ประวัติ หลวงพ่อเงิน พุทธโชติวัดบางคลาน (วัดหิรัญญาราม) อ.โพทะเล จ.พิจิ การแปล - ประวัติ หลวงพ่อเงิน พุทธโชติวัดบางคลาน (วัดหิรัญญาราม) อ.โพทะเล จ.พิจิ ไทย วิธีการพูด

ประวัติ หลวงพ่อเงิน พุทธโชติวัดบางค

ประวัติ หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ
วัดบางคลาน (วัดหิรัญญาราม) อ.โพทะเล จ.พิจิตร

หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ มีนามเดิมว่า "เงิน" เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน 10 ปีฉลู ซึ่งตรงกับวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2348 บิดาชื่อนายอู๋ มารดาชื่อนางฟัก เป็นชาวบ้านตำบลบางคลาน จังหวัดพิจิตร มีพี่น้องร่วม บิดาเดียวกันทั้งหมด 6 คน คนที่ 1 ชื่อ พรม คนที่ 2 ชื่อทับ คนที่ 3 ชื่อ ทอง คนที่ 4 ชื่อ เงิน คนที่ 5 ชื่อ หล่ำ คนที่ 6 ชื่อ รอด (ในหนังสือประวัติของท่านมีผู้เขียนไว้เป็น ๒ กระแส แต่ต่างยืนยันว่าท่านเกิดปีฉลู กระแสแรกว่าท่านเกิดปีฉลู พ.ศ. 2348 อีกกระแสท่านเกิดปีฉลู พ.ศ. 2360)

ประวัติหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน “หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ” เป็นชาวบ้านบางคลาน อำเภอบางคลาน จังหวัดพิจิตร เป็นบุตรคนที่ 4 บิดาของท่านชื่อ อู๋ เป็นชาวบ้านบางคลาน มารดาของท่านชื่อฟัก เป็นชาวบ้าน จังหวัดกำแพงเพชร ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งรัตนโกสินทร์ มีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 6 คนด้วยกัน

เมื่อปี พ.ศ. 2356 หลวงพ่อเงิน อายุได้ 5 ขวบ นายช่วงซึ่งเป็นครูของท่าน ได้พา หลวงพ่อเงิน ไปอยู่กรุงเทพฯ จนกระทั่งหลวงพ่อเงินเติบโตเข้าศึกษาเล่าเรียนได้ จึงได้นำ หลวงพ่อเงิน ไปฝากไว้ที่วัดตองปู (วัดชนะสงคราม) เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือที่วัดชนะสงครามตลอดมาจนถึงปี พ.ศ. 2363 หลวงพ่อเงินอายุได้ 12 ปีจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุครบบวชท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดชนะสงคราม ฉายา พุทธโชติ แล้วหลวงพ่อเงิน ท่านได้จำพรรษา เพื่อปฏิบัติธรรมวินัยเรียนทางวิปัสสนากรรมฐานอยู่ได้ 3 พรรษาขณะที่ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงคราม ท่านได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษาศิลปวิทยาคมตลอดจนเรียนวิปัสสนาธุระ ในทางเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรี จากเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒจารย์(โต) พรหมรังสีวัดระฆังโฆสิตาราม





พออายุได้ ๒๐ ปี บิดา-มารดาและบรรดาญาติมีความประสงค์จะให้อุปสมบทแต่ “หลวงพ่อเงิน” ไม่ยอมเพราะเกรงว่า อายุของท่านจะไม่ครบบริบูรณ์จริง บรรดาญาติก็อนุโลมตามกระทั่งหลวงพ่ออายุได้ ๒๒ ปี ตรงกับ พ.ศ. ๒๓๗๓ ได้กำหนดวันอุปสมบทไม่ทราบว่าอุปัชฌาย์ชื่ออะไรเช่นกันได้ฉายาว่า “พุทธโชติ” หลังจากอุปสมบทแล้วได้ศึกษาเล่าเรียน ธรรมะจนแตกฉาน แล้วทำการฝึกฝนวิปัสสนาจนมีญาณสมาธิแก่กล้า จึงมุ่งศึกษาพุทธาคมจาก “หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า” จนมีความชำนาญทางพุทธาคมมาก มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เล่าลือกันในบรรดาชาวบ้านมากมายพอได้อุปสมบทแล้ว ท่านก็ยังศึกษาวิปัสสนากรรมฐานต่ออีกด้วย ต่อมาอีก 3-4 ปี โยมปู่ของท่านป่วยหนัก ท่านจึงได้เดินทางกลับมายังอำเภอโพทะเล ท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดคงคาราม ประมาณ 1 พรรษา แล้วจึงย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดท้ายน้ำ ท่านเป็นพระเรืองวิชา ชอบเล่นแร่ แปลธาตุ แต่ หลวงพ่อเงิน ท่านเคร่ง ธรรมวินัย ชอบความสงบ ท่านจึงได้ย้ายไปอยู่หมู่บ้านวังตะโก ลึกเข้าไปทางลำน้ำเก่า และต่อมาก็ได้สร้างวัดหิรัญญาราม (วัดวังตะโก)





"วัดวังตะโก" เกิดขึ้น เป็นพระอาราม "หลวงพ่อเงิน" ได้เป็นผู้สร้างไว้เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2377 ต่อมาวัดวังตะโก หรือวัดหิรัญญารามก็เจริญอย่างรวดเร็ว มีผู้คนเคารพนับถือและถวายตัวเป็นศิษย์ ขอมาฟังธรรมขอเครื่องรางของขลัง และขอให้หลวงพ่อช่วยรักษาโรคให้ ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์และสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณฝ่ายวิปัสสนา

หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยนั้น มีผู้คนมาให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์ให้ไม่ขาดสาย ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงินวัดบางคลานที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่อมาก็มีหลายท่าน เช่น หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ที่มีชื่อเสียงในด้านตะกรุดคู่ชีวิต หลวงพ่อน้อย วัดคงคาราม ผู้สร้างตะกรุดหนังปลากระเบน และตะกรุดหนังอีเก้ง ปลัดชุ่ม วัดท้ายน้ำ หลวงพ่อหอม วัดหลวง หลวงพ่อนวล วัดหาดมูลกระบือ หลวงพ่อฟุ้ง วัดปากน้ำ หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย หลวงพ่อไป๋ วัดท่าหลวงพล ผู้สร้างเหรียญหล่อหลวงพ่อเพชรจำลอง หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ เป็นต้น นอกจากนี้ศิษย์ฆราวาสก็คือเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

ท้ายที่สุด หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับสมณศักดิ์เป็นท่านเจ้าคุณ ฝ่ายวิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อเงิน ท่านได้มรณภาพ ด้วยโรคชรา เมื่อวันศุกร์เดือน 10 แรม 11 ค่ำ ปีมะแมเวลา 5.00 น.ตรงกับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2462รวมอายุได้ 111 ปีพรรษา 90 ณ วัดวังตะโก ตำบลบางคลาน อำเภอบางคลาน จังหวัดพิจิตร คงทิ้งไว้แต่เรื่องราวอันเป็นปาฏิหาริย์มากมาย นับว่าท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีอายุยืนนานมากที่สุดรูปหนึ่ง ประวัติหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร พระเครื่องหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานนับเป็นอีกหนึ่งในจำนานของวงการพระเครื่องไทย

0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติหลวงพ่อเงินพุทธโชติวัดบางคลาน (วัดหิรัญญาราม) อ.โพทะเลจ.พิจิตร หลวงพ่อเงินพุทธโชติมีนามเดิมว่า "เงิน" เกิดเมื่อวันศุกร์เดือน 10 ปีฉลูซึ่งตรงกับวันที่ 16 อำลาพ.ศ. 2348 บิดาชื่อนายอู๋มารดาชื่อนางฟักเป็นชาวบ้านตำบลบางคลานจังหวัดพิจิตรมีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันทั้งหมด 6 คนคนที่ 1 ชื่อฉันฉันพรมคนที่ 2 ชื่อทับคนที่ 3 ชื่อฉันฉันทองคนที่ 4 ชื่อฉันฉันเงินคนที่ชื่อฉันฉัน 5 หล่ำคนที่ 6 ชื่อฉันฉันรอด (ในหนังสือประวัติของท่านมีผู้เขียนไว้เป็น ๒ กระแสแต่ต่างยืนยันว่าท่านเกิดปีฉลูกระแสแรกว่าท่านเกิดปีฉลูพ.ศ. 2348 อีกกระแสท่านเกิดปีฉลูพ.ศ. 2360) ประวัติหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน "หลวงพ่อเงินพุทธโชติ" เป็นชาวบ้านบางคลานอำเภอบางคลานจังหวัดพิจิตรเป็นบุตรคนที่ 4 บิดาของท่านชื่ออู๋เป็นชาวบ้านบางคลานมารดาของท่านชื่อฟักเป็นชาวบ้านจังหวัดกำแพงเพชรตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งรัตนโกสินทร์มีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 6 คนด้วยกัน เมื่อปีพ.ศ. 2356 หลวงพ่อเงินอายุได้ 5 ขวบนายช่วงซึ่งเป็นครูของท่านได้พาหลวงพ่อเงินไปอยู่กรุงเทพฯ จนกระทั่งหลวงพ่อเงินเติบโตเข้าศึกษาเล่าเรียนได้จึงได้นำหลวงพ่อเงินไปฝากไว้ที่วัดตองปู (วัดชนะสงคราม) เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือที่วัดชนะสงครามตลอดมาจนถึงปีพ.ศ. 2363 หลวงพ่อเงินอายุได้ 12 ปีจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุครบบวชท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดชนะสงครามฉายาพุทธโชติแล้วหลวงพ่อเงินท่านได้จำพรรษาเพื่อปฏิบัติธรรมวินัยเรียนทางวิปัสสนากรรมฐานอยู่ได้ 3 พรรษาขณะที่ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงครามท่านได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาศิลปวิทยาคมตลอดจนเรียนวิปัสสนาธุระในทางเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรีจากเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒจารย์(โต)พรหมรังสีวัดระฆังโฆสิตาราม พออายุได้ ๒๐ ปีบิดา-มารดาและบรรดาญาติมีความประสงค์จะให้อุปสมบทแต่ "หลวงพ่อเงิน" ไม่ยอมเพราะเกรงว่าอายุของท่านจะไม่ครบบริบูรณ์จริงบรรดาญาติก็อนุโลมตามกระทั่งหลวงพ่ออายุได้ ๒๒ ปีตรงกับพ.ศ. ๒๓๗๓ ได้กำหนดวันอุปสมบทไม่ทราบว่าอุปัชฌาย์ชื่ออะไรเช่นกันได้ฉายาว่า "พุทธโชติ" หลังจากอุปสมบทแล้วได้ศึกษาเล่าเรียนธรรมะจนแตกฉานแล้วทำการฝึกฝนวิปัสสนาจนมีญาณสมาธิแก่กล้าจึงมุ่งศึกษาพุทธาคมจาก "หลวงพ่อโพธิ์วัดวังหมาเน่า" จนมีความชำนาญทางพุทธาคมมากมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เล่าลือกันในบรรดาชาวบ้านมากมายพอได้อุปสมบทแล้วท่านก็ยังศึกษาวิปัสสนากรรมฐานต่ออีกด้วยต่อมาอีก 3-4 ปีโยมปู่ของท่านป่วยหนักท่านจึงได้เดินทางกลับมายังอำเภอโพทะเลท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดคงคารามประมาณ 1 พรรษาแล้วจึงย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดท้ายน้ำท่านเป็นพระเรืองวิชาชอบเล่นแร่แปลธาตุแต่หลวงพ่อเงินท่านเคร่งธรรมวินัยชอบความสงบท่านจึงได้ย้ายไปอยู่หมู่บ้านวังตะโกลึกเข้าไปทางลำน้ำเก่าและต่อมาก็ได้สร้างวัดหิรัญญาราม (วัดวังตะโก) "วัดวังตะโก" เกิดขึ้นเป็นพระอาราม "หลวงพ่อเงิน" ได้เป็นผู้สร้างไว้เมื่อประมาณปีพ.ศ. 2377 ต่อมาวัดวังตะโกหรือวัดหิรัญญารามก็เจริญอย่างรวดเร็วมีผู้คนเคารพนับถือและถวายตัวเป็นศิษย์ขอมาฟังธรรมขอเครื่องรางของขลังและขอให้หลวงพ่อช่วยรักษาโรคให้ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์และสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณฝ่ายวิปัสสนา หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยนั้น มีผู้คนมาให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์ให้ไม่ขาดสาย ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงินวัดบางคลานที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่อมาก็มีหลายท่าน เช่น หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ที่มีชื่อเสียงในด้านตะกรุดคู่ชีวิต หลวงพ่อน้อย วัดคงคาราม ผู้สร้างตะกรุดหนังปลากระเบน และตะกรุดหนังอีเก้ง ปลัดชุ่ม วัดท้ายน้ำ หลวงพ่อหอม วัดหลวง หลวงพ่อนวล วัดหาดมูลกระบือ หลวงพ่อฟุ้ง วัดปากน้ำ หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย หลวงพ่อไป๋ วัดท่าหลวงพล ผู้สร้างเหรียญหล่อหลวงพ่อเพชรจำลอง หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ เป็นต้น นอกจากนี้ศิษย์ฆราวาสก็คือเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ท้ายที่สุดหลวงพ่อเงินวัดบางคลานท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์และได้รับสมณศักดิ์เป็นท่านเจ้าคุณฝ่ายวิปัสสนาจารย์หลวงพ่อเงินท่านได้มรณภาพด้วยโรคชราเมื่อวันศุกร์เดือน 10 แรม 11 ค่ำปีมะแมเวลา 5.00 น.ตรงกับวันที่ 20 อำลาพ.ศ. 2462รวมอายุได้ 111 ปีพรรษา 90 ณวัดวังตะโกตำบลบางคลานอำเภอบางคลานจังหวัดพิจิตรคงทิ้งไว้แต่เรื่องราวอันเป็นปาฏิหาริย์มากมายนับว่าท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีอายุยืนนานมากที่สุดรูปหนึ่งประวัติหลวงพ่อเงินวัดบางคลานจ.พิจิตรพระเครื่องหลวงพ่อเงินวัดบางคลานนับเป็นอีกหนึ่งในจำนานของวงการพระเครื่องไทย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
หลวงพ่อประวัติเงินพุทธโชติ
วัดบางคลาน (วัดหิรัญญาราม) อ. โพทะเลจ. พิจิตรหลวงพ่อเงินพุทธโชติมีนามเดิมว่าได้ "เงิน" เกิดเมื่อวันศุกร์เดือน 10 ปีฉลูซึ่งตรงกับวันที่ 16 กันยายนพ ศ 2348 บิดาชื่อนายอู๋มารดาชื่อนางฟัก เป็นชาวบ้านตำบลบางคลานจังหวัดพิจิตรมีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันทั้งหมด 6 คนคนที่ 1 ชื่อพรมคนที่ 2 ชื่อทับคนที่ 3 ชื่อทองคนที่ 4 ชื่อเงินคนที่ 5 ชื่อห ล่ำคนที่ 6 ชื่อรอด 2 กระแส แต่ต่างยืนยันว่าท่านเกิดปี ฉลูกระแสแรกว่าท่านเกิดปีฉลู พ.ศ. 2348 อีกกระแสท่านเกิดปีฉลู พ.ศ. 2360) ประวัติหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน "หลวงพ่อเงินพุทธโชติ" เป็นชาวบ้านบางคลานอำเภอบางคลาน จังหวัดพิจิตรเป็นบุตรคนที่ 4 บิดาของท่านชื่ออู๋เป็นชาวบ้าน บางคลานมารดาของท่านชื่อฟักเป็นชาวบ้านจังหวัด กำแพงเพชรตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งรัตนโกสินทร์มีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 6 ด้วยกันของคุณคนเมื่อปี พ.ศ. 2356 หลวงพ่อเงินอายุได้ 5 ขวบนายช่วงซึ่งเป็นครูของท่าน ได้พาหลวงพ่อเงินไปอยู่กรุงเทพฯ จึงได้นำหลวงพ่อเงินไปฝาก ไว้ที่วัดตองปู (วัดชนะสงคราม) พ.ศ. 2363 หลวงพ่อเงินอายุได้ 12 ปีจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ฉายาพุทธโชติแล้วหลวงพ่อเงินท่าน ได้จำพรรษา 3 ท่านได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์ ในทางเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรีจาก เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒจารย์ (โต) 20 ปี "หลวงพ่อเงิน" ไม่ยอมเพราะเกรงว่าอายุของท่าน จะไม่ครบบริบูรณ์จริง 22 ปีตรงกับ พ.ศ. 2373 "พุทธโชติ" ธรรมะจนแตกฉาน จึงมุ่งศึกษาพุทธาคมจาก "หลวงพ่อโพธิ์วัดวังหมาเน่า" จนมีความชำนาญทางพุทธา คมมาก ต่อมาอีก 3-4 ปีโยมปู่ของท่านป่วยหนัก ท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดคงคาราม ประมาณ 1 พรรษา ท่านเป็นพระเรืองวิชาชอบเล่นแร่ แปลธาตุ แต่หลวงพ่อเงินท่านเคร่งธรรมวินัยชอบความสงบ ลึกเข้าไปทางลำน้ำเก่าและต่อมา ก็ได้สร้างวัดหิรัญญาราม (วัดวังตะโก) "วัดวังตะโก" เกิดขึ้นเป็นพระอาราม "หลวงพ่อเงิน" ได้เป็นผู้สร้างไว้เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2377 ต่อมาวัดวังตะโก ขอมาฟังธรรมขอเครื่องรางของขลังและ ขอให้หลวงพ่อช่วยรักษาโรคให้ วัดบางคลาน เช่นหลวงพ่อพิ ธ วัดฆะมั ง หลวงพ่อน้อยวัดคงคารามผู้สร้าง ตะกรุดหนังปลากระเบนและตะกรุดหนังอีเก้งปลัดชุ่มวัดท้ายน้ำหลวงพ่อหอมวัดหลวงหลวงพ่อนวลวัดหาดมูลกระบือหลวงพ่อฟุ้งวัดปากน้ำหลวงพ่อขำวัดโพธิ์เตี้ยหลวงพ่อไป๋วัดท่าหลวงพล หลวงปู่ภูวัดท่าฬ่อเป็นต้น หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน และได้รับสมณศักดิ์เป็นท่านเจ้าคุณฝ่าย วิปัสสนาจารย์หลวงพ่อเงินท่านได้มรณภาพด้วยโรคชราเมื่อวันศุกร์เดือน 10 แรม 11 ค่ำปีมะแมเวลา 5.00 น. ตรงกับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2462 รวมอายุได้ 111 ปีพรรษา 90 ณ วัดวังตะโกตำบลบางคลานอำเภอ บางคลานจังหวัดพิจิตร ประวัติหลวงพ่อเงินวัดบางคลานจ. พิจิตรพระเครื่องหลวงพ่อเงิน























การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติหลวงพ่อเงินพุทธโชติวัดบางคลาน ( วัดหิรัญญาราม ) โพทะเลพิจิตรต . . . . .หลวงพ่อเงินพุทธโชติมีนามเดิมว่า " เงิน " เกิดเมื่อวันศุกร์เดือน 10 ปีฉลูซึ่งตรงกับวันที่ 16 กันยายนพ . ศ . 333 บิดาชื่อนายอู๋มารดาชื่อนางฟักเป็นชาวบ้านตำบลบางคลานจังหวัดพิจิตรมีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันทั้งหมด 6 คนคนที่ 1 ชื่อพรมคนที่ 2 ชื่อทับคนที่ 3 ชื่อทองคนที่ 4 ชื่อเงินคนที่ 5 ชื่อหล่ำคนที่ 6 ชื่อรอด ( ในหนังสือประวัติของท่านมีผู้เขียนไว้เป็น๒กระแสแต่ต่างยืนยันว่า ท่านเกิดปีฉลูกระแสแรกว่าท่านเกิดปีฉลูพ . ศ . 333 อีกกระแสท่านเกิดปีฉลูพ . ศ . 2373 )ประวัติหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน " หลวงพ่อเงินพุทธโชติ " เป็นชาวบ้านบางคลานอำเภอบางคลานจังหวัดพิจิตรเป็นบุตรคนที่ 4 บิดาของท่านชื่ออู๋เป็นชาวบ้านบางคลานมารดาของท่านชื่อฟักเป็นชาวบ้านจังหวัดกำแพงเพชรตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งรัตนโกสินทร์มีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 6 คนด้วยกันเมื่อปีพ . ศ . 2356 หลวงพ่อเงินอายุได้ 5 ขวบนายช่วงซึ่งเป็นครูของท่านได้พาหลวงพ่อเงินไปอยู่กรุงเทพฯจนกระทั่งหลวงพ่อเงินเติบโตเข้าศึกษาเล่าเรียนได้จึงได้นำหลวงพ่อเงินไปฝากไว้ที่วัดตองปู ( วัดชนะสงคราม ) เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือที่วัดชนะสงครามตลอดมาจนถึงปีพ . ศ . 2363 หลวงพ่อเงินอายุได้ 12 ปีจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุครบบวชท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดชนะสงครามฉายาพุทธโชติแล้วหลวงพ่อเงินท่านได้จำพรรษาเพื่อปฏิบัติธรรมวินัยเรียนทางวิปัสสนากรรมฐานอยู่ได้ 3 พรรษาขณะที่ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงครามท่านได้ ไปถวายตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาศิลปวิทยาคมตลอดจนเรียนวิปัสสนาธุระในทางเมตตามหานิยมและคงกระพันชาตรีจากเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒจารย์ ( โต ) พรหมรังสีวัดระฆังโฆสิตารามพออายุได้๒๐ . บิดา - มารดาและบรรดาญาติมีความประสงค์จะให้อุปสมบทแต่ " หลวงพ่อเงิน " ไม่ยอมเพราะเกรงว่าอายุของท่านจะไม่ครบบริบูรณ์จริงบรรดาญาติก็อนุโลมตามกระทั่งหลวงพ่ออายุได้๒๒ . ตรงกับพ . ศ . ๒๓๗๓ได้กำหนดวันอุปสมบทไม่ทราบว่าอุปัชฌาย์ชื่ออะไรเช่นกันได้ฉายาว่า " พุทธโชติ " หลังจากอุปสมบทแ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: