Results: Metabolic syndrome was pre

Results: Metabolic syndrome was present in 22.0% and 2.6% of the male and female officers, respectively. Women with short sleep had a significantly higher mean number of MS components (mean = 1.43) than those with longer sleep (mean = 0.81, p = 0.0316). Officers who stopped breathing during the night had more MS components (mean = 2.43) compared to those who did not (mean = 1.13, p = 0.0206).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์: หน่วยมี 22.0% และ 2.6% ของเจ้าหน้าที่ชาย และหญิง ตามลำดับ ผู้หญิงกับการนอนหลับระยะสั้นได้อย่างมีนัยสำคัญหมายถึงจำนวนส่วนประกอบของ MS (หมายถึง = 1.43) มากกว่าผู้ที่นอนหลับยาว (หมายถึง = 0.81, p = 0.0316) เจ้าหน้าที่หยุดหายใจในช่วงกลางคืนมี MS ส่วนประกอบ (หมายถึง = 2.43) เปรียบเทียบกับผู้ไม่ (หมายถึง = 1.13, p = 0.0206)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการศึกษา: กลุ่มอาการเมตาบอลิในปัจจุบันคือ 22.0% และ 2.6% ของเจ้าหน้าที่ชายและหญิงตามลำดับ ผู้หญิงที่มีการนอนหลับสั้นได้อย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นหมายถึงจำนวนขององค์ประกอบ MS (ค่าเฉลี่ย = 1.43) กว่าผู้ที่มีการนอนหลับอีกต่อไป (ค่าเฉลี่ย = 0.81, p = 0.0316) ผู้นำที่หยุดหายใจในช่วงกลางคืนมีมากขึ้นส่วนประกอบ MS (ค่าเฉลี่ย = 2.43) เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ (ค่าเฉลี่ย = 1.13, p = 0.0206)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลลัพธ์ : เมตาโบลิกซินโดรมในปัจจุบันคือ 80 % และ 2.8 % ของชายและพนักงานหญิง ตามลำดับ ผู้หญิงกับสั้นนอนยังสูงกว่าหมายถึงจำนวนขององค์ประกอบที่ MS ( ค่าเฉลี่ย = 1.43 ) มากกว่าผู้ที่มียาวนอน ( ค่าเฉลี่ย = 0.81 , p = 0.0316 ) เจ้าหน้าที่ที่หยุดหายใจ ในช่วงกลางคืนมี MS ส่วนประกอบ ( ค่าเฉลี่ย = 2.43 ) เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ ( ค่าเฉลี่ย = 1.13 , p = 0.0206 )