The pH differential method has been

The pH differential method has been used extensively by food technologists and horticulturists to assess the quality of fresh and processed fruits and vegetables. The method can be used for the determination of total monomeric anthocyanin content, based on the structural change of the anthocyanin chromophore between pH 1.0 and 4.5 (Figure 2). The anticipated use of the method is in research and for quality control of anthocyanin-containing fruit juices, wines, natural colorants, and other beverages.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเทคโนโลยีอาหารและนักปลูกพืชสวนใช้วิธีวัดค่า pH ต่างกันอย่างกว้างขวาง เพื่อประเมินคุณภาพของผักและผลไม้สดและแปรรูป วิธีการนี้สามารถใช้ในการหาปริมาณโมโนเมอริกแอนโธไซยานินทั้งหมด โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโครโมฟอร์แอนโทไซยานินระหว่าง pH 1.0 ถึง 4.5 (รูปที่ 2) การนำวิธีนี้ไปใช้ในการวิจัยและการควบคุมคุณภาพของน้ำผลไม้ ไวน์ สารแต่งสีธรรมชาติ และเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีสารแอนโทไซยานิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

pH Differential Method ถูกใช้อย่างกว้างขวางโดยช่างเทคนิคอาหารและนักจัดสวนเพื่อประเมินคุณภาพของผักและผลไม้สดและแปรรูป ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโครโมโซมแอนโธไซยานินในระหว่างค่า pH 1.0 ถึง 4.5 วิธีนี้สามารถใช้ในการกำหนดปริมาณแอนโธไซยานินโมโนเมอร์ทั้งหมด (รูปที่ 2) วัตถุประสงค์ของวิธีการนี้คือการวิจัยและควบคุมคุณภาพของน้ำผลไม้ไวน์สีธรรมชาติและเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มี anthocyanins

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคด้านอาหารและนักทําสวนใช้วิธีph-differenceอย่างกว้างขวางเพื่อประเมินคุณภาพของผลไม้และผักสดและแปรรูป วิธีนี้สามารถนํามาใช้ในการกําหนดปริมาณโครเมียมโครเมี่ยมโมโนเมอร์โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเม็ดสีโครเมี่ยมระหว่างค่าph1.0ถึง4.5 (รูปที่2 ) การใช้งานที่คาดหวังของวิธีการนี้คือการวิจัยและการควบคุมคุณภาพของน้ําผลไม้ไวน์สีธรรมชาติและเครื่องดื่มอื่นๆที่มีฮอร์โมนโครเมี่ยม