During the Middle Ages, many weapon

During the Middle Ages, many weapons were created to help aid in the winning of battles. As the castle walls became higher and stronger, a new way had to be invented to destroy them. One such weapon was the siege engine called a catapult. The term catapult was derived from the Greek word "katapultos". A catapult was a large machine on wheels with a basket attached to a long wooden arm and a power source for hurling projectiles on the other. The first catapult however was invented around 400 BC in Greek town Syracus. It was not the version seen so many times at our own wars in todays Society for Creative Anachronism.. The first catapult closely resembled a crossbow. It was called the Gastraphete, and worked similar to a crossbow. The Gastraphete had to be pointed at the ground and the operator had to use great force to set the weapon to fire. The Greeks were so impresses with the destruction this weapon caused, they created a bigger version of the Gastraphete. This was called a Ballista and was used more as a defense weapon against raiding armies. The machine had to be reloaded by many men, so the Greeks improved on the Ballista by building them with cranks on the end. Now only one or two men were needed to load the weapon and the others could continue the fight. The crank worked to pull the rope back putting the Ballista in the ready to fire mode.

Another type of siege weapon was the trebuchet, which is a form of catapult, but the power source was different. The trebuchet used gravity and weights to hurl the projectile. The catapult used in the Middle Ages was powered by one of four different sources. These were tension, torsion, traction, and gravity. Let's take a closer look at each power source and how it worked.

Tension powered catapults had a long flexible arm, so that when the basket was bent backwards to give the weapon its throwing power, the arm wouldn't break making the weapon useless in battle. The basket was tied or hooked in some way when bent backwards, so that large stones or other types projectiles could be loaded into the basket. When the basket was released the projectile would fly into the air hopefully hitting the castle wall and causing part of it to tumble to the ground. Sometimes flaming projectiles were put in the basket. Upon impact the ball would burst setting fire to everything in a given radius. The tension powered catapult was often used for destruction of castle walls, but sometimes it was used as a defense weapon from the castle itself. The tension catapult was able to throw and shoot farther than most other types. It was also a better weapon than the ballista, as the catapult was portable with it's wheels.

Torsion powered catapults such as the ballista used cranks to pull back the basket that held the projectile. Torsion was a form of power created when the rope of the Ballista was twisted to generate the force. The rope would get tighter and when released, the force would propel the projectile forward from the basket. The missile was propelled with such force that it could take out several armored men in one shot or do serious damage to a castle wall.

Traction powered catapults , trebuchet as they are commonly called, used people as the power source. The men would bring down the shorter end of the long beam or arm, causing the longer end of the arm to flip up, causing the basket to loose it's projectile towards the intended target. Some of these siege weapons were held by men and cause some difficulty in battle.

Gravity powered catapults simply used gravity to hurl the projectile. At its most basic understanding, a gravity catapult is simply a lever that uses centrifugal force to its advantage. Think of it as a modified seesaw. When two people are on the seesaw and both are of close weight, the see saw balances it's self. If another person came up and jumped on one end of the seesaw with one of the people, the single person on the opposite end is likely to become airborne. Like the seesaw, a gravity powered catapult is also pivoted in the middle. A counter-weight was built onto one end of the catapult and a basket or sling on the other. The projectile end was pulled down forcing the counter weighted end to rise. Once the projectile basket was released, gravity would pull the weighted end of the arm down, causing the projectile to hurl through the air.

Today, catapults of all kinds and sizes are used. We do not hurl projectiles at castles anymore, but we do build them to have fun. The next time you are at an event that has a siege weapon activity, watch how they work. They are used to hurl projectiles, but only to see what distance a projectile goes.

They are never used to hurl objects at people or buildings. So gather your supplies and step forward into the future of siege weapons!

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระหว่างยุคกลาง สร้างอาวุธต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ความช่วยเหลือในการชนะของการต่อสู้ เป็นกำแพงปราสาทกลายเป็นสูง และแข็งแรง วิธีใหม่ก็จะสามารถคิดค้นเพื่อทำลายพวกเขา อาวุธดังกล่าวหนึ่งถูกล้อมเครื่องยนต์เรียกว่าหนังสติ๊ก หนังสติ๊กคำที่รับมาจากคำภาษากรีก "katapultos" หนังสติ๊กถูกเครื่องจักรขนาดใหญ่ในล้อกับตะกร้าแนบกับแขนยาวไม้และแหล่งจ่ายไฟสำหรับตายมาอีก หนังสติ๊กแรกแต่ถูกอุปโลกน์ประมาณ 400 BC ในกรีกเมือง Syracus ไม่เห็นหลายครั้งในสงครามของเราเองในวันนี้สังคมสร้างสรรค์ Anachronism รุ่น... หนังสติ๊กแรกคล้ายกับไม้อย่างใกล้ชิด มันถูกเรียกว่า Gastraphete การ และทำงานคล้ายกับไม้ Gastraphete ที่มีการชี้ที่พื้นดิน และตัวดำเนินการที่มีการใช้แรงการตั้งอาวุธไฟ กรีกมีความประทับใจให้กับการทำลายอาวุธนี้เกิด พวกเขาสร้างการ Gastraphete รุ่นใหญ่ นี้ถูกเรียกว่าเป็น Ballista และใช้มากขึ้นเป็นอาวุธป้องกันตัวดมภ์กองทัพ เครื่องที่มีภาพชายหนุ่มหลายคน เพื่อกรีกขึ้นบน Ballista ที่ โดยการสร้างกับ cranks ใน ตอนนี้เพียงหนึ่ง หรือสองคนก็ต้องโหลดอาวุธ และอื่น ๆ สามารถดำเนินต่อการต่อสู้ Crank ทำงานจะดึงเชือกกลับมาวาง Ballista ในพร้อมไฟโหมดล้อมอาวุธชนิดอื่น trebuchet ซึ่งเป็นรูปแบบของหนังสติ๊ก แต่แหล่งพลังงานอื่น Trebuchet ใช้แรงโน้มถ่วงและน้ำหนักกระสุนที่พุ่ง หนังสติ๊กใช้ในยุคกลางได้รับพลังมาจากแหล่งต่าง ๆ สี่อย่างใดอย่างหนึ่ง มีความตึงเครียด แรงบิด ลาก และแรงโน้มถ่วง ลองใช้แต่ละแหล่งพลังงานและวิธีการทำงานCatapults ความตึงเครียดในการขับเคลื่อนมีแขนยาวยืดหยุ่น เพื่อว่าเมื่อตะกร้าถูกหักงอไปข้างหลังให้อาวุธกำลังขว้างปา แขนไม่ตัดทำประโยชน์ในการต่อสู้อาวุธ ตะกร้าผูก หรือติดยาเสพติดในบางวิธีเมื่องอย้อนหลัง เพื่อให้หินก้อนใหญ่หรือมาชนิดอื่น ๆ สามารถโหลดลงในตะกร้า เมื่อตะกร้าออก กระสุนที่จะบินไปในอากาศหวังตีกำแพงปราสาท และสาเหตุของมันเกลือกกลิ้งกับพื้น บางครั้งเผามาใส่ในตะกร้า เมื่อผลกระทบ ลูกจะระเบิดไฟตั้งไปทุกอย่างในรัศมีที่กำหนด มักจะใช้หนังสติ๊กแรงขับเคลื่อนสำหรับทำลายกำแพงปราสาท แต่บางครั้งมันถูกใช้เป็นอาวุธป้องกันจากปราสาทเอง หนังสติ๊กแรงก็สามารถโยน และยิงไกลชนิดอื่น ๆ ส่วนใหญ่ เนื่องจากอาวุธดีกว่า ballista เป็นหนังสติ๊กแบบพกพา มีล้อก็แรงบิดขับเคลื่อน catapults เป็น ballista ใช้ cranks เพื่อดึงกลับในตะกร้าที่จัดขึ้นกระสุน แรงบิดเป็นรูปแบบของพลังงานที่สร้างขึ้นเมื่อเชือก Ballista ถูกบิดเพื่อสร้างแรง เชือกจะได้รับสัด และเมื่อปล่อย แรงที่จะขับเคลื่อนกระสุนไปข้างหน้าจากตะกร้า ขีปนาวุธถูกจาก ด้วยแรงดังกล่าวว่า มันอาจจะออกหลายคนเกราะในหนึ่ง หรือทำความเสียหายผนังปราสาทขับลาก catapults, trebuchet เป็นบ่อย ใช้คนเป็นแหล่งพลังงาน คนจะนำมาลงสิ้นสุดสั้นลำยาวหรือแขน เกิดตามยาวของแขนพลิก ทำตะกร้าการหลวมของกระสุนสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ ของอาวุธล้อมเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นชาย และทำให้เกิดปัญหาบางอย่างในการต่อสู้แรงโน้มถ่วงพลังงาน catapults ที่ใช้เพียงแรงโน้มถ่วงกระสุนพุ่ง ทำความเข้าใจพื้นฐาน แรงโน้มถ่วงหนังสติ๊กเป็นเพียงคานที่ใช้เหวี่ยงเพื่อประโยชน์ของ คิดว่า มันเป็นกระดานหกที่ปรับเปลี่ยน เมื่อคนสองคนที่อยู่บนกระดานหก และทั้งมีน้ำหนักปิด ดูดุลการเห็นตนเองเป็นการ ถ้าคนอื่นมา และไปบนปลายด้านหนึ่งของกระดานหกด้วยคนหนึ่ง คนเดียวในตรงข้ามจะกลายเป็นอากาศ เช่นกระดานหก ขับเคลื่อนแรงโน้มถ่วงหนังสติ๊กเป็นยังสามารถ pivoted ตรงกลาง น้ำหนักซึ่งถูกสร้างขึ้นบนปลายด้านหนึ่งของหนังสติ๊ก และตะกร้า หรือสลิงอีก สิ้น projectile ถูกดึงลงบังคับสิ้นสุดนับถ่วงน้ำหนักจะเพิ่มขึ้น เมื่อออกตะกร้า projectile แรงโน้มถ่วงจะดึงแขนลง ทำให้กระสุนพุ่งผ่านอากาศปลายถ่วงน้ำหนักวันนี้ catapults ของชนิดและขนาดที่ใช้ เราไม่สาดมาที่ปราสาทอีกต่อไป แต่เราสร้างให้สนุก ในครั้งถัดไปที่คุณอยู่ในเหตุการณ์ที่มีกิจกรรมการอาวุธล้อม ดูวิธีการทำงาน พวกเขาจะใช้โยนมา แต่เฉพาะเมื่อต้อง การดูว่าระยะทางกระสุนไปนอกจากนี้พวกเขาไม่เคยจะใช้โยนวัตถุคนหรืออาคาร จึงรวบรวมอุปกรณ์ของคุณ และก้าวไปข้างหน้าในอนาคตของอาวุธปิดล้อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในสมัยกลางอาวุธมากมายที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วย เหลือในชัยชนะของการต่อสู้ เป็นกำแพงปราสาทกลายเป็นที่สูงขึ้นและแข็งแกร่งเป็นวิธีใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำลายพวกเขา อาวุธดังกล่าวถูกล้อมเครื่องยนต์ที่เรียกว่า หนังสติ๊ก ระยะยิง มาจากคำว่า " กรีก katapultos "หนังสติ๊กเป็นเครื่องขนาดใหญ่บนล้อกับตะกร้าที่แนบมากับแขนไม้นานและแหล่งพลังงานสำหรับขว้างอาวุธในอื่น ๆ หนังสติ๊กแรก แต่ถูกคิดค้นประมาณ 400 ปีก่อนคริสตกาล กรีกเมือง syracus . มันไม่รุ่นเห็นหลายครั้งในสงครามของเราเองในสังคมข้อย . . . ใกล้สร้างสรรค์ หนังสติ๊กแรกอย่างใกล้ชิดคล้ายหน้าไม้มันถูกเรียกว่า gastraphete และทำงานคล้ายกับหน้าไม้ การ gastraphete ต้องชี้ที่พื้นดิน และผู้ประกอบการต้องใช้แรงดีตั้งปืนยิง ชาวกรีกได้ดังนั้นประทับใจกับการทำลายอาวุธนี้ทำให้พวกเขาสร้างรุ่นที่ใหญ่กว่าของ gastraphete . นี้ถูกเรียกว่าเป็น Ballista และถูกใช้เป็นป้องกันอาวุธต่อต้านโจมตีกองทัพเครื่องต้องโหลดจากผู้ชายมาก ดังนั้นชาว Ballista ให้ดีขึ้นโดยการสร้างให้กับพวกบ้าๆบอๆบนปลาย ตอนนี้เพียงหนึ่งหรือสองคนต้องโหลดอาวุธและคนอื่น ๆอาจจะยังคงต่อสู้ ข้อเหวี่ยงทำงานเพื่อดึงเชือกกลับเอา ballista ในพร้อมโหมดไฟ

ประเภทของอาวุธล้อมอีก คือ เครื่องยิงหิน ซึ่งเป็นรูปแบบของหนังสติ๊ก ,แต่แหล่งพลังงานที่แตกต่างกัน การใช้แรงโน้มถ่วงและน้ำหนัก Trebuchet เหวี่ยงกระสุนปืน . หนังสติ๊กที่ใช้ในยุคกลางที่ถูกขับเคลื่อนโดยหนึ่งในแหล่งที่แตกต่างกันสี่ เหล่านี้เป็นแรง แรงบิด แรงดึง และแรงโน้มถ่วง ขอใช้เวลามองใกล้ที่แต่ละแหล่งพลังงานและวิธีการทำงาน

แรงขับเคลื่อนเครื่องมีความยืดหยุ่นแขนยาว ,ดังนั้นเมื่อตะกร้างอไปข้างหลังเพื่อให้อาวุธของมันโยนอำนาจ แขนไม่หัก ทำให้อาวุธไร้ประโยชน์ในการต่อสู้ ตะกร้าผูก หรือติดยาเสพติด ในบางวิธี เมื่องอไปข้างหลังเพื่อให้หินขนาดใหญ่หรือขีปนาวุธชนิดอื่น ๆ สามารถโหลดลงในตะกร้าเมื่อตะกร้าปล่อยกระสุนปืนจะบินไปในอากาศหวังว่าตีปราสาทผนังและเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการเกลือกกลิ้งกับพื้น บางครั้งที่ขีปนาวุธใส่ในตะกร้า เมื่อผลกระทบบอลจะออกมาเผาทุกอย่างที่ระบุในรัศมี แรงขับเคลื่อนหนังสติ๊กก็มักจะใช้เพื่อทำลายกำแพงปราสาทแต่บางครั้งมันก็ถูกใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวจากปราสาทนั่นเอง แรงขับเคลื่อนได้โยนและยิงไกลมากกว่าชนิดอื่น ๆ มากที่สุด มันก็เป็นอาวุธที่ดีกว่า Ballista เป็นหนังสติ๊กเป็นแบบพกพาที่มีมันล้อ

บิดขับเคลื่อนเครื่องเช่น Ballista ใช้แคร๊งจะดึงกลับมาตะกร้าที่ถือปืน .บิดเป็นรูปแบบของพลังงานที่สร้างขึ้นเมื่อเชือกของ Ballista บิด เพื่อสร้างพลัง เชือกจะขึ้น และเมื่อปล่อยแรงจะขับเคลื่อนกระสุนปืนออกมาจากตะกร้า ขีปนาวุธถูกขับเคลื่อน ด้วยแรงมหาศาลที่สามารถถอดเกราะหลายคนในหนึ่งยิง หรือทำความเสียหายร้ายแรงกับปราสาทผนัง

แรงขับเคลื่อนเครื่องยิงหินเทรบูเชเป็นพวกเขามักจะเรียกใช้คนเป็นแหล่งพลังงาน ผู้ชายจะเอาลงท้ายสั้นของคานยาวหรือแขนให้ยาวสุดแขนเพื่อพลิกขึ้น ทำให้ตะกร้าหลวมมันกระสุนปืนไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ บางอาวุธล้อมเหล่านี้ถูกจัดขึ้นโดยคน และก่อให้เกิดความยุ่งยากในการต่อสู้ที่ .

แรงโน้มถ่วงแรงโน้มถ่วงขับเคลื่อนเพียงใช้เครื่องเหวี่ยงกระสุน . ความเข้าใจในพื้นฐานที่สุด แรงโน้มถ่วงหนังสติ๊กเป็นเพียงก้านที่ใช้แรงเหวี่ยงเพื่อประโยชน์ของมัน คิดว่ามันเป็นแบบกระดานหก . เมื่อคนสองคนบนกระดานหกและทั้งสองมีน้ำหนักปิด , เห็นเห็นยอดมันด้วยตนเองถ้าบุคคลอื่นขึ้นมาและกระโดดบนปลายด้านหนึ่งของกระดานหกด้วยหนึ่งคน คนเดี่ยวที่ปลายตรงข้ามมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นอากาศ . เหมือนกระดานหก , หนังสติ๊กพลังงานแรงโน้มถ่วงยัง pivoted ตรงกลาง เคาน์เตอร์ถูกสร้างขึ้นบนปลายด้านหนึ่งของหนังสติ๊กและตะกร้าหรือสลิงในอื่น ๆ ปลายกระสุนปืนถูกดึงลงมาให้สุดเคาน์เตอร์น้ำหนักที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อตะกร้ากระสุนปืนที่ถูกปล่อยออกมา แรงโน้มถ่วงจะดึงปลายของการถ่วงน้ำหนักของแขนลง ทำให้กระสุนพุ่งผ่านอากาศ

วันนี้เครื่องทุกชนิดและขนาดที่ใช้ เราไม่ใช้ขีปนาวุธที่ปราสาทอีกแล้ว แต่เราสร้างมันเพื่อให้มีความสนุกสนาน ในครั้งถัดไปที่คุณอยู่ในเหตุการณ์ที่มีการล้อมอาวุธกิจกรรม ดูวิธีการที่พวกเขาทำงาน พวกเขาจะใช้ในการใช้ขีปนาวุธแต่ต้องดูระยะทางว่ากระสุนปืนไป

ก็ไม่เคยโยนวัตถุที่บุคคลหรืออาคาร ดังนั้น รวบรวมวัสดุของคุณ และก้าวไปสู่อนาคตของอาวุธสงคราม !