูงใจสำคัญมาก ต้องมีแรงจูงใจถึงจะเรียนภาษาอังกฤษได้ ของเรานี่แรงจูงใจไม่เกี่ยวกับเรื่องตำแหน่งอะไร ไม่นะ ทำแค่นี้พอใจแล้ว ไม่ชอบงานตำแหน่งสูงกว่านี้ รับผิดชอบมากกว่านี้... แต่ก็อยากเรียนพูดให้คล่องขึ้น เป็นประโยชน์เวลาเราไปต่างประเทศ แต่ไม่อยากไปเรียนที่โรงเรียน เพราะไม่มีเวลาไปเรียน ต้องดูแลครอบครัว ก็อาศัยเรียนแบบธรรมชาติ อาศัยฟังจากหมอ มันจะคุ้นชิน ”

อย่างไรก็ตามผู้ให้ข้อมูลบางคน กล่าวถึงแรงจูงใจที่เกี่ยวกับ integrativeness บ้างแต่ไม่ชัดเจน เนื่องจากเหตุผลที่กล่าวถึงก็เกี่ยวพันกับแรงจูงใจที่เกี่ยวข้องกัน instrumental อาทิ “ไม่ได้ชอบวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตของฝรั่ง แต่ก็ชอบฟังเพลง ดูหนังฝรั่ง เพื่อฝึกฟังภาษาอังกฤษ” “อยากคุย สื่อสารกับหมอชาวต่างชาติ ที่ไม่ใช่เรื่องคนไข้บ้าง แต่ไม่รู้จะคุยอะไร กลัวว่าถ้าเริ่มแล้วเขาตอบมาเราจะไม่เข้าใจ ยังตื่นเต้นอยู่” “เวลามีชาวต่างชาติ มาประชุมเราก็อยากคุย แลกเปลี่ยนกับเขารู้เรื่องมากขึ้น” “อยากเรียนภาษาอังกฤษให้ได้เหมือนเจ้าของภาษา”

นอกจากนี้ผู้ให้ข้อมูลบางคนแสดงความมุ่
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ผู้ให้ข้อมูลทั้ง 12 คน
และการบริหารจัดการเวลาเรียนเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวผู้ให้ข้อมูลในกลุ่มงานตรวจสอบและประสานงาน แรงจูงใจภายในในการเรียนภาษาอังกฤษ ในบทบาทของหัวหน้าทีมดังเช่น
นี่ผลสอบ TOEIC เราต้องทำให้ได้ดีกว่านี้ "" ถึงภาษาเราได้แค่นี้ตอนนี้ งานยังไปได้ไม่เป็นอุปสรรค แต่ถ้าภาษาเราพัฒนาขึ้นเราจะสื่อสารได้เร็วขึ้นทันท่วงทีคล่องขึ้น "คิดว่าต้องเรียนจริงจังให้มันแบบที่มีประสิทธิภาพ ... ถ้าสอบผ่าน เพราะติดเรียนอย่างอื่นอยู่ ทำรายงานภาษาอังกฤษ TOEIC ยังไม่ผ่าน แต่ไม่หมดกำลังใจเพราะเรายังสื่อสารรู้เรื่อง และยังอยากเรียนต่อเรียนพูดมองหาหลักสูตรเรียนอยู่ TOEIC ผ่านเกณฑ์ตำแหน่งแล้วก็ยังสนใจเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเพราะ "อยากพูดให้ได้ดีกว่านี้คล่องกว่านี้อยากพูดให้ได้เหมือนพูดภาษาไทย" แต่เนื่องจากความจำเป็นในการใช้ภาษาอังกฤษน้อยกว่ากลุ่มตรวจสอบและประสานงาน และการบริหารจัดการเวลาเรียนเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวดังเช่นวิจัยพยาบาลมีความตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ เราต้องพึ่งคนอื่นเกรงใจไม่อยากให้เขาช่วยอยากทำเอง ... เคยส่ง Email ให้หมอ (ชาวต่างชาติ) เขาตอบว่า: ฉันไม่เข้าใจ ก็รู้สึกว่าเราคงทำไม่ได้ แต่เราก็ทำได้ไม่ใช่ว่าภาษาอังกฤษดีขึ้นแต่ว่ามีคนช่วยมากกว่า ... คะแนนสอบ TOEIC ก็ยังไม่ผ่านเกณฑ์ของตำแหน่ง อยากฟังอ่านพูดเขียนได้มากขึ้น ให้เราพัฒนาตัวเอง แต่ไม่ได้กดดันเพราะเราก็ยังทำงานได้อยู่ ... คนที่ได้ภาษาอังกฤษดูดีมีการศึกษาเราก็อยากเป็นแบบนั้นเรากดดันตัวเอง ... หาหลักสูตรเรียนเพิ่มเติมอยู่ ... "พยาบาลวิจัย ตรวจสอบ แต่ยังจัดการเวลาไปเรียนไม่ได้"สอบ TOEIC ผ่านเกณฑ์ตำแหน่งแล้ว แต่รู้ตัวว่าโดยรวม ๆ เรายังอยู่ในระดับปานกลางอยู่ .. ในชีวิตจริงเรายังไม่ได้เรื่องฟัง - พูดอย่างที่อยากได้คืออยากได้แบบ คุยรู้เรื่องเขาถามอะไรตอบได้ทันทีถ้าทำได้จะภูมิใจมากเราเห็นคนพูดได้ดีเราอยากเป็นแบบนั้น ... ถึงเราได้ภาษาอังกฤษเท่านี้เราก็ทำงานที่รับผิดชอบได้ ... ตรวจสอบคือภาษาอังกฤษเป็นเกณฑ์หนึ่ง ยังไปสมัครเรียนไม่ได้เพราะยังหาเวลาไม่ได้ต้องรอลูกโตก่อน "ในทางตรงข้ามการวิจัยพยาบาลอีกคนหนึ่ง เพราะยังทำงานได้ปกติ รวมทั้งพอใจกับตำแหน่งปัจจุบัน"สอบ TOEIC ยังไม่ผ่านเก ณ ณ์ตำแหน่ง ... ก็พอได้ทำงานได้ไม่เป็นไร ... งานของเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมาก ... เขาก็ไม่ใช้ภาษาอังกฤษกับเราหรือไม่ก็คุยง่ายๆ "" แรงจูงใจสำคัญมาก ไม่นะทำแค่นี้พอใจแล้วไม่ชอบงานตำแหน่งสูงกว่านี้รับผิดชอบมากกว่านี้ ... แต่ก็อยากเรียนพูดให้คล่องขึ้นเป็นประโยชน์เวลาเราไปต่างประเทศ แต่ไม่อยากไปเรียนที่โรงเรียนเพราะไม่มีเวลาไปเรียนต้องดูแลครอบครัว ก็อาศัยเรียนแบบธรรมชาติอาศัยฟังจากหมอมันจะคุ้นชิน "อย่างไรก็ตามผู้ให้ข้อมูลบางคนกล่าวถึงแรงจูงใจที่เกี่ยวกับintegrativeness บ้าง แต่ไม่ชัดเจน เครื่องมืออาทิ แต่ก็ชอบฟังเพลงดูหนังฝรั่งเพื่อฝึกฟังภาษาอังกฤษ "" อยากคุยสื่อสารกับหมอชาวต่างชาติที่ไม่ใช่เรื่องคนไข้บ้าง แต่ไม่รู้จะคุยอะไร ยังตื่นเต้นอยู่ "" เวลามีชาวต่างชาติมาประชุมเราก็อยากคุยแลกเปลี่ยนกับเขารู้เรื่องมากขึ้น "

















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ผู้ให้ข้อมูลทั้ง 12 คนให้ข้อมูลคล้ายกันว่ามีแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษที่ผ่านมาและวางแผนการเรียนในอนาคตและเพื่อเป็นการพัฒนาการทำงานในอนาคตอีกทั้งองค์กรก็มีความคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่จะสามาถใช้ภาษาอังกฤษได้เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ผู้ให้ข้อมูลบางคนมีประสบการณ์การไปต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามการกำหนดแผนที่ชัดเจนในการเรียนภาษาอังกฤษในอนาคตของผู้ให้ข้อมูลนั้นพบว่าสัมพันธ์กับความจำเป็นของการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานความรู้สึกภายในต่อตนเองในการใช้ภาษาอังกฤษเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวผู้ให้ข้อมูลในกลุ่มงานตรวจสอบและผู้ประสานงานกล่าวถึงความจำเป็นในการใช้ภาษาอังกฤษในที่ทำงานแรงจูงใจภายในในการเรียนภาษาอังกฤษและความมุ่งมั่นในการเรียนภาษาอังกฤษที่คล้ายกันในบทบาทของทีมดังเช่นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า
" เราทำงานในตำแหน่งนี้เราก็ควรจะได้ภาษาอังฤษตามที่เขาตั้งเกณฑ์ไว้นี่ผลสอบ TOEIC ยังไม่ผ่านเลยนะ . . . . . . .เราต้องทำงานสนับสนุนรุ่นน้องๆเราต้องทำให้ได้ดีกว่านี้ " ถึงภาษาเราได้แค่นี้ตอนนี้โดยรวมประสิทธิภาพของงานเรายังไปได้งานยังไปได้ไม่เป็นอุปสรรคแต่ถ้าภาษาเราพัฒนาขึ้นเราจะสื่อสารได้เร็วขึ้นทันท่วงทีเวลามีประชุมเราก็สามารถบอกทุกสิ่งอย่างที่เราต้องการจะนำเสนอได้ " คิดว่าต้องเรียนจริงจังให้มันแบบมีประสิทธิภาพ. . . . . . . ถ้าสอบผ่านจะเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่ง . . . . . . . น่าจะได้เรียนภาษาอังกฤษอีกทีปีหน้าเพราะติดเรียนอย่างอื่นอยู่เรียนหลายอย่างไม่ไหว "

เจ้าหน้าที่อีกคนเล่าว่า" เราต้องตรวจงานทำรายงานภาษาอังกฤษบางครั้งก็ต้องช่วยทีมเรื่องภาษาอังกฤษ . . . . . . .
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: