Policy convergence We define ‘polic

Policy convergence
We define ‘policy convergence’ to cover various symmetries in approaches to macroeconomic and microeconomic policies. For example, in the case of the EU, in addition to specifying convergence criteria, the Maastricht Treaty de facto imposed a set of common macroeconomic goals and approaches to policy formation, which, on the road to integration, may be perceived as the logical follow-up to the many common microeconomic policies required by the Single Market Program. We might specify three types of symmetry under the rubric of ‘policy convergence’:
1. Symmetry of macroeconomic goals and policies to reach them (e.g., common inflation targets, unemployment-rate ‘warnings’, exchange-rate stability, government expenditure restrictions, current account/financing issues).
2. Symmetry of macroeconomic goals and policies (e.g., government involvement in the private sector, trade-policy orientation, export diversification policies, foreign investment policies, regulation of the financial sector, competitions policies, intellectual property protection).
3. Symmetry of multilateral co-operation policies (positions in bilateral, sub-regional, and multilateral forums).
Real convergence
We define real convergence quite simply to be the actual integration that takes place between two or more countries. There are a plethora of indicators that may be used to gauge the degree of ‘real’ convergence, all of which are imprecise and explain different aspects of real convergence. Myriad methodologies exist to capture various manifestations of integration, but while the idea is clear and unambiguous, the applications are difficult and subject to dispute (which is often the case in economics). We offer here two approaches to ‘real’ convergence that differ in the types of questions they address:
1. Symmetry of economic structure
a) Have economic structures become more similar (as proxied by similarities in sectoral production shares, export structure, ‘revealed’ comparative advantage, etc.)?
b) Do external shocks affect the countries’ economies in a similar way (e.g., extent to which changes in, say, product prices, productivity, etc., affect relative macroeconomic performance)?
2. Economic convergence through interdependence
a) To what degree has integration occurred with respect to trade and investment (e.g., changes in bilateral trade shares, investment flows, labour flows)?
b) Are real business cycles correlated, that is, are external shocks ‘symmetric’?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บรรจบกันของนโยบาย เรากำหนด 'บรรจบกันนโยบาย' ครอบคลุม symmetries ต่าง ๆ ในแนวนโยบายเศรษฐกิจมหภาค และ microeconomic ตัวอย่าง กรณีของยุโรป นอกจากการระบุเงื่อนไขการลู่เข้า สนธิสัญญามาสทริชต์ de facto กำหนดชุดของเป้าหมายเศรษฐกิจมหภาคทั่วไปและแนวทางการก่อตัวนโยบาย ซึ่ง ถนนรวม อาจจะรู้สึกเป็นตรรกะติดตามไปหลายทั่ว microeconomic นโยบายจำเป็นต้องใช้โปรแกรมตลาดเดียว เราอาจระบุการสมมาตรภายใต้ rubric ของ 'นโยบายบรรจบกัน': 1. สมมาตรของเป้าหมายเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายการเข้าถึงพวกเขา (เช่น เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไป อัตราการว่างงาน 'คำเตือน' เสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน ข้อจำกัดรายจ่ายรัฐบาล ปัญหาการบัญชี/การเงิน)2. สมมาตรเป้าหมายเศรษฐกิจมหภาคและนโยบาย (เช่น รัฐบาลมีส่วนร่วมในภาคเอกชน วางแนวนโยบายการค้า ส่งวิสาหกิจนโยบาย นโยบายการลงทุนต่างประเทศ ข้อบังคับของภาคการเงิน นโยบายการแข่งขัน การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา)3. สมมาตรของนโยบายความร่วมมือพหุภาคี (ตำแหน่งในเวทีทวิภาคี ภูมิภาค และพหุภาคี)บรรจบกันจริงเรากำหนดบรรจบกันจริงน่าจะ รวมจริงที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศทั้งสอง หรือมากกว่านั้น มีตัวบ่งชี้ที่อาจถูกใช้เพื่อวัดระดับของ 'จริง' บรรจบกัน ทั้งหมดที่มี imprecise และอธิบายแง่มุมต่าง ๆ ของบรรจบกันจริง ให้เลือกมากมาย หลักสูตรมีการจับลักษณะต่าง ๆ ของรวม แต่ในขณะที่ความคิดมีความชัดเจน และไม่คลุมเครือ โปรแกรมประยุกต์จะยาก และอาจ มีข้อโต้แย้ง (ซึ่งมักจะเป็นกรณีในเศรษฐศาสตร์) ที่นี่เรามีบรรจบกัน 'จริง' สองวิธีที่แตกต่างในชนิดของคำถามที่พวกเขาที่อยู่: 1. สมมาตรของโครงสร้างทางเศรษฐกิจ) มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เป็น คล้ายกันมาก (เป็น proxied โดยความเหมือนกันในการผลิตรายสาขาหุ้น โครงสร้างการส่งออก 'เปิดเผย' ประโยชน์เปรียบเทียบ ฯลฯ)แรงกระแทกภายนอกโดบี) ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในลักษณะคล้ายกัน (เช่น ขอบเขตที่เปลี่ยนแปลงใน พูด ราคาผลิตภัณฑ์ ผลผลิต ฯลฯ มีผลต่อประสิทธิภาพของเศรษฐกิจมหภาคญาติ)2. เศรษฐกิจบรรจบกัน โดยอิสระเสรีก) ให้ได้ในระดับใด รวมที่เกิดขึ้นกับการค้าและการลงทุน (เช่น การเปลี่ยนแปลงในขั้นตอนแรงงาน ลงทุน หุ้นการค้าทวิภาคี)b) เป็นจริงวงจรธุรกิจ correlated กล่าว คือ แรงกระแทกภายนอก 'สมมาตร'

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นโยบายการบรรจบกันเรากำหนด 'บรรจบนโยบายที่จะครอบคลุม symmetries ต่าง ๆ ในแนวทางนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและจุลภาค
ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของสหภาพยุโรปนอกเหนือจากการระบุหลักเกณฑ์การบรรจบกันที่ Maastricht สนธิสัญญาพฤตินัยกำหนดชุดของเป้าหมายทางเศรษฐกิจมหภาคที่พบบ่อยและวิธีการการสร้างนโยบายที่อยู่บนท้องถนนเพื่อบูรณาการที่อาจถูกมองว่าเป็นการติดตามตรรกะ -Up นโยบายเศรษฐศาสตร์จุลภาคจำนวนมากร่วมกันตามโครงการตลาดเดียว เราอาจจะระบุสามประเภทของสมมาตรภายใต้เกณฑ์ของ 'คอนเวอร์เจนนโยบาย:
1 สมมาตรของเป้าหมายทางเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายที่จะเข้าถึงพวกเขา (เช่นเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไปการว่างงานอัตรา 'คำเตือน' เสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนข้อ จำกัด การใช้จ่ายของรัฐบาลบัญชีเดินสะพัด / ปัญหาการจัดหาเงินทุน).
2 สมมาตรของเป้าหมายและนโยบายเศรษฐกิจมหภาค (เช่นการมีส่วนร่วมของรัฐบาลในภาคเอกชนการวางแนวนโยบายการค้านโยบายการกระจายความเสี่ยงการส่งออกนโยบายการลงทุนต่างประเทศกฎระเบียบของภาคการเงินนโยบายการแข่งขันคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา).
3 สมมาตรนโยบายความร่วมมือพหุภาคี (ตำแหน่งในระดับทวิภาคีอนุภูมิภาคและพหุภาคีฟอรั่ม). บรรจบกันจริงเรากำหนดบรรจบจริงค่อนข้างง่ายที่จะเป็นการบูรณาการที่เกิดขึ้นจริงที่เกิดขึ้นระหว่างสองประเทศหรือมากกว่า มีมากมายเหลือเฟือของตัวชี้วัดที่อาจจะใช้ในการวัดระดับของคอนเวอร์เจนซ์ 'จริง' ที่ทั้งหมดที่มีคลุมเครือและอธิบายลักษณะที่แตกต่างของการบรรจบกันจริง วิธีการมากมายที่มีอยู่เพื่อจับอาการต่างๆของการรวมกลุ่ม แต่ในขณะที่ความคิดที่ชัดเจนและโปร่งใสการใช้งานเป็นเรื่องยากและอาจมีข้อพิพาท (ซึ่งมักจะเป็นในกรณีที่เศรษฐกิจ) ที่นี่เรามีสองวิธีการคอนเวอร์เจนซ์ 'จริง' ที่แตกต่างกันในประเภทของคำถามที่พวกเขาอยู่: 1 สมมาตรของโครงสร้างทางเศรษฐกิจ) ที่มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจกลายเป็นที่คล้ายกันมากขึ้น (เป็น proxied โดยความคล้ายคลึงกันในหุ้นภาคการผลิตโครงสร้างการส่งออก 'เผย' ได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ ฯลฯ )? ข) อย่าปัจจัยภายนอกมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในลักษณะที่คล้ายกัน ( เช่นขอบเขตที่เปลี่ยนแปลงกล่าวว่าราคาสินค้าที่ผลิตและอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานเศรษฐกิจมหภาคญาติ)? 2 บรรจบกันทางเศรษฐกิจผ่านการพึ่งพาซึ่งกันและกันก) สิ่งที่การศึกษาระดับปริญญาได้บูรณาการที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการค้าและการลงทุน (เช่นการเปลี่ยนแปลงในหุ้นค้าทวิภาคีกระแสการลงทุนกระแสแรงงาน) ข) มีวงจรธุรกิจที่แท้จริงมีความสัมพันธ์ที่เป็นสมมาตรปัจจัยภายนอก ' '?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นโยบาย Convergence
เรากำหนดนโยบาย ' ' บรรจบครอบคลุมสมมาตรต่างๆในแนวทางนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและเศรษฐศาสตร์จุลภาค . ตัวอย่างเช่น ในกรณีของสหภาพยุโรป นอกจากระบุเกณฑ์การลู่เข้า , สนธิสัญญามาสทริชท์พฤตินัยกำหนดชุดของเป้าหมายเศรษฐกิจทั่วไปและแนวทางการพัฒนานโยบาย ซึ่งบนถนนรวมอาจจะมองว่าการติดตามผลเชิงตรรกะเพื่อหลายที่ทั่วไปเกี่ยวกับนโยบายบังคับใช้โดยตลาดโปรแกรมเดียว เราอาจจะระบุสามประเภทของสมมาตรภายใต้การติดต่อสื่อสารของ ' นโยบาย Convergence ' :
1 สมมาตรของเป้าหมายเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายที่จะเข้าถึงพวกเขา ( เช่นทั่วไปอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายอัตราการว่างงาน ' เตือน ' , ความคงตัว งบประมาณมีจำกัดปัญหาบัญชี / การเงินปัจจุบัน )
2 สมมาตรของเป้าหมายเศรษฐกิจมหภาคและนโยบาย เช่น รัฐบาลมีส่วนร่วมในภาคธุรกิจเอกชน นโยบายการค้าแนว นโยบาย วิสาหกิจส่งออกต่างประเทศ นโยบายการลงทุน กฎระเบียบภาคการเงิน การแข่งขันนโยบายคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา )
3 สมมาตรของนโยบายความร่วมมือพหุภาคี ( ตำแหน่งในระดับทวิภาคีย่อยในระดับภูมิภาคและพหุภาคีกระดานข่าว )

เรานิยามจริงบรรจบบรรจบกันจริงค่อนข้างง่ายที่จะเป็นการบูรณาการที่แท้จริงที่เกิดขึ้นระหว่างสองคนหรือมากกว่าประเทศ มีมากมายเหลือเฟือของตัวชี้วัดที่อาจถูกใช้เพื่อวัดระดับของ ' จริง ' ลู่ ซึ่งทั้งหมดเป็นคลุมเครือและอธิบายลักษณะของการบรรจบกันจริงมีอยู่มากมายวิธี จับอาการต่างๆของการรวมกลุ่ม แต่ในขณะที่ความคิดที่ชัดเจนและชัดเจน การใช้ยากและอาจมีข้อพิพาท ( ซึ่งมักจะเป็นกรณีในทางเศรษฐศาสตร์ ) เราขอเสนอสองแนวทาง ' จริง ' ภาพที่แตกต่างกันในชนิดของคำถามที่พวกเขาที่อยู่ :
1 สมมาตรของโครงสร้างทางเศรษฐกิจ
) มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจจะคล้ายกันมาก ( เป็น proxied โดยความคล้ายคลึงกันในภาคการผลิต บริษัท ส่งออกโครงสร้าง ' เผย ' ความได้เปรียบ ฯลฯ )
b ) ทำปัจจัยภายนอกกระทบประเทศเศรษฐกิจในลักษณะที่คล้ายกัน ( เช่นขอบเขตที่เปลี่ยนแปลง กล่าวว่า ราคาผลิตภัณฑ์ , การผลิต , ฯลฯ มีผลต่อประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจสัมพันธ์ )
2 .ลู่เศรษฐกิจผ่าน .
) สิ่งที่การศึกษาระดับปริญญามีการบูรณาการที่เกิดขึ้นเทียบกับการค้าและการลงทุนในหุ้นมีการเปลี่ยนแปลง เช่น การค้า การลงทุน แรงงานไหล ไหล )
b ) เป็นธุรกิจจริงรอบความสัมพันธ์ นั่นคือ มีแรงกระแทกภายนอกสมมาตร "