PoliticsUnlike the Aztecs and the I

Politics
Unlike the Aztecs and the Incas, the Maya political system never integrated the entire Maya cultural area into a single state or empire. Rather, throughout its history, the Maya area contained a varying mix of political complexity that included both states and chiefdoms. These polities fluctuated greatly in their relationships with each other and were engaged in a complex web of rivalries, periods of dominance or submission, vassalage, and alliances. At times, different polities achieved regional dominance, such as Calakmul, Caracol, Mayapan, and Tikal. The first reliably evidenced polities formed in the Maya lowlands in the 9th century BC.[113] During the Late Preclassic, the Maya political system coalesced into a theopolitical form, where elite ideology justified the ruler's authority, and was reinforced by public display, ritual, and religion.[114] The divine king was the centre of political power, exercising ultimate control over the administrative, economic, judicial, and military functions of the polity. The divine authority invested within the ruler was such that the king was able to mobilise both the aristocracy and commoners in the execution of huge infrastructure projects, apparently with neither a police force nor a standing army.[115] Some polities engaged in a strategy of increasing administration, and filling administrative posts with loyal supporters rather than blood relatives.[116] Within a polity, mid-ranking population centres would have played a key role in the management of resources and internal conflict.[117]

The Maya political landscape was highly complex and Maya elites engaged in political intrigue to gain economic and social advantage over their neighbours.[118] In the Late Classic, some cities established an extended period of dominance over other large cities, such as the dominance of Naranjo by Caracol for half a century. In other cases, loose alliance networks were formed around a dominant city.[119] Border settlements often switched allegiance over the course of their history; they were generally located about half-way between neighbouring polity capitals and at differing times could be allied to one or other of its dominant neighbours, or act independently.[120] Dominant capitals exacted tribute in the form of luxury items from subjugated population centres.[121] Maya political power was reinforced by military power, and the capture and humiliation of enemy warriors played an important part in elite culture. An overriding sense of pride and honour among the warrior aristocracy could lead to extended feuds and vendettas, which resulted in political instability and the fragmentation of polities.[122]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทางการเมืองซึ่งแตกต่างจาก Aztecs และชาวอินคา ระบบการเมืองมายาไม่รวมพื้นที่วัฒนธรรมมายาทั้งหมดเป็นรัฐเดียวหรือจักรวรรดิ ค่อนข้าง ตลอดประวัติ ตั้งมายาประกอบด้วยความซับซ้อนทางการเมืองที่รวมทั้งอเมริกาและ chiefdoms ผสมแตกต่างกัน Polities เหล่านี้ fluctuated มากในความสัมพันธ์กัน และมีหมั้นในเว็บซับซ้อนของ rivalries ระยะเวลาของการครอบงำหรือการ vassalage และพันธมิตร ครั้ง polities อื่นได้ครอบงำภูมิภาค Calakmul, Caracol มายาปัน และ Tikal ครั้งแรกได้เป็นหลักฐาน polities ก่อตั้งขึ้นในสกอตแลนด์ตอนใต้มายาก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 9 [113] ในระหว่างที่สาย Preclassic ระบบการเมืองมายา coalesced ลงในฟอร์ม theopolitical ซึ่งอุดมการณ์ยอดชิดหน่วยของไม้บรรทัด และถูกเสริมแรง ด้วยการแสดงสาธารณะ พิธีกรรม ศาสนา [114] กษัตริย์พระเจ้าเป็นศูนย์กลางของอำนาจทางการเมือง ออกกำลังกายควบคุมฟังก์ชันการจัดการ เศรษฐกิจ ยุติธรรม และทหารของ polity สุด อำนาจพระเจ้าลงทุนภายในไม้บรรทัดได้ที่พระมหากษัตริย์ได้ย้ำทั้งขุนนางและไพร่ในการดำเนินการของโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดกับไม่กำลังตำรวจและทหารยืนไม่ [115] polities บางหมั้นในกลยุทธ์เพิ่มบริหาร และจัดการบรรจุลง ด้วยหัวใจที่ซื่อสัตย์มากกว่าเลือดญาติ [116] ภายในแบบ polity ศูนย์กลางอันดับประชากรจะมีบทบาทสำคัญในการจัดการทรัพยากรและความขัดแย้งภายใน [117]ภูมิทัศน์เมืองมายามายา และความซับซ้อนสูงฝ่ายอนุรักษ์หมั้นในทางการเมืองการเศรษฐกิจ และสังคมได้เปรียบประเทศเพื่อนบ้านของพวกเขาได้ [118] ในสายคลาสสิก เมืองบางก่อตั้งขึ้นเป็นระยะเวลานานของการครอบงำเหนือเมืองอื่น ๆ ขนาดใหญ่ เช่นครอบงำของ Naranjo โดย Caracol สำหรับครึ่งศตวรรษ ในบางกรณี เครือข่ายพันธมิตรหลวมได้ก่อตั้งขึ้นรอบ ๆ เมืองหลัก จับคู่แดน [119] มักจะสลับให้สัตยาบันในช่วงประวัติศาสตร์ของพวกเขา พวกเขามีอยู่โดยทั่วไปเกี่ยวกับครึ่งทาง ระหว่าง polity เมืองหลวงประเทศเพื่อนบ้าน และ ในเวลาที่แตกต่างกันอาจจะใส่พันธมิตรหนึ่ง หรืออื่น ๆ ของเป็นหลัก หรือทำหน้าที่อย่างอิสระได้ เมืองหลวงหลัก [120] ได้เรียกร้องเอาส่วยในรูปแบบของสินค้าฟุ่มเฟือยจากประชากร subjugated ศูนย์ มายา [121] อำนาจทางการเมืองถูกเสริม ด้วยอำนาจทางทหาร และจับภาพและอับอายของนักรบศัตรูเล่นเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมชนชั้นสูง ความรู้สึกที่ต้องเอาชนะความภาคภูมิใจและเกียรติในหมู่ขุนนางนักรบอาจนำไปสู่การขยาย feuds และ vendettas ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองและการกระจายตัวของของ polities [122]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเมืองซึ่งแตกต่างจากแอซเท็กและอินคา, ระบบการเมืองมายาไม่เคยรวมทั้งพื้นที่ทางวัฒนธรรมมายาเป็นรัฐเดียวหรืออาณาจักร
แต่ตลอดประวัติศาสตร์ในพื้นที่มายาที่มีส่วนผสมที่แตกต่างกันของความซับซ้อนทางการเมืองที่ทั้งรัฐและ chiefdoms การเมืองเหล่านี้มีความผันผวนอย่างมากในความสัมพันธ์ของพวกเขากับแต่ละอื่น ๆ และได้รับการมีส่วนร่วมในเว็บที่ซับซ้อนของการแข่งขันช่วงเวลาของการปกครองหรือส่งเป็นทาสและพันธมิตร ในบางครั้งการเมืองที่แตกต่างกันประสบความสำเร็จในการปกครองในระดับภูมิภาคเช่น Calakmul, Caracol, Mayapan และ Tikal การเมืองครั้งแรกที่เห็นได้อย่างน่าเชื่อถือที่เกิดขึ้นในมายาที่ราบลุ่มในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช. [113] ในช่วง Preclassic สายระบบการเมืองมายาเข้ามารวมตัวกันเป็นรูปแบบ theopolitical ที่อุดมการณ์ชนชั้นธรรมผู้มีอำนาจผู้ปกครองและได้รับการเสริมด้วยการแสดงในที่สาธารณะพิธีกรรม และศาสนา. [114] พระมหากษัตริย์ของพระเจ้าเป็นศูนย์กลางของอำนาจทางการเมือง, การออกกำลังกายควบคุมที่ดีที่สุดในช่วงการบริหารเศรษฐกิจการพิจารณาคดีและการทำงานของทหารรัฐธรรมนูญ อำนาจของพระเจ้าลงทุนภายในไม้บรรทัดเป็นเช่นนั้นกษัตริย์ก็สามารถที่จะระดมทั้งขุนนางและสามัญชนในการดำเนินการของโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่เห็นได้ชัดว่ามีทั้งกองกำลังตำรวจหรือทหารที่ยืนอยู่. [115] การเมืองบางคนมีส่วนร่วมในกลยุทธ์ของ การเพิ่มการบริหารและการกรอกข้อมูลการโพสต์การจัดการกับผู้สนับสนุนที่ซื่อสัตย์มากกว่าญาติ. [116] ในรัฐธรรมนูญกลางการจัดอันดับศูนย์ประชากรจะได้มีบทบาทสำคัญในการจัดการทรัพยากรและความขัดแย้งภายใน. [117] ภูมิทัศน์ทางการเมืองมายาเป็น ซับซ้อนสูงและชนชั้นสูงมายาส่วนร่วมในการวางอุบายทางการเมืองเพื่อให้ได้เปรียบทางเศรษฐกิจและสังคมมากกว่าเพื่อนบ้านของพวกเขา. [118] ในสายคลาสสิคบางเมืองที่จัดตั้งขึ้นในช่วงขยายอำนาจเหนือเมืองใหญ่อื่น ๆ เช่นการครอบงำของ Naranjo โดย Caracol สำหรับครึ่ง ศตวรรษ ในกรณีอื่น ๆ เครือข่ายพันธมิตรหลวมกำลังก่อตัวขึ้นรอบ ๆ เมืองที่โดดเด่น [119] การตั้งถิ่นฐานชายแดนมักจะเปลี่ยนความจงรักภักดีมากกว่าหลักสูตรของประวัติศาสตร์ของพวกเขา. พวกเขากำลังอยู่ทั่วไปประมาณครึ่งทางระหว่างเพื่อนบ้านเมืองหลวงรัฐธรรมนูญและในครั้งที่แตกต่างกันอาจจะมีลักษณะคล้ายกันกับหนึ่งหรืออื่น ๆ ของเพื่อนบ้านที่โดดเด่นหรือเป็นอิสระ. [120] เมืองหลวงเด่นไขว่คว้าส่วยในรูปแบบของสินค้าฟุ่มเฟือยจากการปราบปรามประชาชนเป็นศูนย์กลาง [121] มายาอำนาจทางการเมืองได้รับการเสริมด้วยอำนาจทางทหารและการจับภาพและความอัปยศอดสูของนักรบศัตรูเล่นเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยม เอาชนะความรู้สึกของความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติในหมู่ขุนนางนักรบอาจนำไปสู่เรื่องระหองระแหงขยายและแค้นซึ่งส่งผลให้เสถียรภาพทางการเมืองและการกระจายตัวของการเมืองได้. [122]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเมือง
แตกต่างและ Aztecs Incas มายาไม่เคยบูรณาการทั้งระบบการเมืองวัฒนธรรมมายาเข้าไปในพื้นที่รัฐเดียวหรืออาณาจักร ค่อนข้าง ตลอดประวัติศาสตร์ของพื้นที่ที่แตกต่างของมายาที่มีอยู่ผสมการเมืองความซับซ้อนที่ประกอบด้วยทั้งรัฐและ chiefdoms .พ.ศ. นี้ ผันผวนอย่างมากในความสัมพันธ์ของพวกเขากับแต่ละอื่น ๆและอยู่ในเว็บที่ซับซ้อนของราชการ , ระยะเวลาของการปกครองหรือการส่ง , การมีศักดินา และพันธมิตร ครั้ง พ.ศ. ที่แตกต่างกันบรรลุการปกครองภูมิภาค เช่น คาลักมุล Caracol มายาพาน , , , และทฤษฎี . ครั้งแรกที่ได้เห็นรูปแบบในพ.ศ. มายาที่ลุ่มในศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล[ 113 ] ในช่วงปลาย preclassic , มายาทางการเมือง ระบบ เป็นรูปแบบ theopolitical ที่ยอดอุดมการณ์ธรรมของผู้ปกครองอำนาจ และถูกเสริมด้วยการแสดงสาธารณะ พิธีกรรมและศาสนา [ 114 ] ศาสนาพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางของอำนาจทางการเมือง การออกกําลังกายควบคุมสูงสุดมากกว่าการบริหาร เศรษฐกิจ กฎหมาย และ หน้าที่ทหารของรัฐ .เทพผู้มีอำนาจลงทุนภายในไม้บรรทัดที่กษัตริย์ได้ระดมทั้งชนชั้นสูงและสามัญชนในการดําเนินการของโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดว่า มีทั้งตำรวจและทหารยืน [ 115 ] บางพ.ศ. หมั้นในกลยุทธ์ของการเพิ่มงานและบรรจุโพสต์การจัดการกับผู้สนับสนุนที่ซื่อสัตย์มากกว่าญาติเลือด .[ 116 ] ภายในรัฐ กลางการจัดอันดับศูนย์ประชากรจะได้มีบทบาทสำคัญในการจัดการทรัพยากรและความขัดแย้งภายใน [ 117 ]

มายาทางการเมืองภูมิสูงที่ซับซ้อนและมายาชนชั้นสูงหมั้นในอุบายทางการเมืองที่จะได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมมากกว่า เพื่อนบ้านของพวกเขา . [ 118 ] ในสายคลาสสิกบางเมืองก่อตั้งระยะเวลาการปกครองมากกว่าเมืองใหญ่อื่นๆ เช่น การปกครองของนารันโจโดย Caracol สำหรับครึ่งศตวรรษที่ ในกรณีอื่น ๆ เครือข่ายพันธมิตรหลวมขึ้นรอบเมืองเด่น [ 119 ] ชุมชนชายแดนมักจะเปลี่ยนความจงรักภักดีผ่านหลักสูตรของประวัติศาสตร์ของพวกเขาพวกเขาโดยทั่วไปจะอยู่ประมาณครึ่งทางระหว่างเมืองหลวงของรัฐ และเพื่อนบ้าน ในเวลาที่แตกต่างกันอาจเป็นพันธมิตรกับหนึ่งหรืออื่น ๆ ของประเทศเพื่อนบ้านเด่นของมัน หรือทำโดยอิสระ [ 120 ] เมืองหลวงเด่นทำการส่วยในรูปของรายการหรูหราจากยึดศูนย์ประชากร [ 121 ] มายาอำนาจทางการเมืองที่ถูกเสริมด้วยพลังของทหารและจับภาพและความอัปยศอดสูของนักรบศัตรูเล่นเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมของชนชั้นสูง การเอาชนะความรู้สึกของความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของนักรบชั้นสูง จะนำไปสู่การขยาย และ vendettas ระหองระแหง ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงทางการเมืองและการแตกแยกของพ.ศ. [ 122 ]