Many of the differences were relate

Many of the differences were related to skills both students and employers believe are necessary. For example, 65 percent of the students felt their writing skills were strong enough for the professional world. But only 27 percent of employers said college students were well-prepared with that skill.

Another example is the students’ ability to work with persons with whom they have little in common. The study showed 55 percent of students felt they were well prepared in this area. But only 18 percent of employers felt the same.

Debra Humphreys is the senior vice president for academic planning and public engagement at the Association of American Colleges and Universities. She says there are several reasons why these differences in opinion exist.

For one thing, she says, the beliefs of both employers and students are unrealistic. Employers are not valuing the skills students offer as much as they should, she says. Also, students may feel they are more prepared than they actually are.

Another reason is that the American economy has changed and employers are asking more of their employees than ever before, she says. Technology helps workers do more with less. The current generation of college students is highly skilled with technology. But there is a limit to what employers can expect from a young person with little professional experience, Humphreys says.

She adds that some college professors or other faculty have not given enough thought to how the classes they will teach will help students find jobs or be good employees.

"We have to do a much better job of talking to students much earlier about what employers are expecting, so that students themselves know earlier in their college careers that these are things they need to work on more than once and over time they need to hone these skills. And then I also think we don’t do a very good job in higher education of really intentionally helping students prepare for and make that transition from college to career.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความแตกต่างมากมายเกี่ยวข้องกับทักษะนักเรียนและนายจ้างเชื่อว่า มีความจำเป็น เช่น 65 เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนรู้สึกว่า ทักษะการเขียนได้แข็งแกร่งพอสำหรับโลกแห่งอาชีพ แต่เพียงร้อยละ 27 ของนายจ้างกล่าวว่า นักศึกษาวิทยาลัยเตรียมพร้อมทักษะนั้นอีกตัวอย่างหนึ่งคือ ความสามารถในการทำงานกับคนที่พวกเขามีน้อยเหมือนกัน การศึกษาพบว่า ร้อยละ 55 ของนักเรียนรู้สึกว่า พวกเขาได้เตรียมความพร้อมในพื้นที่นี้ แต่รู้สึกเพียง 18 เปอร์เซ็นต์ของนายจ้างเดียวกันเอ็มเดบร้าเป็นรองประธานอาวุโสสำหรับการวางแผนการศึกษาและมีส่วนร่วมของสาธารณะที่สมาคมอเมริกันวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย เธอบอกว่า มีหลายเหตุผลว่าทำไมมีความแตกต่างเหล่านี้ในความคิดสำหรับสิ่งหนึ่ง ว่า ความเชื่อของทั้งนายจ้างและนักเรียนจะไม่สมจริง นายจ้างจะประเมินค่าทักษะนักเรียนให้มากเท่าที่ควร เธอกล่าว ยัง นักเรียนอาจรู้สึกว่า พวกเขาจะพร้อมกว่าเป็นจริงอีกเหตุผลหนึ่งคือ มีการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจอเมริกัน และนายจ้างจะสอบถามเพิ่มเติมของพนักงานของพวกเขาเคยมีมาก่อน เธอกล่าว เทคโนโลยีช่วยให้แรงงานทำได้มากขึ้นด้วย รุ่นปัจจุบันของนักศึกษามหาวิทยาลัยเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้วยเทคโนโลยี แต่มีข้อจำกัดว่านายจ้างสามารถคาดหวังจากคนหนุ่มที่มีประสบการณ์การทำงานน้อย เอ็มกล่าวว่าเธอเพิ่มว่า บางอาจารย์วิทยาลัยหรือคณะอื่น ๆ ไม่ได้ให้เพียงพอคิดว่า จะเรียนที่พวกเขาจะสอนจะช่วยนักศึกษาหางาน หรือเป็นพนักงานที่ดี"เราต้องทำผลงานดีของการพูดคุยกับนักเรียนมากก่อนหน้านี้เกี่ยวกับสิ่งที่นายจ้างคาดหวังว่า เพื่อให้ได้ทราบว่าก่อนหน้านี้ในอาชีพวิทยาลัยที่เหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการใช้งานมากกว่าหนึ่งครั้ง และช่วงเวลา ที่พวกเขาต้องฝึกฝนทักษะเหล่านี้ แล้ว ผมยังคิดว่า เราไม่ทำงานดีมากในระดับอุดมศึกษาจริง ๆ ตั้งใจช่วยให้นักเรียนเตรียม และทำการเปลี่ยนแปลงจากวิทยาลัยการอาชีพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลายของความแตกต่างที่เกี่ยวข้องกับทักษะทั้งนักเรียนและนายจ้างเชื่อว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น ยกตัวอย่างเช่นร้อยละ 65 ของนักเรียนรู้สึกว่าทักษะการเขียนของพวกเขาแข็งแกร่งพอสำหรับโลกมืออาชีพ แต่มีเพียงร้อยละ 27 ของนายจ้างกล่าวว่านักศึกษาที่ถูกดีพร้อมกับทักษะที่.

อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือความสามารถของนักเรียนในการทำงานร่วมกับคนที่พวกเขามีน้อยเหมือนกัน การศึกษาแสดงให้เห็นว่าร้อยละ 55 ของนักเรียนรู้สึกว่าพวกเขากำลังเตรียมพร้อมที่ดีในพื้นที่นี้ แต่มีเพียงร้อยละ 18 ของนายจ้างรู้สึกเดียวกัน.

เดบร้าฮัมเฟรย์เป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายการวางแผนทางวิชาการและการมีส่วนร่วมของประชาชนที่สมาคมวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยอเมริกัน เธอบอกว่ามีเหตุผลหลายประการที่แตกต่างเหล่านี้มีอยู่ในความคิด.

สำหรับสิ่งหนึ่งที่เธอบอกว่าความเชื่อของนายจ้างทั้งสองและนักเรียนมีความสมจริง นายจ้างไม่มูลค่าทักษะของนักเรียนให้มากที่สุดเท่าที่พวกเขาควรที่เธอบอกว่า นอกจากนี้นักเรียนอาจจะรู้สึกว่าพวกเขากำลังเตรียมมากกว่าที่พวกเขาเป็นจริง.

เหตุผลก็คือว่าเศรษฐกิจอเมริกันมีการเปลี่ยนแปลงและนายจ้างจะถามมากขึ้นของพนักงานของพวกเขามากขึ้นกว่าเดิมที่เธอบอกว่า เทคโนโลยีจะช่วยให้คนงานทำมากน้อย รุ่นปัจจุบันของนักศึกษามีความชำนาญอย่างมากกับเทคโนโลยี แต่มีข้อ จำกัด เกี่ยวกับสิ่งที่นายจ้างสามารถคาดหวังจากคนหนุ่มสาวที่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพน้อยฮัมเฟรย์กล่าว.

เธอเสริมว่าบางอาจารย์วิทยาลัยหรือคณะอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้ให้ความคิดพอที่จะวิธีการเรียนที่พวกเขาจะสอนจะช่วยให้นักเรียนหางานหรือ พนักงานที่ดี.

"เราต้องทำผลงานที่ดีมากของการพูดคุยกับนักเรียนมากก่อนหน้านี้เกี่ยวกับสิ่งที่นายจ้างคาดหวังเพื่อให้นักเรียนตัวเองรู้ว่าก่อนหน้านี้ในการประกอบอาชีพวิทยาลัยของพวกเขาว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการที่จะทำงานในมากกว่าหนึ่งครั้งและช่วงเวลาที่พวกเขา ต้องฝึกฝนทักษะเหล่านี้. แล้วผมยังคิดว่าเราไม่ได้ทำงานที่ดีมากในการศึกษาที่สูงขึ้นของมันจงใจช่วยให้นักเรียนเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงและทำให้ว่าจากวิทยาลัยการอาชีพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มากที่แตกต่างกันที่เกี่ยวข้องกับทักษะทั้งนักเรียนและนายจ้างเชื่อว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น ตัวอย่าง ร้อยละ 65 ของนักเรียนรู้สึกของพวกเขาทักษะการเขียน แข็งแรงเพียงพอสำหรับโลกมืออาชีพ แต่เพียง 27 เปอร์เซ็นต์ของนายจ้างว่านักศึกษามีความพร้อม ด้วยทักษะนั้นอีกตัวอย่างหนึ่งคือความสามารถของนักเรียนเพื่อทำงานกับผู้ที่มีผู้ที่พวกเขาได้น้อยเหมือนกัน พบว่า นักเรียนร้อยละ 55 ของรู้สึกถูกเตรียมไว้อย่างดีในพื้นที่นี้ แต่เพียงร้อยละ 18 ของนายจ้างก็เหมือนกันเด็บบร้า ฮัมฟรีย์เป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายวางแผนและวิชาการ งานหมั้นที่สมาคมอเมริกันของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย เธอกล่าวว่า มีหลายเหตุผลว่าทำไมเหล่านี้ความแตกต่างในความคิดที่มีอยู่สำหรับสิ่งหนึ่งที่เธอบอกว่า ความเชื่อของทั้งนายจ้างและนักเรียนจะไม่สมจริง นายจ้างจะไม่คุณค่าทักษะนักเรียนให้มากเท่าที่ควร เธอกล่าวว่า นอกจากนี้ นักเรียนอาจจะรู้สึกว่าพวกเขากำลังเตรียมพร้อมมากขึ้นกว่าที่พวกเขาเป็นจริงอีกเหตุผลหนึ่งคือ ว่า เศรษฐกิจอเมริกันมีการเปลี่ยนแปลง และนายจ้างจะถามเพิ่มเติมของพนักงานของพวกเขามากกว่าที่เคย เธอกล่าวว่า เทคโนโลยีช่วยให้คนงานทำมากขึ้นด้วยน้อย รุ่นปัจจุบันของนักศึกษามีทักษะสูง ด้วยเทคโนโลยี แต่ก็มีข้อจำกัด สิ่งที่นายจ้างสามารถคาดหวังจากเด็กหนุ่มที่มีประสบการณ์วิชาชีพน้อย ฮัมฟรีย์กล่าวว่าเธอเสริมว่ามหาวิทยาลัย อาจารย์ หรือคณะอื่นๆไม่ได้รับ พอคิดแล้วคลาสจะสอนจะช่วยให้นักเรียนทำงานหรือเป็นลูกจ้างที่ดี" เราต้องทำงานได้ดีมาก พูดกับนักเรียนมากก่อนหน้านี้เกี่ยวกับสิ่งที่นายจ้างต้องการเพื่อให้นักเรียนรู้จักก่อนหน้านี้ในวิทยาลัยอาชีพของพวกเขาเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องทำมากกว่าหนึ่งครั้ง และเมื่อเวลาที่พวกเขาต้องการที่จะฝึกฝนทักษะเหล่านี้ และผมก็คิดว่าเราไม่ทำงานที่ดีมากในระดับจริงๆตั้งใจช่วยให้นักเรียนเตรียม และให้เปลี่ยน จากวิทยาลัยการอาชีพ