Understanding consumers' high-risk

Understanding consumers' high-risk food consumption patterns and food handling in the home is critical in reducing foodborne illness. This study was conducted to determine the prevalence of unsafe food practices of individuals in a Canadian-based population, specifically, high-risk food consumption and home food safety practices. During November 2005 to March 2006, a sample of 2,332 randomly selected residents of the Waterloo Region (Ontario, Canada) participated in a telephone survey of food consumption and food safety. Questions covered consumption of high-risk foods, hand washing practices, safe food handling knowledge, source of food safety education, meat thawing and cooking practices, cross-contamination after raw food preparation, and refrigeration temperatures. Certain high-risk food behaviors were common among respondents and were associated with demographic characteristics. In general, unsafe practices increased with increasing total annual household income level. Males were more likely to report engaging in risky practices than were females. Specific high-risk behaviors of public health concern were reported by elderly individuals (e.g., consuming undercooked eggs), children (e.g., consuming chicken nuggets), and rural residents (e.g., drinking unpasteurized milk). Respondents appeared to know proper food safety practices, but did not put them into practice. Thus, educational programs emphasizing specific practices to improve food safety should be directed to targeted audiences, and they should stress the importance of consumer behavior in the safety of foods prepared at home. Further investigation of consumer perceptions is needed to design such programs to effectively increase the implementation of safe food practices by consumers

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เข้าใจรูปแบบการบริโภคอาหารที่มีความเสี่ยงสูงและอาหารการจัดการในบ้านของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญในการลดพิษ ดำเนินการวิจัยนี้เพื่อตรวจสอบความชุกของการปฏิบัติการอาหารปลอดภัยของบุคคลในประชากรจากแคนาดา โดยเฉพาะ อาหารที่มีความเสี่ยงสูงและแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยอาหารบ้าน ระหว่าง 2548 พฤศจิกายน-2549 มีนาคม ตัวอย่างแบบสุ่ม 2,332 ชาวภูมิภาควอเตอร์ลู (ออนตาริโอ แคนาดา) เข้าร่วมในการสำรวจโทรศัพท์ของอาหารและความปลอดภัยของอาหาร คำถามครอบคลุมการบริโภคอาหารที่มีความเสี่ยงสูง วิธีซักผ้ามือ ความรู้การจัดการอาหารปลอดภัย แหล่งที่มาของการศึกษาความปลอดภัยอาหาร ละลายเนื้อ และอาหารปฏิบัติ เปื้อนหลังจากการเตรียมวัตถุดิบอาหาร และเครื่องทำความเย็นอุณหภูมิ พฤติกรรมบางอย่างอาหารที่มีความเสี่ยงสูงได้ทั่วไปในหมู่ผู้ตอบ และเกี่ยวข้องกับลักษณะทางประชากรศาสตร์ ทั่วไป แนวทางปฏิบัติที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มระดับรายได้ครัวเรือนต่อปีรวม เพศชายมีโอกาสรายงานร่วมปฏิบัติความเสี่ยงสูงกว่าหญิง พฤติกรรมมีความเสี่ยงสูงโดยเฉพาะสาธารณสุขกังวลถูกรายงาน โดยอายุ (เช่น บริโภคโยเกิร์ตไข่), เด็ก (เช่น นักเก็ตไก่นานที่), และชนบท (เช่น ดื่ม unpasteurized นม) ตอบปรากฏการ ทราบแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยอาหารที่เหมาะสม แต่ไม่ได้ใส่พวกเขาไปสู่การปฏิบัติ ดังนั้น หลักสูตรการศึกษาที่เน้นเฉพาะแนวทางการปรับปรุงความปลอดภัยของอาหารที่ควรรับเป้าหมายผู้ชม และพวกเขาควรย้ำความสำคัญของพฤติกรรมผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยของอาหารที่เตรียมไว้ที่บ้าน การสืบสวนเพิ่มเติมการรับรู้ของผู้บริโภคที่ต้องออกแบบโปรแกรมดังกล่าวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของการปฏิบัติที่ปลอดภัย โดยผู้บริโภค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทำความเข้าใจของผู้บริโภคที่มีความเสี่ยงสูงรูปแบบการบริโภคอาหารและการจัดการในบ้านเป็นสิ่งสำคัญในการลดการเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหาร การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกของการปฏิบัติอาหารที่ไม่ปลอดภัยของบุคคลในประชากรแคนาดาตามโดยเฉพาะมีความเสี่ยงสูงการบริโภคอาหารและอาหารบ้านปฏิบัติด้านความปลอดภัย ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2005 ถึงเดือนมีนาคม 2006 นี้เป็นตัวอย่างของผู้อยู่อาศัย 2,332 สุ่มเลือกของภาควอเตอร์ (แคนาดา) เข้าร่วมในการสำรวจทางโทรศัพท์ของการบริโภคอาหารและความปลอดภัยของอาหาร คำถามบริโภคครอบคลุมของอาหารที่มีความเสี่ยงสูง, การปฏิบัติล้างมือความรู้การจัดการอาหารปลอดภัยในแหล่งที่มาของการศึกษาความปลอดภัยของอาหารที่ละลายเนื้อและการปฏิบัติที่ปรุงอาหารปนเปื้อนหลังการเตรียมอาหารดิบและอุณหภูมิเครื่องทำความเย็น พฤติกรรมอาหารมีความเสี่ยงสูงบางอย่างร่วมกันระหว่างผู้ตอบแบบสอบถามและมีความสัมพันธ์กับลักษณะทางประชากร โดยทั่วไปการปฏิบัติที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มขึ้นรวมประจำปีระดับรายได้ของครัวเรือน เพศชายมีแนวโน้มที่จะรายงานการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติที่มีความเสี่ยงมากกว่าเพศหญิง พฤติกรรมที่มีความเสี่ยงสูงที่เฉพาะเจาะจงของความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนได้รับรายงานจากผู้สูงอายุ (เช่นการบริโภคไข่สุก) เด็ก (เช่นการบริโภคไก่นักเก็ต) และชาวชนบท (เช่นการดื่มนม unpasteurized) ผู้ตอบแบบสอบถามที่ดูเหมือนจะรู้ว่าปฏิบัติด้านความปลอดภัยอาหารที่เหมาะสม แต่ไม่ได้นำพวกเขาไปสู่​​การปฏิบัติ ดังนั้นโปรแกรมการศึกษาที่เน้นการปฏิบัติที่เฉพาะเจาะจงในการปรับปรุงความปลอดภัยของอาหารควรถูกนำไปผู้ชมเป้าหมายและพวกเขาควรเน้นความสำคัญของพฤติกรรมผู้บริโภคในด้านความปลอดภัยของอาหารที่เตรียมไว้ที่บ้าน ตรวจสอบต่อไปของการรับรู้ของผู้บริโภคเป็นสิ่งจำเป็นในการออกแบบโปรแกรมดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นการดำเนินงานของการปฏิบัติอาหารที่ปลอดภัยของผู้บริโภค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเข้าใจของผู้บริโภคมีรูปแบบการบริโภคอาหาร และการจัดการอาหารในบ้านเป็นสิ่งสำคัญในการลดการไม่สบายจากอาหารเป็นพิษ การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกของความไม่ปลอดภัยอาหารการปฏิบัติของแต่ละบุคคลในแคนาดาที่ใช้ประชากร โดยเฉพาะการบริโภคและการปฏิบัติด้านความปลอดภัยอาหารอาหารที่มีความเสี่ยงสูง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2548 ถึงมีนาคม 2549 จำนวน 1 สุ่มที่อาศัยอยู่ใน วอเตอร์ลู เขต ( Ontario , แคนาดา ) มีส่วนร่วมในการโทรศัพท์การสำรวจการบริโภคอาหารและความปลอดภัยของอาหาร คำถามที่ครอบคลุมการบริโภคอาหารที่มีความเสี่ยงสูง การล้างมือ การปฏิบัติ อาหารปลอดภัย จัดการความรู้ แหล่งศึกษาความปลอดภัยของอาหารการปรุงอาหารเนื้อสัตว์และการปฏิบัติการปนเปื้อนข้ามหลังเตรียมอาหาร และอุณหภูมิแช่แข็ง อาหารที่มีความเสี่ยงสูง พฤติกรรมบางอย่างทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม และเกี่ยวข้องกับลักษณะประชากร ในทั่วไป , การปฏิบัติที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นตามรายได้รวมของครัวเรือน . ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะรายงานการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติที่เสี่ยงกว่าเพศหญิง โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงของปัญหาสาธารณสุข ได้รับรายงาน โดยผู้สูงอายุ ( เช่น การบริโภคไข่สุก ) , เด็ก ( เช่น การบริโภคไก่นักเก็ต ) และผู้อยู่อาศัยในชนบท เช่น การดื่มนม unpasteurized ) ผู้ตอบแบบสอบถามปรากฏให้ทราบแนวทางปฏิบัติอาหารปลอดภัยที่เหมาะสม แต่ไม่ได้ใส่ลงในการปฏิบัติ ดังนั้น โปรแกรมการศึกษาที่เน้นเฉพาะการปฏิบัติเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของอาหารควรมีทิศทางเป้าหมายผู้ชมและพวกเขาควรเน้นความสำคัญของพฤติกรรมของผู้บริโภคในด้านความปลอดภัยของอาหารที่เตรียมไว้ที่บ้าน การสอบสวนเพิ่มเติมอีก ผู้บริโภคจะต้องออกแบบโปรแกรมดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพเพิ่มการใช้แนวทางปฏิบัติอาหารปลอดภัยโดยผู้บริโภค