Watering Success or failure with ho

Watering Success or failure with houseplants often comes down to your ability to water the plants correctly. The plants are completely at your mercy, and if they survive or die depends on the care you give them. Because water needs are immediate and ongoing, proper watering will be your first test. People seem about equally divided between those prone to over water or under water. The kind of plant, the time of year, the size of the plant, weather conditions, light levels, the amount of air movement, the relative humidity and a host of other large and small factors all influence water uptake. Your goal is to interpret these conditions and get it just right – neither over or under doing the job.
The appearance of the plant and your finger are the best guides to water needs. Most plants do best when the soil dries slightly between waterings but not to the point that the plant wilts. An occasional wilting will not hurt most plants, but some plants, such as schefflera, croton and aphelandrea, begin dropping lower leaves if this happens too often. Dracaenas and wandering Jews often have burned leaf tips if allowed to get too dry. Plants that are continually maintained on the too dry side usually have little new growth and often have dull, unhealthy looking foliage.
If plants are kept too wet, root growth will be reduced, and many of the same symptoms mentioned above occur. For example, wilting and leaf drop are often the first signs of extreme over watering. Stick your finger in the soil before watering, and only water when it is dry to the touch. Both wintertime heating and summertime air conditioning dehumidify the atmosphere, so plants may need more water during the heating and cooling seasons than the rest of the year. Your finger is the best method of determining water needs, not the day of the week. Water gadgets that measure soil moisture are available, but they are of little practical value and are no better than your finger.
When you do water, apply enough so that about 10 percent of the water given to the pot runs out the drainage hole in the bottom of the container. If the soil has become really dry since the last watering, apply half the normal amount of water and let that soak in. Then, come back in a few minutes and water a second or third time to make sure the soil ball is completely wetted.
One of the common causes of plant death occurs when the flowerpot is inserted inside a decorative container. These are handy for keeping down spills and protecting the floor and carpet, but they can be a death trap for the plant. Any water that runs through the pot begins to accumulate in the bottom of the decorative container. After a few waterings, the plant will be in water and the soil ball will be completely saturated. Anaerobic rot sets in, and before long the roots will become a stinking mass of organic debris. To avoid this scenario, pour any excess water out of the pot soon after watering. If the pot is too large and this is not possible, put a layer of gravel or stones at the bottom of the pot to elevate the pot off of the bottom of the container. Then, stick a bamboo pole beside the pot to the bottom of the decorative container to use as a dipstick to test the depth of the water level. If too much water is found, delay watering.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รดน้ำสำเร็จหรือล้มเหลวกับ houseplants มักจะลงมาเพื่อความสามารถในการรดน้ำต้นไม้ได้อย่างถูกต้อง พืชที่มีอย่างสมบูรณ์ที่ความเมตตาของคุณ และถ้าพวกเขาอยู่รอด หรือตายขึ้นอยู่การดูแล คุณให้ เพราะความต้องการน้ำทันที และต่อเนื่อง การรดน้ำที่เหมาะสมจะมีการทดสอบแรก คนที่ดูเหมือนจะเกี่ยวกับแบ่งเท่า ๆ กัน ระหว่างผู้ที่มีแนวโน้มที่จะ ผ่านน้ำ หรือ ใต้น้ำ ชนิดของพืช เวลา ขนาดของพืช สภาพอากาศ ระดับแสง จำนวนของการเคลื่อนไหวของอากาศ ความชื้นสัมพัทธ์ และอื่น ๆ ขนาดใหญ่ และขนาดเล็กปัจจัยอิทธิพลน้ำดูดซึมทั้งหมด เป้าหมายของคุณคือการ ตีความเงื่อนไขเหล่านี้ และได้รับมันขวา – ไม่สูง หรือต่ำ กว่าทำงาน ลักษณะของพืชและใช้นิ้วของคุณมีการแนะนำที่ดีที่สุดความต้องการน้ำ ส่วนใหญ่พืชที่ดีที่สุดเมื่อดินแห้งเล็กน้อย ระหว่าง waterings แต่ไม่ ถึงจุดที่พืช wilts เหี่ยวแห้งเป็นครั้งคราวจะเจ็บส่วนใหญ่พืช แต่พืชบางอย่าง เช่น schefflera, croton aphelandrea เริ่มต้นวางใบล่างหากเกิดเหตุการณ์นี้บ่อยเกินไป Dracaenas และ wandering ชาวยิวมักจะมีเขียนเคล็ดลับของใบถ้าได้รับอนุญาตให้แห้งเกินไป พืชที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องในด้านแห้งเกินไปมักจะมีการเจริญเติบโตใหม่เล็กน้อย และมักจะมีใบที่ดูหมองคล้ำ ไม่แข็งแรง ถ้าพืชเก็บเปียก รากเจริญเติบโตจะลดลง และหลายอาการเดียวกันดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น หล่นเหี่ยวแห้งและใบมักสัญญาณแรกของมากกว่ารดน้ำ ติดนิ้วในดินก่อนรดน้ำ และน้ำเท่านั้นเมื่อมันแห้งไปสัมผัส ฤดูร้อนและฤดูร้อนอากาศ dehumidify บรรยากาศ ดังนั้นพืชอาจต้องเพิ่มเติมน้ำในระหว่างการให้ความร้อนฤดูกาลของปี นิ้วเป็นวิธีที่ดีสุดของการกำหนดความต้องการน้ำ ไม่วันของสัปดาห์ น้ำอุปกรณ์ที่วัดความชื้นในดินมีอยู่ แต่พวกเขามีค่าจริงเล็กน้อย และมีไม่ดีกว่านิ้ว เมื่อคุณน้ำ ใช้เพียงพอเพื่อให้รูระบายน้ำด้านล่างของภาชนะประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำในหม้อให้หมด ถ้าดินกลายเป็นแห้งจริง ๆ ตั้งแต่รดน้ำครั้งสุดท้าย ใช้ครึ่งหนึ่งของเงินปกติของน้ำ และปล่อยให้แช่ที่ใน แล้ว กลับมาในไม่กี่นาที และน้ำสอง หรือสามครั้งเพื่อตรวจสอบว่า ลูกดินเปียกอย่างสมบูรณ์ สาเหตุของการเสียชีวิตของพืชอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อกระถางดอกไม้ที่ใส่ในภาชนะบรรจุที่ตกแต่ง เหล่านี้เป็นประโยชน์สำหรับการรักษาลงหก และปกป้องพื้นและพรม แต่พวกเขาสามารถเป็นกับดักมรณะสำหรับพืช น้ำที่ไหลผ่านหม้อเริ่มสะสมในด้านล่างของภาชนะตกแต่ง หลังจากไม่กี่ waterings พืชจะอยู่ในน้ำ และดินลูกจะอิ่มตัวสมบูรณ์ เน่าไม่ใช้ออกซิเจนในชุด และอีกไม่นาน รากจะกลายเป็น เศษขยะอินทรีย์เหม็นมวล เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ เทน้ำส่วนเกินออกจากหม้อหลังจากรดน้ำ ถ้าหม้อใหญ่เกินไป และเป็นไปไม่ได้ ใส่ชั้นกรวดหรือหินที่ด้านล่างของหม้อเพื่อยกหม้อออกจากด้านล่างของภาชนะ แล้ว ติดเสาไม้ไผ่ข้าง ๆ หม้อไปด้านล่างของภาชนะตกแต่งเพื่อใช้เป็นก้านวัดเป็นการทดสอบความลึกของระดับน้ำ ถ้าพบน้ำมากเกินไป หน่วงเวลารดน้ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การรดน้ำที่ประสบความสำเร็จหรือความล้มเหลวกับ houseplants มักจะลงมาให้ความสามารถในการรดน้ำต้นไม้ได้อย่างถูกต้อง พืชจะสมบูรณ์ในความเมตตาของคุณและถ้าพวกเขาอยู่รอดหรือตายขึ้นอยู่กับการดูแลคุณให้พวกเขา เนื่องจากความต้องการน้ำในทันทีและต่อเนื่องรดน้ำเหมาะสมจะได้รับการทดสอบครั้งแรกของคุณ คนดูเหมือนเกี่ยวกับการแบ่งเท่า ๆ กันระหว่างผู้มีแนวโน้มที่จะอยู่เหนือน้ำหรือใต้น้ำ ชนิดของพืชช่วงเวลาของปีขนาดของพืช, สภาพอากาศ, ระดับแสงจำนวนของการเคลื่อนไหวของอากาศความชื้นสัมพัทธ์และโฮสต์ของปัจจัยที่มีขนาดใหญ่และขนาดเล็กอื่น ๆ ทั้งหมดดูดน้ำอิทธิพล เป้าหมายของคุณคือการตีความเงื่อนไขเหล่านี้และได้รับมันเพียงขวา - ค่าเกินหรือต่ำกว่าการทำงาน
การปรากฏตัวของพืชและนิ้วของคุณมีคำแนะนำที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการน้ำ พืชส่วนใหญ่ทำดีที่สุดเมื่อดินแห้งเล็กน้อยระหว่างรดน้ำ แต่ไม่ถึงจุดที่ Wilts พืช เหี่ยวแห้งเป็นครั้งคราวจะไม่ทำร้ายพืชมากที่สุด แต่พืชบางชนิดเช่น Schefflera, Croton และ aphelandrea เริ่มลดลงใบล่างถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นบ่อยเกินไป วาสนาและหลงยิวมักจะได้เผาเคล็ดลับใบหากได้รับอนุญาตจะได้รับแห้งเกินไป พืชที่มีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องในด้านแห้งเกินไปมักจะมีการเจริญเติบโตใหม่เล็ก ๆ น้อย ๆ และมักจะมีความหมองคล้ำใบมองไม่แข็งแรง
ถ้าพืชจะถูกเก็บไว้เปียกเกินไปเจริญเติบโตของรากจะลดลงและอีกหลายแห่งอาการเดียวกันดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเหี่ยวแห้งและวางใบมักจะเป็นสัญญาณแรกของการโอเวอร์รดน้ำ ติดนิ้วของคุณในดินก่อนที่จะรดน้ำและน้ำเท่านั้นเมื่อมันแห้งไปสัมผัส ทั้งเครื่องทำความร้อนฤดูหนาวและเครื่องปรับอากาศในช่วงฤดูร้อน dehumidify บรรยากาศดังนั้นพืชอาจต้องการน้ำมากขึ้นในช่วงการทำความร้อนและฤดูการระบายความร้อนกว่าที่เหลือของปีนี้ นิ้วของคุณเป็นวิธีที่ดีที่สุดของการกำหนดความต้องการน้ำไม่ใช่วันของสัปดาห์ แกดเจ็ตน้ำที่วัดความชื้นในดินมี แต่พวกเขามีค่าจริงเพียงเล็กน้อยและจะไม่ดีกว่านิ้วของคุณ
เมื่อคุณทำน้ำใช้เพียงพอเพื่อที่ว่าประมาณร้อยละ 10 ของน้ำให้กับหม้อหมดหลุมระบายน้ำในด้านล่างของภาชนะ ถ้าดินแห้งได้กลายเป็นจริงตั้งแต่การรดน้ำที่ผ่านมาใช้ครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่ปกติของน้ำและปล่อยให้แช่ใน. แล้วกลับมาในอีกไม่กี่นาทีและน้ำเป็นครั้งที่สองหรือที่สามเพื่อให้แน่ใจว่าลูกดินเปียกอย่างสมบูรณ์
หนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตเกิดขึ้นเมื่อพืชกระถางดอกไม้ถูกแทรกภายในภาชนะตกแต่ง เหล่านี้จะมีประโยชน์ในการรักษาสภาพการรั่วไหลและการปกป้องพื้นและพรม แต่พวกเขาอาจจะเป็นกับดักตายสำหรับพืช น้ำที่ไหลผ่านหม้อเริ่มต้นที่จะสะสมในด้านล่างของภาชนะตกแต่ง หลังจากนั้นไม่กี่รดน้ำที่พืชจะได้รับในน้ำและดินที่ลูกจะได้รับการอิ่มตัวอย่างสมบูรณ์ เน่าแบบไม่ใช้ออกซิเจนในชุดและอีกไม่นานรากจะกลายเป็นมวลเหม็นของเศษซากอินทรีย์ เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้เทน้ำส่วนเกินออกจากหม้อเร็ว ๆ นี้หลังจากรดน้ำ ถ้าหม้อที่มีขนาดใหญ่เกินไปและเป็นไปไม่ได้, ชั้นวางของกรวดหรือหินที่ด้านล่างของหม้อเพื่อยกหม้อออกจากด้านล่างของภาชนะ จากนั้น ติดเสาไม้ไผ่ข้างหม้อที่ด้านล่างของภาชนะตกแต่งเพื่อใช้เป็น dipstick เพื่อทดสอบความลึกของระดับน้ำ ถ้าน้ำมากเกินไปจะพบความล่าช้าในการรดน้ำ