6. ConclusionsThe South Korean gove

6. Conclusions

The South Korean government announced its aim to reduce by 2020 its national GHG emissions by 30%, relative to the BAU sce- nario; in achieving this target, the transportation sector will bear the highest rate of reduction (34.3%) [4,9]. The current study investigated the effectiveness of policies that the South Korean government has imposed on the transportation sector, and ana- lyzed the ripple effect it will have on energy and environmental aspects if the policies are maintained until 2050.
This study considered five policies, in terms of scenarios: fuel efficiency improvements (IFE), the distribution of green cars (GC and CGC), an expansion in public transportation shift (PTS), and the reinforcement of modal shift (MS). To distinguish the effects of var- ious vehicle models, the green car scenario was subdivided into two scenarios: clean diesel/hybrid cars were the focus of the GC scenario, and the CGC scenario centered on hydrogen fuel cell/electric vehicles. Among the five alternative scenarios, the improved fuel efficiency policy for vehicles resulted in the largest reduction of energy con- sumption and GHG emissions. The sector-based shares of total energy demand in 2011 were as follows: the ground transportation sector, 80.6%; the railway sector, 0.9%; the maritime transportation sector, 9.1%; and the air transportation sector, 9.4%. Analysis of the sector-based shares of GHG emissions garnered the following results: the ground transportation sector, 79.3%; the railway sector, 1.3%; the maritime transportation sector, 9.5%; and the air transportation sector, 9.8%. Since the ground transportation sector accounted for approximately 80% of the total transportation sector from energy and environmental perspectives, the ripple effect resulting from improved fuel efficiency was found to be much greater than that of
the others, proving it to be the most effective policy.
Analysis of the green car distribution scenario indicated that its effect on energy consumption and GHG reduction was lower than expected, considering that the analysis was conducted on the ambitious premise that green cars would account for 43% of the transportation sector in 2020 and 90% in 2050. The cause of these lower-than-expected results seems to be the overwhelming market share of clean diesel vehicles in the hybrid/clean diesel vehicle- centered GC scenario and the electric/hydrogen fuel cell-centered

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

6. บทสรุปรัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศเป้าหมายสำคัญลด 2563 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกแห่งชาติ 30% สัมพันธ์กับ sce BAU-nario ในการบรรลุเป้าหมายนี้ ภาคขนส่งจะแบกอัตราสูงสุดของการลด (34.3%) [4, 9] . การศึกษาปัจจุบันตรวจสอบประสิทธิผลของนโยบายที่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้กำหนดภาคการขนส่ง และอานา lyzed ระลอกที่มันจะมีพลังงานและสิ่งแวดล้อมด้านนโยบายจะรักษาจนถึง 2050This study considered five policies, in terms of scenarios: fuel efficiency improvements (IFE), the distribution of green cars (GC and CGC), an expansion in public transportation shift (PTS), and the reinforcement of modal shift (MS). To distinguish the effects of var- ious vehicle models, the green car scenario was subdivided into two scenarios: clean diesel/hybrid cars were the focus of the GC scenario, and the CGC scenario centered on hydrogen fuel cell/electric vehicles. Among the five alternative scenarios, the improved fuel efficiency policy for vehicles resulted in the largest reduction of energy con- sumption and GHG emissions. The sector-based shares of total energy demand in 2011 were as follows: the ground transportation sector, 80.6%; the railway sector, 0.9%; the maritime transportation sector, 9.1%; and the air transportation sector, 9.4%. Analysis of the sector-based shares of GHG emissions garnered the following results: the ground transportation sector, 79.3%; the railway sector, 1.3%; the maritime transportation sector, 9.5%; and the air transportation sector, 9.8%. Since the ground transportation sector accounted for approximately 80% of the total transportation sector from energy and environmental perspectives, the ripple effect resulting from improved fuel efficiency was found to be much greater than that ofthe others, proving it to be the most effective policy.การวิเคราะห์สถานการณ์การกระจายรถสีเขียวแสดงว่า มีผลต่อการใช้พลังงานและลดก๊าซเรือนกระจกต่ำกว่าที่คาด พิจารณาว่า ดำเนินการวิเคราะห์เกี่ยวกับความทะเยอทะยานว่า รถสีเขียวคันจะบัญชีสำหรับ 43% ภาคการขนส่งในปี 2020 และ 90% ในปี 2050 สาเหตุของผลลัพธ์ต่ำกว่าคาดหวังเหล่านี้ดูเหมือน จะ ครอบงำส่วนแบ่งการตลาดรถดีเซลสะอาดในไฮบริสะอาดดีเซลรถ - ศูนย์กลางสถานการณ์ GC และไฟฟ้า/ไฮโดรเจนเซลล์เชื้อเพลิงเป็นศูนย์กลาง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

6. สรุป

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศจุดมุ่งหมายที่จะลดในปี 2020 ปล่อยก๊าซเรือนกระจกของชาติขึ้น 30% เมื่อเทียบกับบัว sce- nario; ในการบรรลุเป้าหมายนี้ภาคการขนส่งจะแบกอัตราที่สูงที่สุดของการลด (34.3%) [4,9] การศึกษาในปัจจุบันการตรวจสอบประสิทธิภาพของนโยบายที่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้กำหนดไว้ในภาคการขนส่งและ ana- lyzed ระลอกก็จะมีพลังงานและสิ่งแวดล้อมหากนโยบายที่จะรักษาจนกระทั่งปี 2050
การศึกษานี้ถือว่า Fi ได้นโยบายใน แง่ของสถานการณ์ปรับปรุงเชื้อเพลิง EF Fi ciency (IFE) การกระจายตัวของรถยนต์สีเขียว (GC และ CGC) การขยายตัวของการเปลี่ยนแปลงการขนส่งสาธารณะ (PTS) และการเสริมแรงของการเปลี่ยนแปลงกิริยา (MS) ที่จะแยกแยะผลกระทบของรถรุ่น IOUs var- ที่สถานการณ์รถสีเขียวถูกแบ่งออกเป็นสองสถานการณ์: รถยนต์ดีเซล / ไฮบริดที่สะอาดเป็นจุดสนใจของสถานการณ์ GC และสถานการณ์ CGC ศูนย์กลางในเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน / ยานพาหนะไฟฟ้า ท่ามกลาง Fi จะได้สถานการณ์ทางเลือกที่ EF นโยบาย ciency ปรับปรุงเชื้อเพลิง Fi สำหรับยานพาหนะที่มีผลในการลดลงที่ใหญ่ที่สุดของสิ้นเปลืองพลังงานอย่างต่อและปล่อยก๊าซเรือนกระจก หุ้นภาค-based ของความต้องการพลังงานทั้งหมดในปี 2011 มีดังนี้ภาคการขนส่งภาคพื้นดิน, 80.6%; ภาครถไฟ 0.9%; ภาคการขนส่งทางทะเล 9.1%; และภาคการขนส่งทางอากาศที่ 9.4% การวิเคราะห์หุ้นภาคที่ใช้ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวบรวมผลต่อภาคการขนส่งภาคพื้นดินที่ 79.3%; ภาครถไฟ 1.3%; ภาคการขนส่งทางทะเล 9.5%; และภาคการขนส่งทางอากาศที่ 9.8% ตั้งแต่ภาคการขนส่งภาคพื้นดินคิดเป็นประมาณ 80% ของภาคการขนส่งรวมจากการใช้พลังงานและมุมมองด้านสิ่งแวดล้อมระลอกผลที่เกิดจากการปรับตัวดีขึ้น Fi ciency เชื้อเพลิง EF พบว่ามีมากขึ้นกว่า
คนอื่น ๆ ที่พิสูจน์ให้เป็นนโยบายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
การวิเคราะห์สถานการณ์การกระจายรถสีเขียวชี้ให้เห็นว่าผลกระทบต่อการใช้พลังงานและการลดก๊าซเรือนกระจกลดลงกว่าที่คาดไว้พิจารณาว่าการวิเคราะห์ได้ดำเนินการในสถานที่ที่มีความทะเยอทะยานว่ารถยนต์สีเขียวจะบัญชีสำหรับ 43% ของภาคการขนส่งในปี 2020 และ 90% ใน 2050 สาเหตุของการเกิดผลที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์เหล่านี้ดูเหมือนว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดที่ครอบงำของรถยนต์ดีเซลที่สะอาดในไฮบริด / ดีเซลสะอาด vehicle- ศูนย์กลางสถานการณ์ GC และเชื้อเพลิงไฟฟ้า / ไฮโดรเจนเซลล์เป็นศูนย์กลาง