Non-Self-Advocacy—Another participa

Non-Self-Advocacy—Another participant, ‘Anne’, illustrates how the absence of selfadvocacy’s
antecedents or an inability to internalize skills and resources into self-advocating
actions can lead to poorer outcomes. Anne feels that having to deal with her symptoms is
‘worse than death’ and while she dreams of getting back to life, has difficulty developing a
plan to achieve a new, more positive normal: ‘I would like to get on with my life and maybe
return to work, but the peripheral neuropathy and fibromyalgia I incurred with chemo and
the lack of [my oncologist] treating these conditions makes that impossible’.
Anne’s personal characteristics, lack of learned skills and lack of support put her at risk for
increased symptom distress. She possesses a drive to overcome her symptoms: ‘I wish I
could get back to normal’, but lacks the personal awareness and openness to try new
strategies for symptom management: ‘The only things I have tried are Cymbalta which does
not work and B6 which also does not work. I do not want to take Neurontin because I don't
like the side effects of it’. In terms of learned skills, Anne’s message board posts do not
reflect information-seeking or problem solving skills. The communication between her and
her healthcare team has broken down as she adamantly blames her oncologist for her

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม่ตนเองหลุย — ผู้อื่นเข้าร่วม 'แอนน์' แสดงวิธีการขาดงานของ selfadvocacyantecedents หรือไม่สามารถ internalize ทักษะและทรัพยากรในตนเอง advocatingการดำเนินการสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ย่อม แอนน์รู้สึกว่า มีการจัดการกับอาการของเธออยู่'เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย' ในขณะที่เธอ ความฝันกับชีวิต มีปัญหาในการพัฒนาเป็นวางแผนให้ปกติใหม่ บวกมากขึ้น: ' อยากรีบชีวิต และบางทีกลับไปทำ งาน แต่ neuropathy พ่วง และฉันเกิด ด้วย chemo fibromyalgia และการขาด [oncologist ของฉัน] รักษาเงื่อนไขเหล่านี้ทำให้ที่เป็นไปไม่ได้ '.ลักษณะส่วนบุคคลของแอนน์ ขาดทักษะการเรียนรู้และขาดการสนับสนุนทำให้เธอเสี่ยงสำหรับอาการเพิ่มขึ้นความทุกข์ เธอมีไดรฟ์ที่จะเอาชนะอาการเธอ: ' ฉันต้องการฉันไม่สามารถกลับปกติ ', แต่ขาดความรู้ส่วนบุคคลและเปิดรับการลองใหม่กลยุทธ์สำหรับการจัดการอาการ: ' Cymbalta ซึ่งไม่มีสิ่งเดียวที่ฉันได้พยายามไม่ทำงานและ B6 ซึ่งยัง ไม่ได้ ไม่อยากใช้ Neurontin เนื่องจากฉันไม่ชอบผลข้างเคียงของมัน ' ในด้านทักษะการเรียนรู้ กระดานข้อความของแอนน์ไม่โพสต์สะท้อนให้เห็นถึงทักษะในการแก้ไขปัญหาหรือการแสวงหาข้อมูล การสื่อสารระหว่างเธอ และทีมแพทย์ของเธอเสียแล้วเป็นนาง adamantly blames oncologist ของเธอสำหรับเธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม่ใช่Non- -เองSelf- -ผู้สนับสนุนAdvocacy- —ผู้เข้าร่วมอีก' แสดงให้เห็นว่าตัวตนของ 's บุคคลหรือไม่สามารถที่จะ ทักษะและทรัพยากรในตัวเองเรียกร้องการกระทำที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยากจน Another participant, ‘Anne’, illustrates how the absence of selfadvocacy’s
antecedents or an inability to internalize skills and resources into self-advocating
actions can lead to poorer outcomes. Anne feels that having to deal with her symptoms is
‘worse than death’ and while she dreams of getting back to life, has difficulty developing a
plan to achieve a new, more positive normal: ‘I would like to get on with my life and maybe
return to work, but the peripheral neuropathy and fibromyalgia I incurred with chemo and
the lack of [my oncologist] treating these conditions makes that impossible’.
Anne’s personal characteristics, lack of learned skills and lack of support put her at risk for
increased symptom distress. She possesses a drive to overcome her symptoms: ‘I wish I
could get back to normal’, but lacks the personal awareness and openness to try new
strategies for symptom management: ‘The only things I have tried are Cymbalta which does
not work and B6 which also does not work. I do not want to take Neurontin because I don't
like the side effects of it’. In terms of learned skills, Anne’s message board posts do not
reflect information-seeking or problem solving skills. The communication between her and
her healthcare team has broken down as she adamantly blames her oncologist for her

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่ใช่ผู้สนับสนุนตนเองผู้เข้าร่วมอื่น ' แอน ' , แสดงให้เห็นว่าการขาดงานของบรรพบุรุษของ selfadvocacy
หรือไม่สามารถเข้าถึงทักษะและทรัพยากรในตัวสนับสนุนการกระทำสามารถนำไปสู่ผล
คลิ แอนรู้สึกว่าต้องจัดการกับอาการของเธอ
'worse กว่าความตาย ' ในขณะที่เธอฝันในการได้รับกลับมามีปัญหาการพัฒนา
วางแผนที่จะบรรลุใหม่บวกมากขึ้น ปกติ : ' ฉันต้องการที่จะได้รับกับชีวิตของฉันและบางที
กลับมาทำงาน แต่ peripheral neuropathy และ Fibromyalgia หนูที่เกิดกับคีโมและการรักษา
[ ของฉัน ] การรักษาเงื่อนไขเหล่านี้ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ ' .
แอนน์ ลักษณะส่วนบุคคล การขาดทักษะการเรียนรู้ และขาดการสนับสนุนใส่เธอ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับ
ความทุกข์ทรมาน .เธอมีคุณสมบัติขับเพื่อเอาชนะอาการของเธอว่า ' ฉันหวังว่า
สามารถกลับสู่ภาวะปกติ แต่ยังขาดการรับรู้ส่วนบุคคลและเปิดกว้างที่จะลองกลยุทธ์ใหม่สำหรับการจัดการอาการ :
' สิ่งเดียวที่ฉันพยายามจะ cymbalta ซึ่งยังไม่ทำงานและ B6
ซึ่งยังไม่ทำงาน ผมไม่ต้องการใช้นิวรอนตินเพราะฉันไม่
ชอบผลข้างเคียงของมัน ' ในแง่ของการได้เรียนรู้ทักษะกระดานข้อความของแอนโพสต์ไม่ได้
สะท้อนการแสวงหาความรู้ หรือ ทักษะการแก้ปัญหา การสื่อสารระหว่างเธอและ
ทีมสุขภาพของเธอเสีย เธอยืนกรานว่าเนื้องอกของเธอ