This widespread change in tasks and

This widespread change in tasks and responsibilities across the U.S. public sector in response
to 9-11 may have altered, at least temporarily, the way in which government workers understood
the meaning or value of their work. Moreover, there is evidence to suggest that the significance of
tasks and the meaning of work in general are consequential for job satisfaction and other work
attitudes. Scholars of organizational behavior have long recognized that most people find or seek
meaning in their jobs (Morse & Weiss, 1955) and that they are often motivated by intrinsic rewards
derived from performing work that they see as important (Wright, 2001). Heckman and Oldham’s
(1976) task significance model formally incorporates this notion that the meaningfulness of work,
which includes the social significance of tasks, is a key determinant of general job satisfaction,
and a number of studies over the years provide support for this model (Fried & Ferris, 1987). A
qualitative interview study by Brown and colleagues (Brown et al., 2001), focusing on a mix of
workers, found that “the various meanings employees found in work had an effect on their perceived
levels of job satisfaction” (p. 219). Moreover, evidence from experimental research by
Grant (2008) demonstrates that the significance of work-related tasks causally influences job performance
and work attitudes. In the field of public administration, greater public service motivation
(Perry, 1996)—which includes the dimensions of commitment to the public interest, civic
duty, and self-sacrifice—has been found to be associated with work attitudes and workplace practices
in the public sector (Perry & Hondeghem, 2008; Moynihan, Pandey, & Wright, 2012).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เปลี่ยนแปลงนี้อย่างแพร่หลายในงานและความรับผิดชอบในภาครัฐของสหรัฐอเมริกาในการตอบสนองถึง 9-11 อาจมีเปลี่ยนแปลง น้อยชั่วคราว เข้าใจในแรงงานที่รัฐบาลความหมายหรือค่างาน นอกจากนี้ มีหลักฐานที่สำคัญของงานและความหมายของงานโดยทั่วไปมีต่อความพึงพอใจในงานและงานอื่น ๆทัศนคติ นักวิชาการขององค์การมีจึงรู้ว่า คนส่วนใหญ่ค้นหา หรือค้นหาหมายถึงงานของพวกเขา (มอร์สและมีร์ 1955) และว่า พวกเขาจะมักจะแรงจูงใจ ด้วยรางวัล intrinsicมาทำงานที่เป็นสำคัญ (ไรท์ 2001) Heckman และของโอลดัมรูปแบบความสำคัญของงาน (1976) ประกอบด้วยความคิดนี้อย่างเป็นกิจจะลักษณะที่ meaningfulness งานซึ่งมีความสำคัญทางสังคมของงาน เป็นดีเทอร์มิแนนต์ที่สำคัญของความพึงพอใจในงานทั่วไปและจำนวนปีการศึกษาให้การสนับสนุนสำหรับรูปแบบนี้ (ผัดและชิงช้าสวรรค์ 1987) Aศึกษาสัมภาษณ์เชิงคุณภาพ โดยบราวน์ และผู้ร่วมงาน (Brown และ al., 2001), เน้นผสมแรงงาน พบว่า "พนักงานความหมายต่าง ๆ ที่พบในงานมีการรับรู้ผลการระดับของความพึงพอใจในงาน" (p. 219) นอกจากนี้ หลักฐานจากงานวิจัยทดลองเงินช่วยเหลือ (2008) แสดงให้เห็นว่า ความสำคัญของงานที่เกี่ยวข้องกับงาน causally มีผลต่อประสิทธิภาพของงานและทัศนคติในการทำงาน ในด้านการบริหารราชการ แรงจูงใจของราชการมากขึ้น(Perry, 1996) — ซึ่งมีมิติของความมุ่งมั่นเพื่อประโยชน์สาธารณะ ซีวิคภาษี และการเสียสละตนเองซึ่งได้พบกับงานทัศนคติและการปฏิบัติงานในภาครัฐ (Perry & Hondeghem, 2008 Moynihan, Pandey และ ไรท์ 2012)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเปลี่ยนแปลงนี้อย่างกว้างขวางในการทำงานและความรับผิดชอบในภาครัฐของสหรัฐในการตอบสนองต่อการที่ 9-11 อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อยก็ชั่วคราว, วิธีการที่คนงานของรัฐบาลที่เข้าใจความหมายหรือคุณค่าของการทำงานของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่จะชี้ให้เห็นว่าความสำคัญของงานและความหมายของการทำงานโดยทั่วไปจะเป็นผลสืบเนื่องเพื่อความพึงพอใจในงานและงานอื่น ๆ ที่ทัศนคติ นักวิชาการของพฤติกรรมขององค์กรได้รับการยอมรับมานานแล้วว่าคนส่วนใหญ่พบหรือขอความหมายในงานของพวกเขา (มอร์สและไวสส์, 1955) และพวกเขามักจะมีแรงจูงใจจากผลตอบแทนที่แท้จริงมาจากการปฏิบัติงานที่พวกเขาเห็นว่าสำคัญ(ไรท์, 2001) Heckman และดัม(1976) งานรูปแบบความสำคัญอย่างเป็นทางการรวมเอาความคิดนี้ว่าคุณค่าของการทำงานซึ่งรวมถึงความสำคัญทางสังคมของงานเป็นปัจจัยสำคัญของการพึงพอใจในงานทั่วไปและจำนวนของการศึกษาในช่วงหลายปีให้การสนับสนุนสำหรับรุ่นนี้( ทอดและชิงช้าสวรรค์, 1987) ศึกษาการสัมภาษณ์เชิงคุณภาพโดยบราวน์และเพื่อนร่วมงาน (สีน้ำตาล et al., 2001) โดยมุ่งเน้นที่การผสมผสานของคนงานพบว่า"ความหมายที่แตกต่างกันพนักงานที่พบในการทำงานที่มีผลต่อการรับรู้ของพวกเขาระดับของความพึงพอใจในงาน" (พี. 219) . นอกจากนี้ยังมีหลักฐานจากการวิจัยเชิงทดลองโดยแกรนท์ (2008) แสดงให้เห็นว่าความสำคัญของงานที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเหตุผลที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานและทัศนคติการทำงาน ในด้านการบริหารจัดการภาครัฐแรงจูงใจมากขึ้นการบริการสาธารณะ(Perry, 1996) รวมถึง -which มิติของความมุ่งมั่นเพื่อประโยชน์สาธารณะเทศบาลหน้าที่และความเสียสละได้รับพบว่ามีความสัมพันธ์กับทัศนคติในการทำงานและการปฏิบัติในสถานที่ทำงานในภาครัฐ (เพอร์รี่และ Hondeghem 2008; มอยนิฮา, Pandey และไรท์ 2012)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นี้อย่างกว้างขวางเปลี่ยนในงานและความรับผิดชอบทั้งภาครัฐของสหรัฐฯ ในการตอบสนองการจัดอาจจะเปลี่ยนไป อย่างน้อยก็ชั่วคราว วิธีการที่รัฐบาลคนงานเข้าใจความหมายหรือคุณค่าของงานของพวกเขา นอกจากนี้ มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าความสำคัญของหน้าที่และความหมายของงานโดยทั่วไปเป็นสำคัญ สำหรับความพึงพอใจในงาน และงานอื่นๆทัศนคติ นักวิชาการของพฤติกรรมองค์การมีความยาวได้รับการยอมรับว่าคนส่วนใหญ่ค้นหา หรือค้นหาความหมายในงานของตน ( มอร์ส & Weiss , 1955 ) และที่พวกเขามักจะมีแรงจูงใจจากรางวัลที่แท้จริงที่ได้มาจากการปฏิบัติงานที่เห็นเป็นสำคัญ ( Wright , 2001 ) และของเ คแมนดัม( 1976 ) รุ่นความสำคัญงานอย่างเป็นทางการประกอบด้วยความคิดนี้ว่า ค่าของงานซึ่งรวมถึงความสำคัญของสังคมงาน เป็นปัจจัยที่สำคัญของความพึงพอใจในงานทั่วไปและงานวิจัยปีให้การสนับสนุนสำหรับรุ่นนี้ ( ทอด & Ferris , 1987 ) เป็นศึกษาเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์สีน้ำตาลและเพื่อนร่วมงาน ( สีน้ำตาล et al . , 2001 ) , เน้นการผสมของคน พบว่า หลายๆ คน " ความหมายที่พบในงานที่มีผลต่อการรับรู้ของพวกเขาระดับของความพึงพอใจในงาน " ( หน้า 219 ) นอกจากนี้ หลักฐานจากการทดลองโดยแกรนท์ ( 2551 ) แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของงานงานตามลำพังของการปฏิบัติงานและทัศนคติในการทำงาน ในสาขารัฐประศาสนศาสตร์ แรงจูงใจ การให้บริการประชาชนมากขึ้น( เพอรี่ , 1996 ) ซึ่ง รวมถึงมิติของความมุ่งมั่นเพื่อสาธารณประโยชน์ ซีวิคหน้าที่ และการเสียสละของตนเองได้ว่ามีความสัมพันธ์กับทัศนคติและการปฏิบัติงานที่ทำงานในภาครัฐ ( Perry & hondeghem , 2008 ; ซึ่งเดย์ & Wright , 2012 )