5. Hotness of Naga chilliMost of th

5. Hotness of Naga chilli
Most of the chilli species and varieties cultivated in India contain around 1% capsaicin but Naga chilli has around 2–4% capsaicin as reported by various researchers (Mathur et al., 2000; Sanatombi and Sharma, 2008). Consequently, a high capsaicin output per unit weight of dry powder lowers down the cost of extraction of capsaicin from this chilli. The Defence Research Laboratory, Tezpur, India reported the potential of the Naga chilli which outcompeted the Red Savina Habanero of Mexico in terms of Scoville Heat Units (SHUs) (Mathur et al., 2000). The pungency of Naga chilli was recorded at 855,000SHU while it was 577,000SHU for Red Savina Habanero. However, the extreme level of hotness reported was questioned by the scientific community. Subsequently, studies at the New Mexico State University estimated the capsaicinoid content using high performance liquid chromatography (HPLC) and reported that Naga chilli had 1,001,304SHUs, whereas Red Savina recorded 248,556SHUs (Bosland and Baral, 2007). In September 2006, the Naga chilli was officially recognized by the Guinness Book of World Records as the world’s hottest chilli measuring over 1,000,000SHU (Guinness World Records, 2006). The degree of pungency of Capsicum depends on the species and cultivars and the capsaicin concentration can be affected by factors like fruit development stage (Sukrasno and Yeoman, 1993), genetic character and agro-climatic conditions (Cisneros-Pineda et al., 2007). Tiwari et al. (2005) observed the decrease in the amount of capsaicin and dihydrocapsaicin of Naga chilli by around 50% when cultivated at Gwalior, India indicating that lower levels of humidity and rainfall were not favourable for this crop. Sanatombi and Sharma (2008) reported 2.06% capsaicin in ‘Umorok’ cultivar of chilli collected from Imphal (Manipur). In a more recent study, Pandey et al. (2009) recorded pungency level of 254,896SHU when cultivated during kharif season of 2006–2007 at Pithoragarh (Uttarakhand) in western Himalayas (see Table 4 for comparison of locations). These observations allow us to suggest that the season

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

5. hotness ของนาคพริกMost of the chilli species and varieties cultivated in India contain around 1% capsaicin but Naga chilli has around 2–4% capsaicin as reported by various researchers (Mathur et al., 2000; Sanatombi and Sharma, 2008). Consequently, a high capsaicin output per unit weight of dry powder lowers down the cost of extraction of capsaicin from this chilli. The Defence Research Laboratory, Tezpur, India reported the potential of the Naga chilli which outcompeted the Red Savina Habanero of Mexico in terms of Scoville Heat Units (SHUs) (Mathur et al., 2000). The pungency of Naga chilli was recorded at 855,000SHU while it was 577,000SHU for Red Savina Habanero. However, the extreme level of hotness reported was questioned by the scientific community. Subsequently, studies at the New Mexico State University estimated the capsaicinoid content using high performance liquid chromatography (HPLC) and reported that Naga chilli had 1,001,304SHUs, whereas Red Savina recorded 248,556SHUs (Bosland and Baral, 2007). In September 2006, the Naga chilli was officially recognized by the Guinness Book of World Records as the world’s hottest chilli measuring over 1,000,000SHU (Guinness World Records, 2006). The degree of pungency of Capsicum depends on the species and cultivars and the capsaicin concentration can be affected by factors like fruit development stage (Sukrasno and Yeoman, 1993), genetic character and agro-climatic conditions (Cisneros-Pineda et al., 2007). Tiwari et al. (2005) observed the decrease in the amount of capsaicin and dihydrocapsaicin of Naga chilli by around 50% when cultivated at Gwalior, India indicating that lower levels of humidity and rainfall were not favourable for this crop. Sanatombi and Sharma (2008) reported 2.06% capsaicin in ‘Umorok’ cultivar of chilli collected from Imphal (Manipur). In a more recent study, Pandey et al. (2009) recorded pungency level of 254,896SHU when cultivated during kharif season of 2006–2007 at Pithoragarh (Uttarakhand) in western Himalayas (see Table 4 for comparison of locations). These observations allow us to suggest that the season

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

5. Hotness
นาคพริกมากที่สุดของสายพันธุ์พริกและพันธุ์ที่ปลูกในประเทศอินเดียมีประมาณ1% แต่ capsaicin พริกนาคมีประมาณ 2-4% capsaicin ตามที่รายงานโดยนักวิจัยต่างๆ (Mathur et al, 2000;. Sanatombi และชาร์ 2008) . ดังนั้นการส่งออก capsaicin สูงต่อหน่วยน้ำหนักของผงแห้งลดลงค่าใช้จ่ายของการสกัดจากพริก capsaicin นี้ กลาโหมห้องปฏิบัติการวิจัย Tezpur อินเดียรายงานว่าศักยภาพของพริกนาคซึ่ง outcompeted แดง Savina Habanero เม็กซิโกในแง่ของ Scoville Heat Units (SHUs) (Mathur et al., 2000) ความเผ็ดของพริกนาคเป็นบันทึกที่ 855,000SHU ขณะที่มันเป็น 577,000SHU สำหรับ Red Savina Habanero แต่ระดับความร้อนสุดขีดของรายงานได้รับการสอบถามจากชุมชนวิทยาศาสตร์ ต่อมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวเม็กซิโกประมาณเนื้อหา capsaicinoid ใช้ประสิทธิภาพสูงของเหลว chromatography (HPLC) และรายงานว่าพริกนาคมี 1,001,304SHUs ในขณะที่สีแดง Savina บันทึก 248,556SHUs (Bosland และ Baral 2007) ในเดือนกันยายน 2006, พริกนาคได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการโดย Guinness Book ของ Records โลกเป็นพริกที่ร้อนแรงที่สุดในโลกวัดมากกว่า 1,000,000SHU (กินเนสส์เวิลด์เร็กคอร์ด 2006) ระดับของความเผ็ดของพริกขึ้นอยู่กับชนิดและสายพันธุ์และความเข้มข้น capsaicin ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเช่นขั้นตอนการพัฒนาผลไม้ (Sukrasno และเสรีชน, 1993) ตัวละครทางพันธุกรรมและสภาพภูมิอากาศเกษตร (นาปี-Pineda et al., 2007) . ทิวา et al, (2005) ตั้งข้อสังเกตการลดลงของปริมาณของ capsaicin และ dihydrocapsaicin พริกนาคโดยประมาณ 50% เมื่อได้รับการปลูกฝังที่กวาอินเดียแสดงให้เห็นว่าระดับต่ำของความชื้นและปริมาณน้ำฝนไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกนี้ Sanatombi และชาร์ (2008) รายงาน 2.06% capsaicin ในพันธุ์ 'Umorok ของพริกที่เก็บได้จากอิม (มณีปุระ) ในการศึกษาล่าสุดเพิ่มเติม Pandey et al, (2009) ที่บันทึกระดับความรุนแรงของ 254,896SHU เมื่อการเพาะปลูกในช่วงฤดู ​​kharif ของ 2006-2007 ที่ Pithoragarh (ตราขั ณ ฑ์) ในเทือกเขาหิมาลัยตะวันตก (ดูตารางที่ 4 สำหรับการเปรียบเทียบในสถานที่) ข้อสังเกตเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถแสดงให้เห็นว่าฤดูกาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

5 . ความเผ็ดของพริกพริกนาค
ส่วนใหญ่ของสายพันธุ์และพันธุ์ที่ปลูกในอินเดียมีประมาณ 1 % แต่พริกมี capsaicin นาคประมาณ 2 – 4 % แคปไซซินรายงานโดยนักวิจัยต่างๆ ( มาเธอร์ et al . , 2000 ; และ sanatombi Sharma , 2008 ) ดังนั้น สารแคปไซซินสูงผลผลิตต่อหน่วยของน้ำหนักแป้งแห้งลดลงค่าใช้จ่ายของการสกัดสารแคปไซซินจากพริกนี้การป้องกันการวิจัยในห้องปฏิบัติการ Tezpur , อินเดียรายงานศักยภาพของนาคพริกฮาบาเนโร่ ซึ่ง outcompeted Savina สีแดงของเม็กซิโกในแง่ของหน่วยความร้อน ควิลล์ ( shus ) ( มาเธอร์ et al . , 2000 ) ส่วนความฉุนของพริกพญานาคที่ถูกบันทึกไว้ 855000shu ในขณะที่มัน 577000shu สำหรับ Savina Habanero สีแดง อย่างไรก็ตาม ระดับความรุนแรงของความเผ็ด รายงานได้ถูกถามโดยชุมชนวิทยาศาสตร์จากการศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งมลรัฐนิวเม็กซิโกประมาณปริมาณแคปไซซินอยด์โดยใช้วิธีโครมาโทกราฟีของเหลวสมรรถนะสูง ( HPLC ) และรายงานว่ามี 1001304shus นาคพริก ส่วนซาบีนาสีแดงบันทึก 248556shus ( bosland และ baral , 2007 ) ในกันยายน 2549นาคพริกคือการรับรองอย่างเป็นทางการโดยหนังสือบันทึกสถิติโลกเป็นโลกสุดพริกวัดกว่า 1000000shu ( บันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 2006 ) ระดับความฉุนของพริกขึ้นอยู่กับชนิดและพันธุ์และความเข้มข้นของแคปไซซินสามารถรับผลกระทบจากปัจจัยเช่นขั้นตอนการพัฒนาผลไม้ ( sukrasno และองค์รักษ์ , 1993 )ลักษณะพันธุกรรมและอุตสาหกรรมเกษตรสภาพอากาศ ( ซิสเนโรส Pineda et al . , 2007 ) ทิวา et al . ( 2005 ) และลดปริมาณแคปไซซิน และไดไฮโดรแคปไซซินในพริกนาคโดยรอบ 50% เมื่อปลูกใน Gwalior , อินเดีย ระบุว่า ระดับของความชื้นและปริมาณน้ำฝนไม่ดีสำหรับพืชนี้ และ sanatombi Sharma ( 2008 ) รายงาน 2แคปไซซิน 06 ) ' ' umorok พันธุ์พริกที่รวบรวมจากอิม ( มณีปุระ ) ในการศึกษาล่าสุด เดย์ et al . ( 2009 ) บันทึกความฉุนระดับ 254896shu เมื่อปลูกในฤดูกาล 2006 – 2007 ที่ kharif pithoragarh ( Uttarakhand ) ในเทือกเขาหิมาลัยตะวันตก ( ดู ตารางที่ 4 การเปรียบเทียบสถานที่ ) ข้อสังเกตเหล่านี้ให้เราแนะนำว่าฤดู