. Use the active voice. When descr

. Use the active voice. When describing a situation or making a request, make sure to choose the active voice, rather than the passive voice.

The passive voice can make your writing ambiguous or impersonal. In addition, the active voice is more streamlined and straight to the point.

For example:
Passive: The sunglasses are not designed or manufactured with attention to their durability.
Active: Your company designs and manufactures sunglasses without attention to their durability.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

. ใช้เสียงใช้งาน เมื่ออธิบายสถานการณ์ หรือการขอ ให้แน่ใจว่าเลือกเสียงใช้งานอยู่ มากกว่าวาจก วาจกสามารถทำให้การเขียนไม่ชัดเจน หรือไม่มีตัวตน นอกจากนี้ เสียงใช้งานได้ง่ายขึ้น และตรงจุด ตัวอย่างเช่น:ติดตัว: แว่นกันแดดไม่ออกแบบ หรือผลิต ด้วยความใส่ใจในความทนทานของพวกเขาใช้งาน: บริษัทออกแบบ และผลิตแว่นกันแดดโดยไม่ใส่ใจในความทนทานของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

. ใช้เสียงที่ใช้งานอยู่ ? เมื่ออธิบายสถานการณ์หรือการร้องขอให้ตรวจสอบการเลือกเสียงที่ใช้งานมากกว่ากรรมวาจก.

กรรมวาจกสามารถทำให้การเขียนของคุณที่ไม่ชัดเจนหรือไม่มีตัวตน นอกจากนี้เสียงที่ใช้งานมีความคล่องตัวมากขึ้นและตรงไปยังจุด.

ตัวอย่างเช่น:
Passive: แว่นตากันแดดไม่ได้ถูกออกแบบหรือผลิตที่มีความสนใจที่จะทนทานของพวกเขา.
ใช้งาน: การออกแบบของ บริษัท และผู้ผลิตแว่นตากันแดดโดยไม่ต้องให้ความสนใจกับความทนทานของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

. ใช้เสียงที่ใช้งานอยู่ เมื่ออธิบายสถานการณ์หรือขอร้อง ให้แน่ใจว่าได้เลือกเสียงใช้งานมากกว่าเสียงเรื่อยๆเสียงเรื่อยๆ ทำให้เขียนคลุมเครือหรือตัวตนของคุณ นอกจากนี้เสียงที่ปราดเปรียวคล่องตัวมากขึ้น และตรงจุดตัวอย่างเช่น :เรื่อยๆ : แว่นกันแดดที่ไม่ได้ออกแบบหรือผลิตด้วยความตั้งใจเพื่อความทนทานของพวกเขาใช้งานล่าสุด : การออกแบบของ บริษัท และผลิตแว่นกันแดด โดยไม่ใส่ใจกับมิตรภาพของพวกเขา