Students in fourth grade, mainly wi

Students in fourth grade, mainly with the purpose of reading is to read out. 87.0 per cent, followed by the reading research study / homework percent of the 66.7 reading was the lowest reading in order to develop reading skills. 19.0 percent of the information that is most read. Books / textbooks / OCW. Accounted for 85.2 per cent, followed by the novel / short story / comic 68.1 percent of the information that is being read is the smallest E-journal of 4.6 percent for the barriers to reading the most common are home from school came. 87.5 percent, followed by 76.9 percent in reading environment barrier effect is minimal. Health and library books are obsolete 18.5 percent in the place where students like to read most homes own a percentage of 82.4, followed by the dormitory of 72.2 places to go is the smallest classroom and bookstore 16.7 percent.
the frequency of reading the information. The frequency of reading daily, the Internet is 64.8 percent, followed by the novel / short story / comic 7.9 percent frequency in reading 3-4 days / week most. Teaching / learning materials given by the teacher 35.2 percent, followed by the book / textbook / OCW 26.9 percent in reading frequency 1-2 days / week most. Books / textbooks / OCW 59.7 percent, followed by the textbook / materials classes given by professors, 49.5 percent frequency of readings once a month, most journals, nursing / medical 49.8 percent. the second is diet books, exercise books, m. Journal of 8 per cent and 45.8 for information not yet read the E-Journal is 59.3 percent, followed by 49.1 percent, E-book
reader that factors in. Input from family and friends / seniors. The results showed a moderate. Because family and friends / Senior affect reading. Whether it's a family man with a love of reading. So I want to read a book, or most often living with friends / seniors. When a friend / senior reading a book or read it as such.การ์ตูน ร้อยละ 7.9 ความถี่ในการอ่าน 3-4 วัน/สัปดาห์มากที่สุดคือ ตำราเรียน/เอกสารประกอบการเรียนที่กำหนดโดยอาจารย์ ร้อยละ 35.2 รองลงมาคือ หนังสือเรียน/ตำราเรียน/เอกสารประกอบการเรียน ร้อยละ 26.9 ความถี่ในการอ่าน 1-2 วัน/สัปดาห์มากที่สุดคือ หนังสือเรียน/ตำราเรียน/เอกสารประกอบการเรียน ร้อยละ 59.7 รองลงมาคือ ตำราเรียน/เอกสารประกอบการเรียนที่กำหนดโดยอาจารย์ ร้อยละ 49.5 ความถี่ในการอ่านเดือนละครั้งมากที่สุด คือ วารสารทางการพยาบาล/การแพทย์ ร้อยละ 49.8 รองลงมา คือ หนังสือตำราอาหาร, หนังสือออกกำลังกายม และวารสารวิชาการ ร้อยละ 45.8 8 สำหรับสารสนเทศที่ไม่อ่านเลยมากที่สุด คือ E-Journal ร้อยละ 59.3 รองลงมาคือ E-book ร้อยละ 49.1
สำหรับปัจจัยในการอ่านนั้น ด้านปัจจัยครอบครัวและจากเพื่อน/รุ่นพี่ พบว่ามีผลในระดับปานกลาง เนื่องจากครอบครัวและเพื่อน/รุ่นพี่มีผลต่อการอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวมีนิสัยรักการอ่าน จึงอยากอ่านหนังสือ หรือ ส่วนใหญ่มักจะใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน/รุ่นพี่ เมื่อเพื่อน/รุ่นพี่มีการอ่านหนังสือหรือแนะนำหนังสือ ก็อ่านตาม เป็นต้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเรียนเกรดสี่ ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์ในการอ่านคือการ อ่านออก 87.0 ร้อยละ ตาม ด้วยการอ่านค้นคว้าศึกษา / บ้านร้อยละ 66.7 การอ่านคือ การอ่านต่ำสุดเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน 19.0 เปอร์เซ็นต์ของข้อมูลที่เป็นส่วนใหญ่อ่าน หนังสือ / ตำรา / OCW บัญชีสำหรับ 85.2 เปอร์เซ็นต์ ตาม ด้วยเรื่องสั้น / นวนิยายการ์ตูน 68.1% ของข้อมูลที่กำลังอ่านอยู่ สมุด E น้อยที่สุดร้อยละ 4.6 สำหรับอุปสรรคการอ่านมีทั่วบ้านจากโรงเรียนมา ร้อยละ 87.5 ตาม ด้วยร้อยละ 76.9 ในการอ่านผลอุปสรรคสภาพแวดล้อมน้อยที่สุด หนังสือสุขภาพและไลบรารีมีร้อยละ 18.5 ล้าสมัยในสถานที่ที่นักเรียนชอบอ่านเปอร์เซ็นต์ของ 82.4 เจ้าของบ้านส่วนใหญ่ตาม ด้วยหอพักที่ 72.2 ที่ไปคือห้องเรียนที่เล็กและร้านหนังสือ 16.7 เปอร์เซ็นต์ ความถี่ในการอ่านข้อมูล ความถี่การอ่านทุกวัน อินเทอร์เน็ตเป็นร้อยละ 64.8 ตาม ด้วยเรื่องสั้น / นวนิยาย / การ์ตูน 7.9 เปอร์เซ็นต์ความถี่ในการอ่าน 3-4 วันส่วนใหญ่ สอน / เรียนรู้วัสดุที่กำหนดร้อยละ 35.2 ของครู ตาม ด้วยหนังสือ / ตำราเรียน / OCW ร้อยละ 26.9 ในการอ่านความถี่ 1-2 วันมากที่สุด หนังสือ / ตำรา / OCW 59.7 เปอร์เซ็นต์ ตามตำราเรียน / เรียนวัสดุโดยอาจารย์ ความถี่ร้อยละ 49.5 อ่านค่าเมื่อเดือน สมุดรายวันส่วนใหญ่ แพทย์ / พยาบาลร้อยละ 49.8 ที่สองเป็นหนังสืออาหาร หนังสือการออกกำลังกาย ม.สมุดของร้อยละ 8 และ 45.8 สำหรับข้อมูลไม่ ได้อ่าน E-สมุดรายวันเป็นร้อยละ 59.3 ตาม ด้วยร้อยละ 49.1 อีบุ๊ค อ่านที่ปัจจัยใน ป้อนข้อมูลจากครอบครัวและเพื่อน / ผู้สูงอายุ ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าปานกลาง เนื่องจากครอบครัวและเพื่อน / ผู้สูงอายุมีผลต่อการอ่าน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวคนรักการอ่าน เพื่อต้องการอ่านหนังสือ หรือส่วนใหญ่มักอาศัยอยู่กับเพื่อน / ผู้สูงอายุ เมื่อเพื่อน / ผู้อ่านหนังสือ หรืออ่านเป็น such.การ์ตูน ร้อยละ 7.9 ความถี่ในการอ่าน 3-4 วัน/สัปดาห์มากที่สุดคือตำราเรียน/เอกสารประกอบการเรียนที่กำหนดโดยอาจารย์ร้อยละ 35.2 รองลงมาคือร้อยละหนังสือเรียน/ตำราเรียน/เอกสารประกอบการเรียน 26.9 ความถี่ในการอ่าน 1-2 วัน/สัปดาห์มากที่สุดคือหนังสือเรียน/ตำราเรียน/เอกสารประกอบการเรียนร้อยละ 59.7 รองลงมาคือร้อยละตำราเรียน/เอกสารประกอบการเรียนที่กำหนดโดยอาจารย์ 49.5 ความถี่ในการอ่านเดือนละครั้งมากที่สุดคือวารสารทางการพยาบาล/การแพทย์ร้อยละ 49.8 รองลงมาคือหนังสือตำราอาหาร หนังสือออกกำลังกายมและวารสารวิชาการร้อยละ 45.8 8 สำหรับสารสนเทศที่ไม่อ่านเลยมากที่สุดคือสมุด E ร้อยละ 59.3 รองลงมาคือวลีร้อยละ 49.1สำหรับปัจจัยในการอ่านนั้นพบว่ามีผลในระดับปานกลางด้านปัจจัยครอบครัวและจากเพื่อน/รุ่นพี่เนื่องจากครอบครัวและเพื่อน/รุ่นพี่มีผลต่อการอ่านหนังสือไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวมีนิสัยรักการอ่านจึงอยากอ่านหนังสือหรือส่วนใหญ่มักจะใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน/รุ่นพี่เมื่อเพื่อน/รุ่นพี่มีการอ่านหนังสือหรือแนะนำหนังสือก็อ่านตามเป็นต้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ส่วนใหญ่โดยมีวัตถุประสงค์ของการอ่านคือการอ่านออก ร้อยละ 87.0 รองลงมาคือร้อยละการศึกษาวิจัยการอ่าน / บ้านของการอ่าน 66.7 เป็นอ่านต่ำสุดเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน คิดเป็นร้อยละ 19.0 ของข้อมูลที่มีผู้อ่านมากที่สุด หนังสือ / ตำราเรียน / OCW คิดเป็นร้อยละ 85.2 รองลงมาคือนวนิยาย / เรื่องสั้น / การ์ตูนร้อยละ 68.1 ของข้อมูลที่ถูกอ่านเป็นที่เล็กที่สุด E-Journal ร้อยละ 4.6 สำหรับอุปสรรคในการอ่านพบมากที่สุดคือบ้านจากโรงเรียนมา คิดเป็นร้อยละ 87.5 รองลงมาคือร้อยละ 76.9 ในการอ่านผลสภาพแวดล้อมอุปสรรคน้อยที่สุด สุขภาพและหนังสือในห้องสมุดมีความล้าสมัยร้อยละ 18.5 ในสถานที่ที่นักเรียนชอบอ่านบ้านส่วนใหญ่เป็นเจ้าของร้อยละ 82.4 ตามด้วยหอพัก 72.2 สถานที่ที่จะไปเป็นชั้นเรียนที่เล็กที่สุดและร้านหนังสือร้อยละ 16.7.
ความถี่ของการอ่านข้อมูล ความถี่ของการอ่านรายวัน, อินเทอร์เน็ตเป็นร้อยละ 64.8 รองลงมาคือนวนิยาย / เรื่องสั้น / การ์ตูนความถี่ร้อยละ 7.9 ในการอ่าน 3-4 วัน / สัปดาห์มากที่สุด การเรียนการสอน / วัสดุได้รับจากร้อยละ 35.2 ครูตามด้วยหนังสือ / ตำราเรียนรู้ / OCW ร้อยละ 26.9 ความถี่ในการอ่าน 1-2 วัน / สัปดาห์มากที่สุด หนังสือ / ตำราเรียน / OCW ร้อยละ 59.7 ตามด้วยตำราเรียน / วัสดุชั้นเรียนที่ได้รับจากอาจารย์ความถี่ร้อยละ 49.5 ของการอ่านเดือนละครั้งวารสารที่สุดพยาบาล / การแพทย์ร้อยละ 49.8 สองคือหนังสืออาหาร, หนังสือออกกำลังกาย, M วารสารร้อยละ 8 และ 45.8 สำหรับข้อมูลที่ยังไม่ได้อ่าน E-Journal เป็นร้อยละ 59.3 รองลงมาคือ 49.1 เปอร์เซ็นต์, E-Book
อ่านว่าปัจจัยใน. การป้อนข้อมูลจากครอบครัวและเพื่อน / ผู้สูงอายุ ผลการศึกษาพบปานกลาง เพราะครอบครัวและเพื่อน / อาวุโสส่งผลกระทบต่อการอ่าน ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวด้วยความรักการอ่าน ดังนั้นผมจึงต้องการที่จะอ่านหนังสือหรือส่วนใหญ่มักจะใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน / ผู้สูงอายุ เมื่อเพื่อน / อาวุโสอ่านหนังสือหรืออ่านมันเป็นเช่นนี้. การ์ตูนร้อยละ 7.9 ความถี่ในการอ่าน 3-4 วัน / สัปดาห์มากที่สุดคือ ร้อยละ 35.2 รองลงมาคือ ร้อยละ 26.9 ความถี่ในการอ่าน 1-2 วัน / สัปดาห์มากที่สุดคือ ร้อยละ 59.7 รองลงมาคือ ร้อยละ 49.5 คือวารสารทางการพยาบาล / การแพทย์ร้อยละ 49.8 รองลงมาคือหนังสือตำราอาหาร, หนังสือออกกำลังกายมและวารสารวิชาการร้อย ละ 45.8 8 คือ E-Journal ร้อยละ 59.3 รองลงมาคือ E-Book ร้อยละ 49.1
สำหรับปัจจัยในการอ่านนั้น พบว่ามีผลในระดับปานกลาง จึงอยากอ่านหนังสือหรือ ก็อ่านตามเป็นต้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักเรียน ป. 4 ส่วนใหญ่กับวัตถุประสงค์ของการอ่าน คือ อ่านออก 87.0 เปอร์เซ็นต์ , ตามด้วยการอ่านการศึกษาวิจัย / การบ้าน ร้อยละ 66.7 การอ่านต่ำสุดการอ่านเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน 19.0 เปอร์เซ็นต์ของข้อมูลที่ถูกอ่านมากที่สุด . หนังสือ / ตำรา / ocw . คิดเป็นร้อยละ 85.2 ตามด้วยนวนิยาย / เรื่องสั้น / การ์ตูน 68.1 เปอร์เซ็นต์ของข้อมูลที่ถูกอ่านเป็นน้อยที่สุด วารสารของ 4.6 เปอร์เซ็นต์ สำหรับอุปสรรคในการอ่านส่วนใหญ่กลับจากโรงเรียนมา 87.5 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ ร้อยละ 76.9 ในการอ่านผลอุปสรรคสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด สุขภาพและห้องสมุดหนังสือล้าสมัยร้อยละ 18.5 ในสถานที่ที่นักเรียนชอบอ่านบ้านส่วนใหญ่เป็นเจ้าของร้อยละของ 82.4 ตามหอพัก สถานที่ที่จะไปคือ 72.2 ห้องเรียนที่เล็กที่สุดและร้านหนังสือ 16.7 เปอร์เซ็นต์ความถี่ของการอ่านข้อมูล ความถี่ของการอ่านทุกวัน อินเทอร์เน็ตจะคิดเปอร์เซ็นต์ ตามด้วยนวนิยาย / เรื่องสั้น / การ์ตูน 7.9 เปอร์เซ็นต์ความถี่ในการอ่าน 3-4 วัน / สัปดาห์ มากที่สุด สอน / เรียนโดยให้ครู 35.2 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ หนังสือ / ตำรา / ocw 26.9 เปอร์เซ็นต์ความถี่อ่าน 1-2 วัน / สัปดาห์ มากที่สุด หนังสือ / ตำรา / ocw 59.7 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วยหนังสือ / วัสดุชั้นเรียนโดยให้อาจารย์ 49.5 เปอร์เซ็นต์ความถี่ของการอ่านเดือนครั้งหนึ่งวารสารพยาบาล / แพทย์มากที่สุด ร้อยละ 49.8 ประการที่สองคือ อาหาร หนังสือ หนังสือแบบฝึกหัด . วารสาร 8 และร้อยละ 45.8 สำหรับข้อมูลที่ยังไม่ได้อ่าน วารสารเป็น 59.3 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ ร้อยละ 49.1 , หนังสืออิเล็กทรอนิกส์อ่านพบใน ข้อมูลจากครอบครัวและเพื่อน / รุ่นพี่ ผลลัพธ์ที่แสดงอยู่ เพราะครอบครัวและเพื่อน / อ่านต่อรุ่นพี่ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว กับ รักการอ่าน ดังนั้นฉันต้องการที่จะอ่านหนังสือ หรือส่วนใหญ่มักจะอยู่กับเพื่อน / รุ่นพี่ เมื่อเพื่อน / รุ่นพี่ อ่านหนังสือ หรืออ่านได้ เช่น การ์ตูนร้อยละ 7.9 ความถี่ในการอ่าน 3-4 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า / สัปดาห์มากที่สุดคือตำราเรียน / เอกสารประกอบการเรียนที่กำหนดโดยอาจารย์ร้อยละ 35.2 รองลงมาคือหนังสือเรียน / ตำราเรียน / เอกสารประกอบการเรียนร้อยละ 26.9 ความถี่ในการอ่าน 1-2 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า / สัปดาห์มากที่สุดคือหนังสือเรียน / ตำราเร ียน / เอกสารประกอบการเรียนร้อยละ 59.7 รองลงมาคือตำราเรียน / เอกสารประกอบการเรียนที่กำหนดโดยอาจารย์ร้อยละ 49.5 ความถี่ในการอ่านเดือนละครั้งมากที่สุดความวารสารทางการพยาบาล / การแพทย์ร้อยละ 49.8 รองลงมาความหนังสือตำราอาหารหนังสือออกกำลังกายมและวารสารวิชาการร้อยละ 8 สำหรั 45.8 , วารสารบสารสนเทศที่ไม่อ่านเลยมากที่สุดความร้อยละ 59.3 รองลงมาคือ e-book ร้อยละ 49.1สำหรับปัจจัยในการอ่านนั้นด้านปัจจัยครอบครัวและจากเพื่อน / รุ่นพี่พบว่ามีผลในระดับปานกลางเนื่องจากครอบครัวและเพื่อน / รุ่นพี่มีผลต่อการอ่านหนังสือไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวมีนิสัยรักการอ่านจึงอยากอ่านหนังสือค็อคส่วนใหญ่มักจะใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน / รุ่นพี่เมื ่อเพื่อน / รุ่นพี่มีการอ่านหนังสือหรือแนะนำหนังสือก็อ่านตามเป็นต้น