Fake Antimalarial Medications Under

Fake Antimalarial Medications Undermine Africa Malaria Drive

Fraudulent and substandard antimalarial drugs could be wrecking the chances of winning the war against malaria in Africa, researchers from the Wellcome Trust-Mahosot Hospital-Oxford University Tropical Medicine Research Collaboration reported in the Malaria Journal. The authors add that millions of lives could be lost over the next twelve months unless urgent action is taken both within the African continent and elsewhere in the world.

Fake medications are coming onto the scene as a result of deliberate criminal activity, while substandard drugs are becoming more common because of poor manufacturing practice. Not only are scores of patients being inadequately treated, but the presence of these undesirable and illegal medications significantly raises the risk of drug resistance among the malaria parasites.

Approximately 781,000 people are thought to have died from malaria in 2009, says the World Malaria Report 2010.

Artemisinin derivatives are the best antimalarials, experts say. They work faster than other medications, such as chloroquine and mefloquine, and also have fewer side-effects. These drugs can be used on their own to treat malaria, but are more commonly administered alongside other medications, mainly because of the rising problem of drug resistance. WHO (World Health Organization) recommends that for uncomplicated falciparum malaria, combination therapies be used.

The researchers set out to determine how prevalent counterfeit and substandard antimalarials were in Africa. They gathered data from 11 nations in Africa between 2002 and 2010.

They found that some fake drugs contained a combination of erroneous active ingredients, many of which only treated malaria signs and symptoms, but did not cure the disease itself. These unsuitable active ingredients were also found to cause potentially serious side-effects, especially when administered in combination with other medications, such as those used to treat HIV.

Some of the fake drugs had small quantities of artemisinin derivatives - experts believe this was so that they could be passed off as authentic medications during authenticity tests. They contain such small quantities of artemisinin derivatives that there are useless in ridding the body of malaria parasites, and highly likely to promote their resistance to artemisinin. Put simply, the patient derives no benefit, and the parasite becomes more difficult to eliminate.

Scientists managed to trace some of the pollen found in the fake medicines to eastern Asia. In 2001, authorities in Guangshou, China, arrested Chinese and Nigerian men who were accused of producing fake halofantrine, an antimalarial. Investigators say that there is no pollen evidence of fake drug production occurring in Africa. Packaging materials for counterfeit antimalarial medications have been confiscated in Nigeria.

Research leader, Dr Paul Newton, said:

"Public health organizations must take urgent, coordinated action to prevent the circulation of counterfeit and substandard medicines and improve the quality of the medicines that patients receive. We must move finally away from the use of single drugs and towards the exclusive use of combination therapies.

The enormous investment in the development, evaluation and deployment of antimalarials is wasted if the medicines that patients actually take are, due to criminality or carelessness, of poor quality and do not cure. Malaria can be readily treated with the right drugs of good quality, but poor-quality medicines - as well as increasing mortality and morbidity - risk exacerbating the economic and social impact of malaria on societies that are already poor.

Worse still, they encourage drug resistance, potentially resulting in the failure of artemisinin treatments, with profound consequences for public health in Africa. Failure to take action will put at risk the lives of millions of people, particularly children and pregnant women."

Dr. Newton says regulatory authorities in Africa need increased investment, so that quality control can be more closely monitored. For the fight against malaria to be effective, people need access to top-quality and affordable artemisinin combination therapies.

Dr Jimmy Whitworth, Head of International Activities at the Wellcome Trust, commented:

"This research is very worrying and should act as an early warning. We have already begun to see the emergence of drug-resistant malaria parasites in South-east Asia; substandard and counterfeit antimalarials and the availability of artemisinin monotherapies threaten to lead to the spread of drug resistance in Africa. If this happens, the effect could be devastating on efforts to control malaria in Africa.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ยามาลาเรียปลอมทำลายแอฟริกามาลาเรียไดรฟ์ยามาลาเรียปลอม และมาตรฐานอาจจะทำลายโอกาสของการชนะสงครามต่อต้านมาลาเรียในแอฟริกา นักวิจัยจากโรงพยาบาลมโหสถเชื่อถือ Wellcome-ออกซ์ฟอร์ดมหาวิทยาลัยเขตร้อนยาวิจัยความร่วมมือรายงานในรายโรคมาลาเรีย ผู้เขียนเพิ่มว่า เป็นล้าน ๆ ชีวิตอาจจะหายไปกว่าสิบสองเดือนถัดไปยกเว้นเร่งด่วนจะดำเนินการทั้งภาย ในทวีปแอฟริกา และที่อื่น ๆ ในโลกยาปลอมจะมาลงบนฉากจากการกระทำกิจกรรมทางอาญา ในขณะที่ยามาตรฐานจะเป็นทั่วไปเนื่องจากผลิตไม่ปฏิบัติ ไม่เพียงแต่มีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา inadequately แต่ของยาเหล่านี้ไม่พึงปรารถนา และไม่ถูกต้องอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มความเสี่ยงของการต่อต้านยาเสพติดระหว่างปรสิตมาลาเรียประมาณ 781,000 คนมีความคิดที่ได้เสียชีวิตจากโรคมาลาเรียในปี 2009 กล่าวว่า โรคมาลาเรียโลก 2553ตราสารอนุพันธ์ Artemisinin เป็น antimalarials สุด ผู้เชี่ยวชาญกล่าว พวกเขาทำงานได้เร็วกว่ายาอื่น ๆ ยาอาทิเช่น mefloquine และยัง มีผลข้างเคียงน้อยลง ยาเหล่านี้สามารถใช้ได้กับตนเองในการรักษามาลาเรีย แต่จะดูแลมากกว่าปกติควบคู่ไปกับยาอื่น ส่วนใหญ่เนื่องจากปัญหาต้านยาเสพติดเพิ่มขึ้น คน (องค์การอนามัยโลก) ขอแนะนำว่า สำหรับมาลาเรีย falciparum เปี่ยม ชุดรักษาใช้นักวิจัยกำหนดกำหนดปลอมแพร่หลายวิธี และได้มาตรฐาน antimalarials ในแอฟริกา พวกเขารวบรวมข้อมูลจาก 11 ประเทศในแอฟริการะหว่าง 2002 และ 2010พวกเขาพบว่า ยาปลอมบางอย่างประกอบด้วยการรวมกันของส่วนผสมใช้งานมีข้อผิดพลาด มาลาเรียที่บำบัดเฉพาะสัญญาณและอาการ แต่ไม่ได้รักษาโรคตัวเอง นอกจากนี้ยังพบสารสำคัญเหล่านี้ไม่เหมาะสมทำอาจรุนแรงผลข้างเคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริหารร่วมกับยาอื่น ๆ เช่นที่ใช้ในการรักษาเอชไอวียาปลอมบางอย่างมีปริมาณเล็กน้อยของ artemisinin อนุพันธ์ - ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า นี้คือเพื่อให้พวกเขาสามารถส่งออกเป็นอาหารยาในระหว่างการทดสอบความถูกต้อง ประกอบด้วยปริมาณเล็กน้อยเช่นตราสารอนุพันธ์ artemisinin ที่มีประโยชน์ในร่างกายของปรสิตมาลาเรียขี่ และมีแนวโน้มสูงเพื่อส่งเสริมความให้ artemisinin ใส่เพียง ผู้ป่วยมาไม่มีประโยชน์ และปรสิตจะยากต่อการกำจัดนักวิทยาศาสตร์ได้ติดตามของละอองเกสรที่พบในยาปลอมไปยังเอเชียตะวันออก ในปีค.ศ. 2001 หน่วยงานใน Guangshou ประเทศจีน จับคนจีน และรีที่ได้ถูกกล่าวหาว่าผลิต halofantrine ปลอม การป้องกันมาเลเรีย นักสืบบอกว่า มีหลักฐานผลิตยาปลอมที่เกิดขึ้นในแอฟริกาละอองเกสรไม่ บรรจุภัณฑ์สำหรับยามาลาเรียปลอมมีการเอาประเทศไนจีเรียผู้นำการวิจัย Dr Paul นิวตัน กล่าวว่า:"สาธารณสุของค์กรต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ประสานงานการดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของยาปลอม และมาตรฐาน และปรับปรุงคุณภาพของยาที่ผู้ป่วยได้รับการ เราต้องย้ายสุดท้ายจากการใช้ยาเดี่ยว และ ต่อใช้เฉพาะของชุดบำบัดลงทุนมหาศาลในการพัฒนา การประเมิน และใช้งาน antimalarials สิ้นเปลืองหากยาที่ผู้ป่วยจริงจัง เนื่องจากอาชญากรหรือกระจาย คุณภาพดี และรักษา มาลาเรียสามารถพร้อมรักษา ด้วยยาที่เหมาะสมของคุณภาพดี ได้ยาคุณภาพต่ำ - การตายเพิ่มขึ้นเป็นอย่างดีและ morbidity - ความเสี่ยงดีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และสังคมของมาลาเรียในสังคมที่ดีอยู่แล้วแย่ยัง พวกเขาสนับสนุนให้ต่อต้านยาเสพติด อาจเกิดความล้มเหลวของ artemisinin รักษา มีผลลึกซึ้งสาธารณสุขในประเทศแอฟริกา ล้มเหลวในการดำเนินจะทำเสี่ยงชีวิตความเป็นอยู่ของคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก และหญิงตั้งครรภ์"ดร.นิวตันกล่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลในแอฟริกาต้องลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อให้การควบคุมคุณภาพสามารถจะตรวจสอบอย่างใกล้ชิดมากขึ้น สำหรับต่อสู้กับโรคมาลาเรียจะมีประสิทธิภาพ คนต้องเข้าบำบัดชุด artemisinin คุณภาพสูง และราคาไม่แพงดร. Jimmy Whitworth หัวของนานาชาติกิจกรรมที่เชื่อถือ Wellcome แสดงความคิดเห็น:"งานวิจัยนี้เป็นกังวลมาก และควรดำเนินการเป็นการเตือนต้น เราได้เริ่มเห็นการเกิดขึ้นของปรสิตมาลาเรียยาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ antimalarials มาตรฐาน และปลอมและความพร้อมของ artemisinin monotherapies คุกคามเพื่อนำไปสู่การแพร่กระจายของยาต้านในแอฟริกา ถ้านี้ที่เกิดขึ้น ผลอาจจะทำลายล้างในความพยายามในการควบคุมโรคมาลาเรียในแอฟริกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยาต้านมาลาเรียปลอมบ่อนทำลายแอฟริกามาลาเรียไดรฟ์ยาต้านมาลาเรียเป็นการฉ้อโกงและต่ำกว่ามาตรฐานอาจจะทำลายโอกาสในการชนะสงครามกับโรคมาลาเรียในแอฟริกานักวิจัยจาก Wellcome Trust-มโหสถโรงพยาบาล Oxford University เวชศาสตร์เขตร้อนความร่วมมือการวิจัยรายงานในวารสารมาลาเรีย ผู้เขียนเพิ่มว่านับล้านชีวิตอาจจะหายไปกว่าสิบสองเดือนต่อไปเว้นแต่แนวทางเร่งด่วนทั้งในทวีปแอฟริกาและที่อื่น ๆ ในโลก. ยาปลอมจะมาเข้าฉากเป็นผลมาจากกิจกรรมทางอาญาโดยเจตนาในขณะที่ยาเสพติดถึงขนาดมี กลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเพราะจากการผลิตที่ไม่ดี ไม่เพียง แต่คะแนนของผู้ป่วยที่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่พอเพียง แต่การปรากฏตัวของเหล่านี้ยาที่ไม่พึงประสงค์และผิดกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มความเสี่ยงของการต่อต้านยาเสพติดในหมู่เชื้อมาลาเรีย. ประมาณ 781,000 คนกำลังคิดว่าจะเสียชีวิตจากโรคมาลาเรียในปี 2009, มาลาเรียโลก 2010 รายงานกล่าวว่า . สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Artemisinin เป็น antimalarials ที่ดีที่สุดผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า พวกเขาทำงานได้เร็วกว่ายาอื่น ๆ เช่นมาลาเรียและ mefloquine และยังมีน้อยผลข้างเคียง ยาเสพติดเหล่านี้สามารถนำมาใช้ในของตัวเองในการรักษาโรคมาลาเรีย แต่มีการบริหารงานมากกว่าปกติควบคู่ไปกับยาอื่น ๆ ส่วนใหญ่เป็นเพราะปัญหาที่เพิ่มขึ้นของการดื้อยา องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) แนะนำว่าสำหรับโรคมาลาเรีย falciparum ไม่ซับซ้อนบำบัดรักษาแบบผสมผสานจะใช้. นักวิจัยกำหนดไว้ในการกำหนดวิธีการปลอมที่แพร่หลายและ antimalarials ต่ำกว่ามาตรฐานอยู่ในแอฟริกา พวกเขารวบรวมข้อมูลจาก 11 ประเทศในทวีปแอฟริการะหว่างปี 2002 และ 2010. พวกเขาพบว่ายาเสพติดปลอมบางส่วนที่มีการรวมกันของส่วนผสมที่ใช้งานที่ผิดพลาดหลายแห่งที่ได้รับการรักษาเพียงสัญญาณและอาการของโรคมาลาเรีย แต่ไม่ได้รักษาโรคตัวเอง ส่วนผสมเหล่านี้ที่ไม่เหมาะสมนอกจากนี้ยังพบที่จะทำให้เกิดร้ายแรงที่อาจเกิดผลข้างเคียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ร่วมกับยาอื่น ๆ เช่นที่ใช้ในการรักษาเอชไอวี. บางส่วนของยาเสพติดปลอมมีปริมาณขนาดเล็กของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า artemisinin - ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่านี้คือเพื่อให้ พวกเขาจะถูกส่งผ่านออกมาเป็นยาที่แท้จริงในระหว่างการทดสอบความถูกต้อง พวกเขามีปริมาณน้อยเช่นตราสารอนุพันธ์ artemisinin ว่ามีไร้ประโยชน์ใน ridding ร่างกายของเชื้อมาลาเรียและมีแนวโน้มสูงที่จะส่งเสริมความต้านทานของพวกเขาที่จะ artemisinin ใส่เพียงผู้ป่วยมาไม่มีประโยชน์และปรสิตกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นที่จะกำจัด. นักวิทยาศาสตร์การจัดการเพื่อติดตามบางส่วนของเกสรดอกไม้ที่พบในยาปลอมเอเชียตะวันออก ในปี 2001 หน่วยงานใน Guangshou จีนจับคนจีนและไนจีเรียที่ถูกกล่าวหาว่าผลิต Halofantrine ปลอมต้านมาลาเรีย นักวิจัยบอกว่าไม่มีหลักฐานเกสรของการผลิตยาเสพติดปลอมที่เกิดขึ้นในแอฟริกา . วัสดุบรรจุภัณฑ์สำหรับยาต้านมาลาเรียปลอมได้ถูกยึดในประเทศไนจีเรียผู้นำการวิจัยดรพอลนิวตันกล่าวว่า"องค์กรสาธารณสุขต้องใช้เร่งด่วนดำเนินการประสานงานเพื่อป้องกันไม่ให้การไหลเวียนของยาปลอมและต่ำกว่ามาตรฐานและปรับปรุงคุณภาพของยาที่ผู้ป่วยได้รับ . เราจะต้องย้ายออกไปในที่สุดจากการใช้ยาเสพติดเดียวและต่อการใช้งานพิเศษของการรักษารวมกัน. การลงทุนมหาศาลในการพัฒนาและการประเมินผลการใช้งานของ antimalarials จะเสียถ้ายาที่ผู้ป่วยใช้เวลาเป็นจริงเนื่องจากความผิดทางอาญาหรือประมาท . ที่มีคุณภาพไม่ดีและไม่ได้รักษาโรคมาลาเรียสามารถรักษาได้อย่างง่ายดายกับยาเสพติดด้านขวาของที่มีคุณภาพที่ดี แต่ยามีคุณภาพต่ำ - เช่นเดียวกับการเพิ่มอัตราการตายและการเจ็บป่วย - ความเสี่ยงรุนแรงทางเศรษฐกิจและสังคมผลกระทบของโรคมาลาเรียในสังคมที่มีอยู่แล้วไม่ดี . ยังเลวพวกเขาสนับสนุนต้านทานยาเสพติดที่อาจส่งผลให้ในความล้มเหลวของการรักษา artemisinin ที่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งสำหรับสุขภาพของประชาชนในแอฟริกา ความล้มเหลวในการดำเนินการจะทำให้มีความเสี่ยงต่อชีวิตของผู้คนนับล้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและสตรีมีครรภ์. " ดร. นิวตันกล่าวว่าหน่วยงานกำกับดูแลในแอฟริกาจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อให้การควบคุมที่มีคุณภาพที่สามารถตรวจสอบได้อย่างใกล้ชิด. สำหรับการต่อสู้กับโรคมาลาเรียไป จะมีประสิทธิภาพคนต้องเข้าถึงมีคุณภาพสูงสุดและบำบัดรักษาแบบผสมผสาน artemisinin ราคาไม่แพง. ดรจิมมี่ Whitworth หัวหน้ากิจกรรมระหว่างประเทศที่ Wellcome Trust, ความเห็น: "งานวิจัยนี้น่าเป็นห่วงมากและควรทำหน้าที่เป็นการเตือนภัยล่วงหน้า เราได้เริ่มขึ้นแล้วที่จะเห็นการเกิดขึ้นของเชื้อมาลาเรียดื้อยาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้; antimalarials ต่ำกว่ามาตรฐานและปลอมและความพร้อมของ artemisinin monotherapies ขู่ว่าจะนำไปสู่การแพร่กระจายของการดื้อยาในทวีปแอฟริกา หากเกิดเหตุการณ์นี้ผลกระทบที่อาจจะทำลายล้างในความพยายามที่จะควบคุมโรคมาลาเรียในแอฟริกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แอฟริกามาลาเรียและโรคทำลายปลอมขับรถ

ที่หลอกลวงและมาตรฐาน ยาต้านมาลาเรียอาจทำลายโอกาสของการชนะสงครามต่อต้านโรคมาลาเรียในแอฟริกา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด Wellcome Trust มโหสถ โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ร่วมมือวิจัยมาลาเรียรายงานในวารสารผู้เขียนเพิ่มนับล้านชีวิตอาจจะสูญเสียมากกว่า 12 เดือนถัดไป เว้นแต่การกระทำด่วนถ่ายทั้งภายในทวีปแอฟริกา และที่อื่น ๆในโลก

ปลอม ยา มาเข้าฉากผลของกิจกรรมทางอาญาโดยเจตนา ขณะที่มาตรฐาน ยาเสพติดมีมากกว่าปกติ เพราะมาตรฐานการผลิตที่ไม่ดีไม่เพียง แต่คะแนนของผู้ป่วยที่ได้รับไม่เพียงพอที่จะรักษา แต่การปรากฏตัวของโรคที่ไม่พึงประสงค์และผิดกฎหมายเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญเพิ่มความเสี่ยงของการดื้อยาของเชื้อมาลาเรียปรสิต

ประมาณ 781000 คนคิดจะตายจากโรคมาลาเรียในปี 2009 กล่าวว่า โลกมาลาเรีย artemisinin อนุพันธ์รายงาน 2010

เป็นยารักษามาลาเรียที่ดีที่สุด ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า .พวกเขาทำงานได้เร็วกว่าโรคอื่น ๆเช่น ครุฑ และเม และยังมีน้อยกว่าผลข้างเคียง ยาเหล่านี้สามารถใช้ด้วยตัวเองเพื่อรักษามาลาเรีย แต่ทั่วไปใช้ร่วมกับยาตัวอื่น เพราะส่วนใหญ่ของปัญหาที่เพิ่มขึ้นของยา องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ไม่ซับซ้อนพลาสโมเดียม มาลาเรียการรักษารวมกันใช้

นักวิจัยกำหนดออกเพื่อตรวจสอบวิธีการที่แพร่หลายเป็นที่นิยมถึงขนาดยารักษามาลาเรียในแอฟริกา พวกเขาเก็บรวบรวมข้อมูลจาก 11 ประเทศในแอฟริการะหว่าง 2002 และ 2010

พวกเขาพบว่าบางปลอมยาที่มีอยู่การรวมกันของส่วนผสมที่ผิดพลาดมากมาย ซึ่งถือว่าสัญญาณและอาการโรคมาลาเรียเท่านั้น แต่ไม่ได้รักษาโรคตัวเองส่วนผสมเหล่านี้ไม่พบเหตุร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นผลข้างเคียง โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับยาอื่น ๆเช่น ที่ใช้ในการรักษาเอชไอวี

บางยาเสพติดปลอมมีปริมาณขนาดเล็กของ artemisinin อนุพันธ์ - ผู้เชี่ยวชาญเชื่อนี้เพื่อให้พวกเขาสามารถผ่านออกมาเป็นยาที่แท้จริงระหว่างการทดสอบความถูกต้องพวกเขามีขนาดเล็กเช่นปริมาณของ artemisinin อนุพันธ์นั้นไม่มีประโยชน์ใน ridding ร่างกายของปรสิตมาลาเรีย และมีแนวโน้มสูงที่จะส่งเสริมความต้านทานของวิน พูดง่ายๆ คนไข้มา ไม่เกิดประโยชน์ และพยาธิจะมากขึ้นยากที่จะกำจัด นักวิทยาศาสตร์

สามารถติดตามบางส่วนของเกสรดอกไม้ที่พบในยาปลอม เอเชียตะวันออก ในปี 2001 ,เจ้าหน้าที่ใน guangshou จีน จีน ไนจีเรีย และจับคนที่ถูกกล่าวหาในการผลิตฮาโรแฟนตริน , ปลอมเป็นและ . นักวิจัยกล่าวว่าไม่มีหลักฐานของการผลิตยาเกสรปลอมที่เกิดขึ้นในแอฟริกา บรรจุภัณฑ์สำหรับยาต้านมาลาเรียปลอมถูกริบในไนจีเรีย .

วิจัยผู้นำ ดร. พอลนิวตัน , กล่าวว่า :

" องค์กรสาธารณสุข ต้องใช้ด่วน ประสานงาน เพื่อป้องกันการปลอม และมาตรฐานยา และปรับปรุงคุณภาพของยาที่ผู้ป่วยได้รับ เราต้องย้าย ก็ห่างจากการใช้ยาเดี่ยวและต่อการใช้งานพิเศษของการรักษารวมกัน

ลงทุนอย่างมากในการพัฒนาการประเมินและการใช้ยารักษามาลาเรียจะเสียถ้ายาที่ผู้ป่วยจริงใช้อยู่ เนื่องจากอาชญากรหรือสะเพร่า คุณภาพไม่ดี และไม่ได้รักษา มาลาเรียสามารถพร้อมรักษาด้วยยาถูกคุณภาพดีแต่ยา - คุณภาพ ตลอดจนเพิ่มอัตราการตายและการเจ็บป่วย - ความเสี่ยงรุนแรงผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของมาลาเรียในสังคมที่มีอยู่แล้วไม่ดี

ยังเลว พวกเขาสนับสนุนให้ดื้อยา อาจส่งผลให้ความล้มเหลวของการรักษาด้วยยา , ผลลึกซึ้งด้านสาธารณสุขในแอฟริกาความล้มเหลวที่จะดำเนินการจะทำให้ความเสี่ยงชีวิตของคนหลายล้านคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและสตรีมีครรภ์ "

ดร. นิวตันกล่าวว่าหน่วยงานในแอฟริกาต้องเพิ่มการลงทุน ดังนั้นการควบคุมคุณภาพได้มากขึ้นอย่างใกล้ชิด . สำหรับการต่อสู้กับโรคมาลาเรียให้มีประสิทธิภาพ ประชาชนต้องเข้าถึงยาที่มีคุณภาพสูงสุดและราคาไม่แพงการรักษารวมกัน

ดร จิมมี่ Whitworth , หัวของกิจกรรมระหว่างประเทศที่ Wellcome Trust , ความเห็น :

" งานวิจัยนี้น่าเป็นห่วงมาก และควรทำหน้าที่เป็นคำเตือนก่อน เราก็เริ่มเห็นการเกิดขึ้นของปรสิตมาลาเรียดื้อยาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ;มาตรฐาน และปลอมยารักษามาลาเรียและความพร้อมของอาร์ทีมิซินิน monotherapies ขู่จะนำไปสู่การแพร่กระจายของการดื้อยาในแอฟริกา หากเกิดเหตุการณ์นี้ ผลอาจจะทำลายความพยายามในการควบคุมโรคมาลาเรียในแอฟริกา