What is motivational interviewing?M

What is motivational interviewing?
Motivational interviewing is not a new concept. It was conceived in the early 1980s when American psychologist William R. Miller, PhD, described a therapeutic approach he had used with some success for people with alcohol problems.1 Today, Miller and colleagues describe motivational interviewing as “a directive, client-centered counseling style for eliciting behavior change by helping clients to explore and resolve ambivalence.”2 Essentially, it is a method for changing the direction of a conversation in order to stimulate the patient's desire to change and give him or her the confidence to do so. In contrast to many other change strategies employed by health care professionals (such as education, persuasion and scare tactics), motivational interviewing is more focused, goal directed and patient centered. A critical tenet is that the motivation for change must emanate from the patient rather than the physician. Although the majority of motivational interviewing training and study involves focused therapy, there is evidence that very brief (five-minute) sessions have positive results, particularly when patients are highly resistant to change.3 Thus, motivational interviewing is a strategy with great potential for time-pressed family physicians and their care team members.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวหัดคืออะไรสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวหัดไม่ใช่แนวคิดใหม่ มันถูกรู้สึกในช่วงทศวรรษที่ 1980 เมื่ออเมริกันจิตวิทยา William R. มิลเลอร์ ดร. อธิบายวิธีรักษามีเคยดีบางสำหรับคนที่มีแอลกอฮอล์ problems.1 วันนี้ มิลเลอร์ และอธิบายร่วมสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวหัดเป็น "ต่อการสั่งการ ลูกค้าศูนย์กลางให้คำปรึกษาลักษณะ eliciting เปลี่ยนลักษณะการทำงานโดยการช่วยลูกค้าในการสำรวจ และแก้ไข ambivalence" 2 เป็นหลัก มันเป็นวิธีสำหรับการเปลี่ยนแปลงทิศทางของการสนทนาเพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยของความปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลง และให้เขาหรือเธอมั่นใจที่จะทำ ตรงข้ามหลายอื่น ๆ เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์จ้าง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ (เช่นการศึกษา การจูงใจ และแผลกลยุทธ์), สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวหัดเป็นมากกว่าเน้น เป้าหมายโดยตรงและผู้ป่วยแปลก หลักสำคัญอยู่ที่แรงจูงใจสำหรับการเปลี่ยนแปลงต้อง emanate จากผู้ป่วยแทนแพทย์ แม้ว่าส่วนใหญ่เรียนหัดฝึกอบรมสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวและเกี่ยวข้องกับการบำบัดเน้น มีหลักฐานรอบเวลาสั้น ๆ (5 นาที) ที่มีผลบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ป่วยสูงทนต่อ change.3 ดัง หัดสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวคือ กลยุทธ์การ มีศักยภาพที่ดีเวลากดครอบครัวแพทย์และทีมผู้ดูแล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจคืออะไรสร้างแรงบันดาลใจการสัมภาษณ์ไม่ได้เป็นแนวคิดใหม่ มันกำลังท้องในต้นทศวรรษ 1980 เมื่อนักจิตวิทยาชาวอเมริกันวิลเลียมอาร์มิลเลอร์, PhD, อธิบายวิธีการรักษาที่เขาเคยใช้กับความสำเร็จบางอย่างสำหรับคนที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ problems.1 วันนี้มิลเลอร์และเพื่อนร่วมงานอธิบายสัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจเป็น "คำสั่งของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง รูปแบบการให้คำปรึกษาสำหรับการหาความรู้การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้วยการช่วยให้ลูกค้าในการสำรวจและแก้ไขปัญหาความสับสน. "2 โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นวิธีการเปลี่ยนทิศทางของการสนทนาเพื่อที่จะกระตุ้นความต้องการของผู้ป่วยในการเปลี่ยนแปลงและให้เขาหรือเธอมีความมั่นใจที่จะทำเช่นนั้น ในทางตรงกันข้ามกับกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ อีกมากมายการจ้างงานโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ (เช่นการศึกษาการโน้มน้าวใจและตกใจกลยุทธ์) การสัมภาษณ์จะสร้างแรงบันดาลใจมุ่งเน้นมากขึ้นเป้าหมายของผู้กำกับและผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ทฤษฎีที่สำคัญคือแรงจูงใจสำหรับการเปลี่ยนแปลงจะต้องออกมาจากผู้ป่วยมากกว่าแพทย์ แม้ว่าส่วนใหญ่ของการฝึกอบรมการสัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจการศึกษาและการรักษาด้วยการเกี่ยวข้องกับการมุ่งเน้นมีหลักฐานว่าสั้นมาก (ห้านาที) การประชุมมีผลในเชิงบวกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ป่วยมีความสูงทนต่อ change.3 ดังนั้นสัมภาษณ์สร้างแรงบันดาลใจเป็นกลยุทธ์ที่มีศักยภาพที่ดีสำหรับ เวลากดแพทย์ครอบครัวและสมาชิกในทีมดูแลของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรคือแรงจูงใจสัมภาษณ์ ?
แรงจูงใจสัมภาษณ์ไม่ใช่แนวคิดใหม่ มันถูกคิดค้นขึ้นในต้นทศวรรษ 1980 เมื่อนักจิตวิทยาชาวอเมริกัน วิลเลียม อาร์ มิลเลอร์ , ปริญญาเอก , อธิบายวิธีการรักษาโรคที่เขาได้ใช้กับความสำเร็จบางอย่างสำหรับคนที่มีปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 วันนี้ มิลเลอร์และเพื่อนร่วมงานอธิบายแรงจูงใจสัมภาษณ์เป็น " คำสั่งลูกค้าเป็นศูนย์กลางรูปแบบสำหรับการให้คำปรึกษา eliciting เปลี่ยนพฤติกรรมโดยการช่วยลูกค้าในการค้นหาและแก้ไขความสับสน " 2 เป็นหลัก มันเป็นวิธีสำหรับการเปลี่ยนแปลงทิศทางของการสนทนา เพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้ป่วยเปลี่ยนไป และให้เขาหรือเธอมีความมั่นใจที่จะทำเช่นนั้น ในทางตรงกันข้ามกับหลายอื่น ๆเปลี่ยนกลวิธีโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ ( เช่น การศึกษาการโน้มน้าวใจ และทำให้กลยุทธ์ ) , แรงจูงใจสัมภาษณ์จะเน้นเป้าหมายที่กำกับและผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง หลักการที่สำคัญคือ แรงจูงใจในการเปลี่ยนแปลงต้องไหลจากคนไข้มากกว่าแพทย์ แม้ว่าส่วนใหญ่ของแรงจูงใจสัมภาษณ์ การฝึกอบรมและการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเน้นการบำบัด มีหลักฐานว่าสั้นมาก ( 5 นาที ) รอบได้ผลลัพธ์ที่เป็นบวกโดยเฉพาะเมื่อผู้ป่วยมีการต่อต้านการเปลี่ยนแปลง 3 ดังนั้นแรงจูงใจสัมภาษณ์เป็นกลยุทธ์ที่มีศักยภาพที่ดีสำหรับเวลากดแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและสมาชิกของพวกเขาดูแลทีม