How do we know the air is getting w

How do we know the air is getting warmer? The evidence is very strong.

The 2001-2010 decade is the warmest since 1880—the year when enough temperature records became available worldwide to calculate a global average.
Over the last 50 years, the number of cold days and record low temperatures in various locations has declined, while the number of hot days and heat waves has risen most places worldwide.
The best projections show that average global temperatures are likely to increase 3.1-7.2° F (1.8-4.0° C) by the end of the century depending on the amount of carbon emissions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรารู้ได้อย่างไรอากาศกำลังอุ่น หลักฐานที่เป็นมาก ๆทศวรรษปีค.ศ. 2001-2010 เป็นอบอุ่นตั้งแต่ 1880 — ปีเมื่อระเบียนเพียงพออุณหภูมิกลายเป็นใช้ทั่วโลกในการคำนวณค่าเฉลี่ยทั่วโลกปี 50 จำนวนวันเย็นและอุณหภูมิต่ำสุดที่บันทึกในสถานต่าง ๆ ปฏิเสธ ในขณะที่จำนวนวันที่ร้อนและคลื่นความร้อนได้เพิ่มขึ้นสถานต่าง ๆ ทั่วโลกประมาณสุดแสดงว่า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 3.1-7.2° F (1.8-4.0 องศาเซลเซียส) โดยจุดสิ้นสุดของศตวรรษขึ้นอยู่กับจำนวนการปล่อยคาร์บอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอากาศจะอุ่น? หลักฐานที่มีความแข็งแรงมาก. 2001-2010 เป็นทศวรรษที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่ 1880 ในปีเมื่อบันทึกอุณหภูมิพอกลายเป็นใช้ได้ทั่วโลกในการคำนวณค่าเฉลี่ยทั่วโลก. ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาจำนวนวันที่อากาศหนาวเย็นและบันทึกอุณหภูมิต่ำในสถานที่ต่างๆ ได้ลดลงในขณะที่จำนวนวันที่อากาศร้อนและคลื่นความร้อนได้เพิ่มขึ้นสถานที่มากที่สุดทั่วโลก. ประมาณการที่ดีที่สุดแสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น 3.1-7.2 ° F (1.8-4.0 ° C) ในตอนท้ายของศตวรรษที่ขึ้นอยู่กับ ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น ? หลักฐานที่แข็งแกร่งมาก

2001-2010 อบอุ่นตั้งแต่ทศวรรษ 1880 ปีเมื่อบันทึกอุณหภูมิเพียงพอเป็นใช้ได้ทั่วโลกเพื่อคำนวณค่าเฉลี่ยทั่วโลก .
มากกว่า 50 ปี จำนวนวันเย็นและบันทึกอุณหภูมิต่ำในสถานที่ต่างๆได้ปฏิเสธในขณะที่จำนวนวันร้อนและคลื่นความร้อนเพิ่มขึ้นสถานที่ส่วนใหญ่ทั่วโลก ประมาณการที่ดีที่สุด
แสดงว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้น 3.1-7.2 ° F ( 1.8-4.0 ° C ) ในตอนท้ายของศตวรรษที่ขึ้นอยู่กับปริมาณของการปล่อยก๊าซคาร์บอน