Antoine-Henri Becquerel studied at

Antoine-Henri Becquerel studied at the Ecole Polytechnique. In 1875 he joined the department of roads and bridges, and came to chief engineer in 1894. In 1892 he succeeded his father to the chair of the Musée d'Histoire Naturelle, and in 1895 came a professor at the École Polytechnique.

Continued studies of his father, and the discovery of X-rays by Roentgen (1896) did Antoine Henri Becquerel thought that this new radiation could be related to the fluorescence and fosforescè , nce.

Conduct experiments in such fields accidentally discovered that a compound of uranium Velaves photographic plates wrapped in black paper being placed upon them, and Antoine-Henri Becquerel deduced that this phenomenon was characteristic of the atom of the element, thus discovering the natural radioactivity.

Later, Antoine-Henri Becquerel showed that, with the assumption, the radiation Velaves plate does not consist in X-rays, but three types of radiation: a, β and γ. This research earned him the Nobel Prize for physics in 1903, which he shared with Curie.

He also studied the polarization and absorption of light in crystals.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เบ็กเกอเรล Antoine Henri ศึกษาที่ Polytechnique ได้รับ ใน 1875 เขาร่วมแผนกของถนนและสะพาน และมาพร้อมกับหัวหน้าวิศวกรใน 1894 ใน 1892 เขาสำเร็จบิดาให้เก้าอี้ของพิพิธ d'Histoire Naturelle และในปีค.ศ. 1895 มาอาจารย์ที่ École Polytechniqueต่อการศึกษาของบิดาของเขา และการค้นพบรังสีเอกซ์โดย Roentgen (1896) คุณ Antoine Henri เบ็กเกอเรลคิดว่า รังสีใหม่นี้อาจจะเกี่ยวข้องกับสารเรืองแสง และ fosforescè, nceการทดลองกระทำในเขตดังกล่าวตั้งใจพบว่า สารประกอบของยูเรเนียม Velaves แผ่นถ่ายห่อด้วยกระดาษสีดำที่อยู่กับพวกเขา และเบ็กเกอเรล Antoine Henri deduced ว่า ปรากฏการณ์นี้เป็นลักษณะของอะตอมของธาตุ จึง ค้นพบภัยธรรมชาติในภายหลัง เบ็กเกอเรล Antoine Henri แสดงให้เห็นว่า กับอัสสัมชัญ รังสี Velaves จานประกอบด้วยในรังสีเอกซ์ รังสีสามชนิด: a β และγ งานวิจัยนี้ได้รับเขาโนเบลสาขาฟิสิกส์ใน 1903 ซึ่งเขาร่วมกับกูรีเขายังศึกษาโพลาไรซ์และการดูดซึมของแสงในผลึก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Antoine-Henri Becquerel ศึกษาที่École Polytechnique ในปี 1875 เขาได้เข้าร่วมกรมทางหลวงและสะพานและมาถึงหัวหน้าวิศวกรใน 1,894 ใน 1,892 เขาประสบความสำเร็จพ่อของเขาให้เก้าอี้ของ Musee d'Histoire Naturelle และในปี 1895 มาอาจารย์ที่École Polytechnique ได้. การศึกษาต่อเนื่องของ พ่อของเขาและการค้นพบรังสีเอกซ์โดยเอกซเรย์ (1896) ได้ Antoine Henri Becquerel คิดว่ารังสีใหม่นี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการเรืองแสงและfosforescè, nce. ดำเนินการทดลองในสาขาดังกล่าวโดยบังเอิญค้นพบว่าสารประกอบของยูเรเนียม Velaves แผ่นฟิล์ม ห่อด้วยกระดาษสีดำถูกวางอยู่บนพวกเขาและแอนทอน-Henri Becquerel อนุมานได้ว่าปรากฏการณ์นี้เป็นลักษณะของอะตอมของธาตุจึงค้นพบกัมมันตภาพรังสีธรรมชาติ. ต่อมา Antoine-Henri Becquerel แสดงให้เห็นว่าด้วยสมมติฐานที่แผ่น Velaves รังสี ไม่ได้ประกอบด้วยในรังสีเอกซ์ แต่สามประเภทของการฉายรังสี: A, βและγ การวิจัยครั้งนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1903 ซึ่งเขาร่วมกับ Curie. เขายังศึกษาโพลาไรซ์และการดูดซึมของแสงในผลึก