“I fell down from where we used to

“I fell down from where we used to live, a 2 story home. I suffered
dizziness and fell. Then I hurt my arm falling [pointing to
her right arm]. I went to the hospital and they never treated me
because of not having money [to pay for care]. I spent all day
there and then I had to come back [home without any care] and
so I took my husband's medicine for pain.”
Rosa uses Juan's prescription painkillers in order to manage her
injury after being turned away at a local private hospital for lacking
insurance or a down payment. Drawing on her husband's prescription
resources, Rosa mobilizes social capital to receive drugs
despite exclusion from a formal healthcare institution. Rosa's case
is a very clear example of how healthcare strategies using nondominant
kinds of CHC, here social capital, are activated in
response to exclusion from mainstream healthcare resources like
emergency rooms.
Using social networks to facilitate prescription drug access is
also a feature of following strategies for navigating healthcare on
the margins. Although many times patients themselves devise
ways of seeking prescription medication despite lacking health
insurance and other resources, often family and friends play a role
in nurturing health and navigating institutions. The common nature
of accounts like Rosa's and Louria's in the study illustrate how
familial and social capital are crucial parts of CHC in South Texas
Mexican American communities.


4.2. Seeking prescription drugs in Mexico
Given relatively higher prices of U.S. pharmaceuticals (Fullerton
and Miranda, 2011) and U.S. healthcare access barriers identified in
Latina/o immigrant health research, many South Texas border
residents (insured and uninsured) travel to Mexico for prescription
medication (Su et al., 2010). Two policies complicate the widespread
local practice of seeking medications in Mexico: pharmaceutical
importation policies and passport policies. Importation
policies outlined by the U.S. Food and Drug Administration and
enforced by Customs and Border Patrol require a U.S. physician's
prescription for most drugs (even non-narcotic basic health
maintenance drugs) and limit the amount and types of importable
drugs (21 C.F.R. x1301.26 (2004); CBP 2012; FDA 2011). Immigration
control policies requiring passports at border ports of entry add
costs to crossing to Mexico for prescription drugs ($55 per adult
and $40 per child for a passport card). Passport policies also mean
border crossing for prescription drugs is nearly impossible for unauthorized
immigrants living in Texas who lack appropriate visas to
reenter the U.S. after such a journey (Madden, 2013).
Mexican Americans in South Texas employ a range of strategies
that use familial, social, navigational, and linguistic capital to either
follow or undermine border policies. Mari is a 56-year-old unemployed
permanent U.S. resident from Mexico who has trouble

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"ผมล้มลงจากการที่เราใช้อยู่ ชั้น 2 ที่บ้าน ฉันรับความเดือดร้อนมึนและลดลงมือ แล้ว ฉันเจ็บฉันแขนตก [ชี้ไปที่ด้านขวาแขน] ผมไปโรงพยาบาล และพวกเขาไม่เคยถือว่าฉันเพราะไม่มีเงิน [จ่ายสำหรับดูแล] ฉันใช้เวลาทั้งวันมีแล้วผมจะกลับมา [บ้านไม่ดูแลใด ๆ] และดังนั้น ฉันเอายาของสามีปวด"โรซ่าใช้ยาแก้ปวดยาของ Juan เพื่อจัดการเธอบาดเจ็บหลังจากการเปิดไปที่ส่วนตัวภายในโรงพยาบาลขาดประกันหรือเงินดาวน์ วาดบนใบสั่งยาของสามีทรัพยากร โร mobilizes ราคาทุนทางสังคมการรับยาเสพติดแม้จะแยกออกจากสถาบันการแพทย์อย่างเป็นทางการ กรณีของโรเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากของกลยุทธ์วิธีดูแลสุขภาพที่ใช้ nondominantเรียกใช้งานในชนิดของ CHC ทุนทางสังคมที่นี่ตอบแยกจากทรัพยากรสุขภาพที่สำคัญเช่นห้องฉุกเฉินการใช้เครือข่ายทางสังคมเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงยายาเป็นนอกจากนี้ลักษณะของกลยุทธ์ต่อไปนี้สำหรับการนำทางสุขภาพในระยะขอบ แม้ว่าหลายครั้งผู้ป่วยเอง ประดิษฐ์วิธีของวิตามินแม้จะขาดสุขภาพประกันภัย และอื่น ๆ ทรัพยากร ครอบครัวมัก และเพื่อนมีบทบาทnurturing สุขภาพ และนำสถาบัน ลักษณะทั่วไปบัญชีเหมือนของโรและ Louria ในการศึกษาแสดงว่าทุนทางสังคม และภาวะเป็นส่วนสำคัญของ CHC ในเท็กซัสใต้ชุมชนอเมริกันเม็กซิกัน4.2 การหายาเสพติดในเม็กซิโกราคาค่อนข้างสูงของยาสหรัฐอเมริกา (ฟูลเลอร์ตันที่ได้รับและมิรัน ดา 2011) และอุปสรรคการเข้าถึงแพทย์สหรัฐฯ ระบุในลาติ น่า/o อพยพวิจัยสุขภาพ เส้นขอบใต้เท็กซัสมากคน (ผู้เอาประกันภัยและไม่มีประกัน) เดินทางไปเม็กซิโกในใบสั่งยายา (Su et al., 2010) นโยบายสอง complicate แพร่หลายปฏิบัติภายในของยาในเม็กซิโก: เภสัชกรรมหนังสือเดินทางนโยบายและนำนโยบาย นำเข้านโยบายที่ระบุไว้ โดยสหรัฐอเมริกาอาหารและยา และบังคับใช้โดยศุลกากรและลาดตระเวนชายแดนต้องของแพทย์สหรัฐอเมริกายายาเสพติดมากที่สุด (แม้ไม่ใช่เสพพื้นฐานสุขภาพยาบำรุง) และจำกัดจำนวนและชนิดของการนำเข้ายาเสพติด (21 C.F.R. x1301.26 (2004); CBP 2012 FDA 2011) ตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มนโยบายการควบคุมต้องใช้หนังสือเดินทางที่พอร์ตเส้นขอบของรายการต้นทุนข้ามสู่เม็กซิโกยา ($55 ต่อผู้ใหญ่ก $40 ต่อรองบัตรหนังสือเดินทาง) นโยบายหนังสือยังหมายถึงข้ามเส้นขอบสำหรับยาเกือบเป็นไปไม่ได้สำหรับการไม่ได้รับอนุญาตอพยพที่อาศัยอยู่ในรัฐเทกซัสที่มีวีซ่าที่เหมาะสมให้ใส่สหรัฐฯ หลังจากนั้นการเดินทาง (Madden, 2013)เม็กซิกันอเมริกันในเท็กซัสใต้จ้างกลยุทธ์ต่าง ๆที่ใช้ภาวะ สังคม นำทาง และภาษาศาสตร์ทุนอย่างใดอย่างหนึ่งทำตาม หรือบั่นทอนนโยบายขอบ มารีเป็นดังอายุ 56 ปีสหรัฐถาวรที่มีถิ่นที่อยู่จากเม็กซิโกที่มีปัญหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"ผมล้มลงจากที่เราเคยใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน 2 ชั้น
ฉันได้รับความเดือดร้อนอาการวิงเวียนศีรษะและลดลง จากนั้นฉันก็เจ็บแขนของฉันลดลง
[ชี้ไปที่แขนข้างขวาของเธอ] ผมไปโรงพยาบาลและได้รับการรักษาพวกเขาไม่เคยให้ผมเพราะไม่ได้มีเงิน [ที่จะจ่ายสำหรับการดูแล]
ผมใช้เวลาตลอดทั้งวันมีแล้วผมต้องกลับมา [บ้านโดยไม่ต้องดูแลใด ๆ ] และดังนั้นฉันเอายาสามีของฉันสำหรับความเจ็บปวด. "โรซ่าใช้ยาแก้ปวดยาฆเพื่อจัดการเธอได้รับบาดเจ็บหลังจากที่ถูกหันไปที่โรงพยาบาลเอกชนในท้องถิ่นขาดประกันหรือการชำระเงินลง การวาดภาพบนสามีของเธอตามใบสั่งแพทย์ทรัพยากร Rosa ระดมทุนทางสังคมที่จะได้รับยาเสพติดแม้จะมีการยกเว้นจากสถาบันด้านการดูแลสุขภาพอย่างเป็นทางการ กรณีโรซาส์เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของวิธีการกลยุทธ์การดูแลสุขภาพโดยใช้ nondominant ชนิดของ CHC เมืองหลวงที่นี่สังคมจะเปิดใช้งานในการตอบสนองต่อการยกเว้นจากแหล่งข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพที่สำคัญเช่นห้องฉุกเฉิน. การใช้เครือข่ายทางสังคมเพื่อความสะดวกในการกําหนดการเข้าถึงยาเสพติดยังมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้กลยุทธ์สำหรับการนำทางด้านการดูแลสุขภาพในระยะขอบ แม้ว่าผู้ป่วยหลายครั้งตัวเองประดิษฐ์วิธีการของยาตามใบสั่งแพทย์ที่กำลังมองหาแม้จะขาดสุขภาพประกันภัยและทรัพยากรอื่นๆ ที่มักจะครอบครัวและเพื่อน ๆ มีบทบาทสำคัญในการบำรุงสุขภาพและการนำสถาบัน ธรรมชาติที่พบบ่อยของบัญชีเช่นโรซ่าและ Louria ในการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเงินทุนในครอบครัวและสังคมเป็นส่วนสำคัญของCHC ในเซาท์เท็กซัสเม็กซิกันอเมริกันชุมชน. 4.2 ที่กำลังมองหายาตามใบสั่งแพทย์ในเม็กซิโกได้รับราคาที่ค่อนข้างสูงของยาสหรัฐ(ฟุลเลอร์และมิแรนดา2011) และสหรัฐอเมริกาอุปสรรคการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่ระบุไว้ในLatina / o การวิจัยสุขภาพของผู้อพยพหลายเท็กซัสชายแดนที่อาศัยอยู่(ประกันตนและประกันภัย) เดินทางไปยังเม็กซิโกตามใบสั่งยา( ซู et al., 2010) สองนโยบายซับซ้อนอย่างกว้างขวางการปฏิบัติของท้องถิ่นที่กำลังมองหายาในเม็กซิโก: ยานโยบายการนำเข้าและนโยบายหนังสือเดินทาง การนำเข้านโยบายที่ระบุไว้โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐและบังคับใช้โดยศุลกากรและตระเวนชายแดนต้องมีแพทย์สหรัฐใบสั่งยาสำหรับยาเสพติดมากที่สุด(แม้จะไม่ใช่ยาเสพติดสุขภาพขั้นพื้นฐานยาเสพติดการบำรุงรักษา) และ จำกัด จำนวนและประเภทของ importable ยาเสพติด (21 CFR x1301.26 (2004); CBP 2012; 2011 องค์การอาหารและยา) ตรวจคนเข้าเมืองนโยบายการควบคุมที่ต้องใช้หนังสือเดินทางที่ท่าเรือชายแดนของรายการเพิ่มค่าใช้จ่ายที่จะข้ามไปยังเม็กซิโกสำหรับยาตามใบสั่งแพทย์($ 55 ต่อผู้ใหญ่และ$ 40 ต่อเด็กบัตรหนังสือเดินทาง) นโยบายหนังสือเดินทางยังหมายถึงการข้ามพรมแดนสำหรับยาตามใบสั่งแพทย์เป็นไปไม่ได้เกือบสำหรับไม่ได้รับอนุญาตผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในเท็กซัสที่ขาดการขอวีซ่าที่เหมาะสมในการเข้าสู่สหรัฐอเมริกาหลังจากนั้นเดินทาง(Madden, 2013). เม็กซิกันอเมริกันในเซาท์เท็กซัสจ้างช่วงของกลยุทธ์ที่ใช้ครอบครัวสังคมเดินเรือและภาษาทั้งเงินทุนที่จะทำตามหรือบ่อนทำลายนโยบายชายแดน มารีเป็น 56 ปีตกงานถาวรถิ่นที่อยู่ในสหรัฐฯจากเม็กซิโกที่มีปัญหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" ฉันล้มลงจากที่เราเคยอยู่ เป็น 2 เรื่องบ้าน ฉันได้รับความเดือดร้อน
หน้ามืดและล้มลง แล้วแขนผมเจ็บล้ม [ ชี้ไปที่
เธอแขนข้างขวา ] ฉันไปโรงพยาบาล และเขาไม่เคยปฏิบัติกับฉัน
เพราะไม่มีเงินจะจ่ายสำหรับการดูแล ] ฉันใช้เวลาทั้งวัน
มีแล้ว ผมต้องกลับไปบ้านโดยไม่สนใจใด ๆและ [ ]
ดังนั้นฉันเอายาให้สามีเจ็บปวด "
.โรซ่าใช้ฮวนใบสั่งยาแก้ปวดในการจัดการการบาดเจ็บของเธอ
หลังจากถูกหันไปที่ รพ. เอกชนท้องถิ่น ขาด
ประกันหรือเงินดาวน์ วาดภาพของสามีคนอื่น
ทรัพยากร โรซ่า ระดมทุนทางสังคมเพื่อรับยา
แม้จะมีการยกเว้นจากสถาบันสุขภาพอย่างเป็นทางการ โรซ่า
กรณีเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของวิธีการดูแลสุขภาพกลยุทธ์การ nondominant
ชนิดของ CHC ทุนทางสังคมมาใช้งานในการยกเว้นจากหลัก

ดูแลสุขภาพทรัพยากร เช่น ห้องฉุกเฉิน การใช้เครือข่ายทางสังคมเพื่อความสะดวก

ยังเข้าถึงยา prescription คุณลักษณะดังต่อไปนี้กลยุทธ์สํารวจสุขภาพบน
ขอบ . แม้ว่าหลายครั้งผู้ป่วยที่ตัวเองประดิษฐ์
วิธีการค้นหา prescription ยาแม้จะขาดการประกันสุขภาพ
และทรัพยากรอื่น ๆ บ่อยครั้งที่ครอบครัวและเพื่อนมีบทบาท
ในการเลี้ยงดูสุขภาพและการนําสถาบัน ธรรมดาธรรมชาติ
บัญชีเหมือนโรซ่าและ louria ในการศึกษาแสดงให้เห็นว่า
ครอบครัว และทุนทางสังคม เป็นส่วนสําคัญของ CHC ในชุมชนภาคใต้เท็กซัสเม็กซิกันอเมริกัน



4.2 .ค้นหายาในเม็กซิโก
ให้ราคาค่อนข้างสูงของยาของสหรัฐอเมริกา ( -
และ มิรันด้า , 2011 ) และสหรัฐระบุในการเข้าถึงอุปสรรค
Latina / o การวิจัยสุขภาพผู้อพยพหลาย South Texas ชายแดน
ผู้ประกันตนและไม่มีประกันภัย ) เดินทางไปเม็กซิโกสำหรับยาตามใบสั่งแพทย์
( ซู et al . , 2010 ) นโยบายที่ 2 ซับซ้อนฉาว
การปฏิบัติของการแสวงหายาท้องถิ่นในเม็กซิโก : เภสัชกรรม
การนํานโยบายและหนังสือเดินทาง นโยบาย สินค้านำเข้า
นโยบายที่ระบุไว้โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาและ
บังคับใช้ โดยตระเวนชายแดนสหรัฐอเมริกาศุลกากรและมีแพทย์
ใบสั่งยา ยาส่วนใหญ่ ( แม้ไม่ใช่ยาเสพติดพื้นฐานการบำรุงรักษาสุขภาพ
ยา ) และ จำกัด จำนวนและประเภทของสินค้านำเข้า
ยา ( 21 กระดิ่ง x1301 .26 ( 2004 ) ; ตรวจสอบ 2012 ; FDA 2011 ) ตรวจคนเข้าเมืองที่ชายแดนต้องใช้หนังสือเดินทาง
นโยบายควบคุมพอร์ตของรายการค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ข้ามไปเม็กซิโกสำหรับยา ( $ 55 ต่อผู้ใหญ่และ $ 40 ต่อ
เด็กบัตรประชาชน ) นโยบายพาสปอร์ตยังหมายถึง
ข้ามพรมแดนสำหรับยาเป็นไปไม่ได้เกือบสำหรับไม่ได้รับอนุญาต
ผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในเท็กซัส ที่ยังไม่มีวีซ่าที่เหมาะสม

กลับเข้าสู่สหรัฐอเมริกาหลังจากการเดินทางที่แสน ( Madden , 2013 ) .
เม็กซิกันอเมริกันในภาคใต้เท็กซัสจ้างช่วงของกลยุทธ์
ที่ใช้ครอบครัว สังคม การเดินเรือ และทุนทางภาษาทั้ง
ติดตามหรือบ่อนทำลายนโยบายชายแดน มาริเป็น 56 ปีว่างงาน
ถาวรสหรัฐฯจากเม็กซิโกที่มีปัญหา

















ถิ่น