Empirical Assessment of the Causal

Empirical Assessment of the Causal Model
THE RELATIONSHIP AMONG THE FIVE SISP FACTORS was examined using structural
equation modeling within the LISREL VII framework [32] .* LISREL is a second-generation,
multivariate technique that can be used to estimate the parameters of causal
models. Second-generation techniques recognize two components of a causal model:
the measurement model and the structural model. The measurement model consists
of the relationships between the constructs and the items used to measure them. It
recognizes that observed measurements are only indirect estimates of the actual constructs,
which are latent or unobservable. The structural model consists of the unobservable
constructs and the theoretical relationships (i.e., the paths) between them.
Thus, LISREL involves constructing a model, estimating its parameters from the
data, and testing the fit of the model to the data by comparing the observed correlations
with the correlations among the variables predicted by the model [17]. LISREL can
handle errors in measurement, correlated errors and residuals, and reciprocal correlations.
It uses maximum likelihood estimation, a full infonnation approach in which it
estimates all parameters simultaneously.
The SISP factors in this study represented latent variables measured by the items shown
in Table 3. Figure 1 shows the hypothesized causal relationship among the factors.
Organization was hypothesized as an exogenous variable (variables that cause other
variables and are assumed to be determined by causes outside the model). Hardware,
Database, Cost, and Implementation were hypothesized as endogenous variables.
The structural equation model used for the analysis is written as:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเมินผลของแบบจำลองเชิงสาเหตุความสัมพันธ์ระหว่างห้า SISP ปัจจัยถูกตรวจสอบโดยใช้โครงสร้างสมการโมเดลภายใต้กรอบ LISREL VII [32] . * LISREL เป็น second-generationเทคนิคที่สามารถใช้การประมาณพารามิเตอร์เชิงสาเหตุของ ตัวแปรพหุรูปแบบจำลอง เทคนิค second-generation รู้จักส่วนประกอบที่สองของแบบจำลองเชิงสาเหตุ:แบบประเมินและแบบโครงสร้าง แบบประเมินประกอบด้วยความสัมพันธ์ของโครงสร้างและสินค้าที่ใช้วัดนั้น มันรู้จักที่สังเกตวัดเฉพาะทางอ้อมประเมินของโครงสร้างแท้จริงซึ่งจะแฝงอยู่ หรือ unobservable รูปแบบโครงสร้างประกอบด้วยการ unobservableโครงสร้างและความสัมพันธ์ทฤษฎี (เช่น เส้นทาง) ระหว่างดังนั้น LISREL เกี่ยวข้องกับการสร้างแบบจำลอง การประมาณพารามิเตอร์จากการข้อมูล และการทดสอบพอดีของโมเดลกับข้อมูล โดยการเปรียบเทียบความสัมพันธ์สังเกตมีความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรทำนาย โดยแบบจำลอง [17] LISREL สามารถจัดการข้อผิดพลาดในการประเมิน ข้อผิดพลาด correlated และค่าคงเหลือ และความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันใช้ในการประเมินความเป็นไปได้สูงสุด วิธี infonnation เต็มในทีใดประเมินค่าพารามิเตอร์ทั้งหมดพร้อมกันปัจจัย SISP ในการศึกษานี้แทนตัวแปรแฝงอยู่ที่วัด โดยรายการที่แสดงในตาราง 3 รูปที่ 1 แสดงค่าความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างปัจจัยองค์กรถูกตั้งสมมติฐานว่าเป็นตัวแปร (ตัวแปรที่ทำกันบ่อยตัวแปรและไม่ถือว่าถูกกำหนด โดยสาเหตุภายนอกแบบ) ฮาร์ดแวร์ฐานข้อมูล ต้นทุน และใช้งานได้ตั้งสมมติฐานว่าเป็นตัวแปร endogenousใช้สำหรับการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้างจะเขียนเป็น:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การประเมินเชิงประจักษ์รุ่นสาเหตุ
ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่ห้า SISP ถูกตรวจสอบโดยใช้โครงสร้าง
แบบจำลองสมการภายในกรอบลิสเรลปกเกล้าเจ้าอยู่หัว [32]. * ลิสเรลเป็นรุ่นที่สอง
เทคนิคหลายตัวแปรที่สามารถใช้ในการประมาณค่าพารามิเตอร์ของสาเหตุ
รุ่น เทคนิคการสร้างการรับรู้ที่สองทั้งสองส่วนของโมเดลเชิงสาเหตุ:
รูปแบบการวัดและรูปแบบโครงสร้าง รูปแบบการวัดประกอบด้วย
ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและรายการที่ใช้ในการวัดพวกเขา มัน
รับรู้ว่าวัดสังเกตประมาณการทางอ้อมเดียวของโครงสร้างที่เกิดขึ้นจริง
ซึ่งเป็นที่ซ่อนเร้นหรือสำรวจ รูปแบบโครงสร้างประกอบด้วยสำรวจ
และสร้างความสัมพันธ์ทางทฤษฎี (เช่นเส้นทาง) ระหว่างพวกเขา.
ดังนั้นลิสเรลที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบบจำลองการประเมินค่าพารามิเตอร์จาก
ข้อมูลและการทดสอบความพอดีของรูปแบบข้อมูลโดยการเปรียบเทียบที่สังเกต ความสัมพันธ์
กับความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรตามคำทำนายของรูปแบบ [17] ลิสเรลสามารถ
จัดการข้อผิดพลาดในการวัดความสัมพันธ์และข้อผิดพลาดที่เหลือและความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน.
จะใช้การประมาณค่าความน่าจะเป็นสูงสุดวิธี infonnation เต็มรูปแบบในการที่จะ
ประมาณการค่าพารามิเตอร์ทั้งหมดพร้อมกัน.
SISP ปัจจัยในการศึกษาครั้งนี้เป็นตัวแทนของตัวแปรแฝงวัดจากรายการที่แสดง
ในตาราง 3. รูปที่ 1 แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงสาเหตุสมมติฐานท่ามกลางปัจจัย.
องค์การได้รับการตั้งสมมติฐานเป็นตัวแปรภายนอก (ตัวแปรอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิด
ตัวแปรและสันนิษฐานว่าจะถูกกำหนดโดยสาเหตุนอกรุ่น) ฮาร์ดแวร์
ฐานข้อมูลค่าใช้จ่ายและการดำเนินงานที่ถูกตั้งสมมติฐานเป็นตัวแปรภายนอก.
โมเดลสมการโครงสร้างใช้ในการวิเคราะห์เขียนเป็น:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การประเมินเชิงประจักษ์ของโมเดล
ความสัมพันธ์ระหว่างห้า sisp ปัจจัยที่ถูกตรวจสอบโดยใช้โมเดลสมการโครงสร้างด้วยโปรแกรม LISREL 7
ภายในกรอบ [ 32 ] * เป็นรุ่นโมเดล , แบบ
เทคนิคที่สามารถใช้ในการประมาณค่าพารามิเตอร์ของแบบจำลองเชิงสาเหตุ

เทคนิครุ่นที่สองจำสององค์ประกอบของโมเดลเชิงสาเหตุ :
โมเดลการวัดและโมเดลโครงสร้าง โมเดลการวัดประกอบด้วย
ของความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและรายการที่ใช้วัดได้ มันรู้จักสังเกตการวัด
เพียงทางอ้อมการประเมินจริง โครงสร้าง ซึ่งแฝงหรือ unobservable
. โครงสร้างประกอบด้วย unobservable
โครงสร้างและความสัมพันธ์ทางทฤษฎี ( เช่นเส้นทาง ) ระหว่างพวกเขา .
ดังนั้นโมเดลเกี่ยวข้องกับการสร้างแบบประเมินพารามิเตอร์จาก
ข้อมูลและการทดสอบแบบของโมเดลกับข้อมูลโดยการเปรียบเทียบสังเกตความสัมพันธ์
กับความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรทำนายด้วยแบบจำลอง [ 17 ] โปรแกรมสามารถ
จัดการกับข้อผิดพลาดในการวัดความสัมพันธ์ข้อผิดพลาดและคลาดเคลื่อนซึ่งกันและกัน
และสหสัมพันธ์จะใช้ประมาณความควรจะเป็นสูงสุดเป็นแนวทางข้อมูลเต็ม ซึ่งมัน

ประมาณพารามิเตอร์ทั้งหมดพร้อมกัน sisp ปัจจัยในการศึกษานี้แทนตัวแปรแฝง โดยวัดจากรายการที่แสดงใน ตารางที่ 3
. รูปที่ 1 แสดงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่ศึกษา .
องค์กรสมมติฐานเป็นตัวแปร ( ตัวแปรภายนอกที่สาเหตุอื่น
ตัวแปรและจะถือว่ามีกำหนดโดยสาเหตุภายนอกรูปแบบ ) ฮาร์ดแวร์
ฐานข้อมูล ต้นทุน และการมีสมมติฐานว่าตัวแปรภายนอก .
โมเดลสมการโครงสร้างที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ เขียนเป็น :