Definition - What does Anodic Polar

Definition - What does Anodic Polarization mean?
Anodic polarization refers to the change of an electrode's potential in the positive direction. It is caused by current flowing across an electrode-to-electrolyte interface, such as electrode polarization associated with an electrochemical oxidation or anodic reaction. In other words, the change in the initial anode potential results from current flow effects at or near the anode surface.

Polarization is the change of potential from a stabilized state as the result of the passage of current. It also refers to the change in the potential of an electrode during electrolysis, such that the potential of an anode becomes more noble, and that of a cathode more active, than their respective reversible potentials.

Anodic polarization is used for measuring and protecting against corrosion. It can be used to determine the potential regions where materials are susceptible to rapid corrosion.
in that the curve pattern repeats itself successively when the
potential scan is repeated immediately after the previous scan
has been completed (Figure 1B). This observation immediately
refutes the usually accepted explanation for the curve pattern
that is based on the static passive film theory. We note that
phrases such as “dynamic passive film”2 and “metastable oxide
layers”3 have been used previously in the literature but the
occurrence of this repeating pattern has not been mentioned.
Clearly any theory of anodic curves must explain this new
finding and therefore the mechanism of anodic passivation
given in the literature (e.g., refs 1 and 2) is clearly inadequate.
One observation, clearly seen in Figure 1A, is that there is no
current in the passive region from EP to ED. Thus, there should
be no electric field present in the solution as the free ions in
solution will be transported by the presence of an electric field.
The predominant explanation for the presence of the passive
region is that a passive oxide film is formed on the surface of
the metal, which prevents further reaction. This explanation
seems reasonable if Figure 1A is considered in isolation.
However, it is at odds with the observation of a repeat curve
pattern as shown in Figure 1B because such a film would cause
irreversible behavior. Thus, the present theory cannot account
for all properties of anodic polarization.
Theories that do not involve static films have been proposed,
involving reaction velocity adsorption, modification,4 and other
concepts.5,6 It may be that some at least of these alternative
theories have been developed because researchers have
observed this repeat curve pattern and as a result rejected the
static passive film theory, but this has not been explicitly stated.
Kinetic models5,7,8 with simplifications and detailed
mathematical treatments have been proposed that to some
extent reproduce quantitatively the passivation effect in the
active region, such as is demonstrated by Malloy.7 But such
models cannot explain the presence of the passive region from
EP to ED in Figure 1A where the electric current is consistently
low in a typical anodic polarization curve. Although it should be
noted that the term “passive film”6,8 is often used in
descriptions of kinetic models where their success originates
from the steady-state postulate, the steady-state postulate is
simply a principle used in dynamic simulations, so kinetic
models offer only a numerical model that explains the
experimental data rather than provides a theoretical explanation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คำนิยาม - โพลาไรซ์ Anodic ไม่ว่าหมายถึงโพลาไรซ์ anodic หมายถึงการเปลี่ยนแปลงของศักยภาพของอิเล็กโทรดในทิศทางบวก เกิดขึ้น โดยปัจจุบันไหลผ่านอินเทอร์เฟซอิเล็กโทรดกับอิเล็กโทร เช่นเกี่ยวข้องกับไฟฟ้าเคมีออกซิเดชันปฏิกิริยา anodic โพลาไรซ์ของอิเล็กโทรด ในคำอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงขั้วบวกเริ่มต้นเป็นผลจากผลกระแสปัจจุบันที่ หรือ ใกล้พื้นผิวขั้วบวกโพลาไรซ์เป็นการเปลี่ยนแปลงของศักยภาพจากสถานะเสถียรเป็นผลของปัจจุบันกาล มันยังหมายถึงการเปลี่ยนแปลงศักยภาพของอิเล็กโทรดที่ระหว่าง electrolysis ให้กลายเป็นศักยภาพของแอโนด โนเบิลมากขึ้น และที่แคโทดที่อยู่ กว่าศักยภาพของพวกเขาย้อนกลับตามลำดับโพลาไรซ์ anodic ใช้สำหรับวัด และป้องกันการกัดกร่อน จะสามารถใช้เพื่อกำหนดขอบเขตเป็นที่วัสดุมีความไวต่อการกัดกร่อนอย่างรวดเร็วที่ลายเส้นโค้งมักซ้ำรอยติด ๆ กันเมื่อการการสแกนอาจจะถูกทำซ้ำทันทีหลังจากการสแกนที่ก่อนหน้านี้แล้วเสร็จ (รูปที่ 1B) การสังเกตนี้ทันทีrefutes คำอธิบายมักจะยอมรับรูปแบบเส้นโค้งขึ้นอยู่กับทฤษฎีฟิล์มคงแฝง เราสังเกตว่าวลี "แบบพาสซีฟฟิล์ม" 2 "metastable ออกไซด์และชั้น " 3 ได้ถูกใช้ก่อนหน้านี้ในวรรณคดีแต่ไม่มีการกล่าวถึงเกิดรูปแบบนี้ซ้ำชัดเจนทุกทฤษฎีของเส้นโค้ง anodic ต้องอธิบายนี้ใหม่ค้นหา และกลไกของ anodic passivationกำหนดในวรรณคดี (เช่น refs 1 และ 2) มีความชัดเจนไม่เพียงพอหนึ่งสังเกต มองเห็นได้ชัดเจนในรูป 1A คือว่า มีไม่ปัจจุบันในภูมิภาคแฝงจาก EP ED ดังนั้น มีควรจะไม่มีสนามไฟฟ้าที่มีอยู่ในโซลูชันเป็นประจุอิสระในโซลูชันจะถูกขนส่ง โดยสถานะของฟิลด์การไฟฟ้าอธิบายกันในสถานะของการแฝงเป็นว่า ฟิล์มออกไซด์แฝงเกิดขึ้นบนพื้นผิวของโลหะ ซึ่งป้องกันปฏิกิริยาต่อไป คำอธิบายนี้ดูเหมือนสมเหตุสมผลถ้ารูป 1A จะพิจารณาแยกอย่างไรก็ตาม เป็น at odds with สังเกตของซ้ำรูปแบบดังแสดงในรูปที่ 1B เนื่องจากฟิล์มดังกล่าวจะทำให้ลักษณะการทำงานให้ ดังนั้น ไม่สามารถบัญชีทฤษฎีปัจจุบันสำหรับคุณสมบัติทั้งหมดของโพลาไรซ์ anodicมีการเสนอทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับฟิล์มคงเกี่ยวข้องกับการดูดซับความเร็วของปฏิกิริยา ปรับเปลี่ยน 4 และอื่น ๆconcepts.5,6 มันอาจเป็นที่บางน้อยทดแทนเหล่านี้มีการพัฒนาทฤษฎีเนื่องจากมีนักวิจัยสังเกตรูปนี้โค้งซ้ำ และปฏิเสธดัง นี้ทฤษฎีภาพยนตร์คงแฝง แต่นี้ได้ไม่ได้อย่างชัดเจนระบุเดิม ๆ models5, 7, 8 มีลในเรื่องง่าย และรายละเอียดรักษาทางคณิตศาสตร์ได้รับการเสนอที่บางขอบเขตสร้าง quantitatively passivation ลักษณะพิเศษในการภูมิภาคที่ใช้งานอยู่ เช่นจะแสดง โดย Malloy.7 แต่ดังกล่าวรูปแบบไม่สามารถอธิบายสถานะของภูมิภาคแฝงจากEP กับ ED ในรูป 1A กระแสไฟฟ้าสม่ำเสมอต่ำสุดในเส้นโค้งปกติ anodic โพลาไรซ์ ถึงแม้ว่ามันควรสังเกตที่คำ "แฝงฟิล์ม" 6,8 มักใช้ในคำอธิบายของรูปแบบเดิม ๆ ที่ประสบความสำเร็จมาจาก postulate-ท่อน postulate-ท่อนเป็นเพียงหลักการใช้ในแบบจำลอง เดิม ๆ ดังนั้นเฉพาะรูปแบบตัวเลขที่อธิบายถึงการนำเสนอแบบจำลองข้อมูลทดลองแทนที่ให้คำอธิบายทฤษฎี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความหมาย - ขั้วบวกขั้วอะไรหมายความว่าอย่างไร
โพลาไรซ์ไลหมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นของขั้วไฟฟ้าในทิศทางที่เป็นบวก มันเกิดจากกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านอินเตอร์เฟซอิเลคโทรไปอิเล็กเช่นขั้วอิเล็กโทรดที่เกี่ยวข้องกับการเกิดออกซิเดชันปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีหรือขั้วบวก ในคำอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงในผลที่อาจเกิดขึ้นขั้วบวกเริ่มต้นจากผลกระทบการไหลของกระแสหรือใกล้พื้นผิวขั้วบวก. Polarization คือการเปลี่ยนแปลงที่มีศักยภาพจากรัฐที่มีความเสถียรเป็นผลมาจากทางเดินของปัจจุบัน นอกจากนี้ยังหมายถึงการเปลี่ยนแปลงในศักยภาพของอิเล็กโทรดกระแสไฟฟ้าในช่วงดังกล่าวว่าศักยภาพของขั้วบวกจะกลายเป็นเกียรติมากขึ้นและที่แคโทดใช้งานมากขึ้นกว่าศักยภาพย้อนกลับของตน. โพลาไรซ์ขั้วบวกจะใช้สำหรับการวัดและการป้องกันการกัดกร่อน . มันสามารถนำมาใช้ในการกำหนดภูมิภาคที่มีศักยภาพที่วัสดุที่มีความอ่อนไหวต่อการกัดกร่อนอย่างรวดเร็ว. ในรูปแบบโค้งซ้ำตัวเองอย่างต่อเนื่องเมื่อสแกนที่อาจเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในทันทีหลังจากการสแกนก่อนหน้านี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว (รูปที่ 1B) ข้อสังเกตนี้ทันทีหักล้างคำอธิบายที่ได้รับการยอมรับมักจะโค้งสำหรับรูปแบบที่เป็นไปตามทฤษฎีภาพยนตร์เรื่อย ๆ คงที่ เราทราบว่าวลีเช่น "แบบไดนามิกภาพยนตร์เรื่อย ๆ " 2 และ "ออกไซด์ metastable ชั้น "3 ถูกนำมาใช้ก่อนหน้านี้ในวรรณคดี แต่การเกิดขึ้นของรูปแบบการทำซ้ำนี้ยังไม่ได้รับการกล่าวถึง. เห็นได้ชัดว่าทฤษฎีของเส้นโค้งขั้วบวกใด ๆ จะต้องอธิบายใหม่นี้และการค้นพบ ดังนั้นกลไกการทำงานของฟิล์มขั้วบวกที่กำหนดในวรรณคดี (เช่น refs 1 และ 2) เป็นอย่างชัดเจนไม่เพียงพอ. หนึ่งสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนในรูปที่ 1A, คือการที่ไม่มีในปัจจุบันในภูมิภาคแฝงจากสอี ED ดังนั้นควรจะไม่มีสนามไฟฟ้าที่มีอยู่ในการแก้ปัญหาที่เป็นไอออนอิสระในการแก้ปัญหาจะถูกลำเลียงโดยการปรากฏตัวของสนามไฟฟ้า. คำอธิบายที่โดดเด่นสำหรับการแสดงของเรื่อย ๆในภูมิภาคคือฟิล์มออกไซด์เรื่อย ๆ จะเกิดขึ้นบนพื้นผิว ของโลหะซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาต่อไป คำอธิบายนี้ดูเหมือนว่าเหมาะสมถ้ารูปที่ 1A มีการพิจารณาในการแยก. แต่ก็เป็นที่ขัดแย้งกับการสังเกตของเส้นโค้งซ้ำรูปแบบดังแสดงในรูปที่ 1B เพราะภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวจะทำให้เกิดพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดังนั้นทฤษฎีปัจจุบันไม่สามารถบัญชีสำหรับคุณสมบัติทั้งหมดของโพลาไรซ์ขั้วบวก. ทฤษฎีที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์แบบคงที่ได้รับการเสนอชื่อที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาการดูดซับความเร็วการปรับเปลี่ยน, 4 และอื่น ๆconcepts.5,6 อาจเป็นได้ว่าบางส่วนที่น้อยที่สุดของทางเลือกเหล่านี้ทฤษฎีที่ได้รับการพัฒนาเพราะนักวิจัยได้สังเกตเห็นรูปแบบนี้ซ้ำโค้งและเป็นผลปฏิเสธทฤษฎีภาพยนตร์เรื่อย ๆ คงที่ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการระบุไว้อย่างชัดเจน. Kinetic models5,7,8 กับ simplifications และมีรายละเอียดการรักษาทางคณิตศาสตร์ที่ได้รับการเสนอว่าบางขอบเขต ทำซ้ำปริมาณผลทู่ในภูมิภาคที่ใช้งานเช่นการแสดงให้เห็นโดย Malloy.7 แต่เช่นรุ่นที่ไม่สามารถอธิบายการปรากฏตัวของภูมิภาคแฝงจากสอี ED 1A ในรูปที่เป็นกระแสไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องในระดับต่ำในช่วงการโพลาไรซ์ไลทั่วไป แม้ว่ามันควรจะตั้งข้อสังเกตว่าคำว่า "ฟิล์ม" 6,8 มักจะใช้ในรายละเอียดของรูปแบบการเคลื่อนไหวที่ประสบความสำเร็จของพวกเขามาจากหลักฐานที่มั่นคงของรัฐสมมุติมั่นคงของรัฐเป็นเพียงหลักการที่ใช้ในการจำลองแบบไดนามิกเพื่อให้การเคลื่อนไหวรูปแบบมีเพียงรูปแบบตัวเลขที่อธิบายถึงข้อมูลการทดลองมากกว่าให้คำอธิบายทางทฤษฎี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นิยามการโพลาไรเซชันหมายถึงอะไร ?
การโพลาไรเซชั่น หมายถึง การเปลี่ยนแปลงของศักยภาพของขั้วในทิศทางที่เป็นบวก มันเกิดจากกระแสที่ไหลผ่านขั้วไฟฟ้าในอิเล็กโทรไลต์เป็นอินเตอร์เฟซ เช่น ขั้วไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการเกิดปฏิกิริยาเคมีไฟฟ้าออกซิเดชันหรือปฏิกิริยาการ . ในคำอื่น ๆการเปลี่ยนแปลงในเบื้องต้น ผลจากการไหลของกระแสแอโนดเกิดผลกระทบหรือใกล้พื้นผิวขั้วไฟฟ้า

โพลาไรซ์เป็นเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นจากสภาวะเสถียรเป็นผลของทางเดินของปัจจุบัน มันยังหมายถึงการเปลี่ยนแปลงในศักยภาพของขั้วไฟฟ้าระหว่างกระแสไฟฟ้า เช่น ศักยภาพของขั้วบวกจะสูงส่งมากขึ้น และที่เป็นขั้วแคโทดที่ใช้งานมากขึ้นนอกจากศักยภาพของตนกลับ

การโพลาไรเซชันที่ใช้สำหรับวัดและป้องกันการกัดกร่อน มันสามารถใช้เพื่อกำหนดพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดวัสดุกัดกร่อนอย่างรวดเร็ว .
ในเส้นโค้งรูปแบบทำซ้ำตัวเองอย่างต่อเนื่องเมื่อ
ศักยภาพสแกนซ้ำทันทีหลังจากก่อนหน้านี้สแกน
เสร็จเรียบร้อยแล้ว ( รูปที่ 1A )การสังเกตนี้ทันที
refutes ยอมรับโดยปกติคำอธิบายสำหรับเส้นโค้งรูปแบบ
ที่อยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีภาพยนตร์เรื่อยๆคงที่ เราทราบว่า
วลีเช่น " แบบไดนามิกเรื่อยๆฟิล์ม " และ " เมตาสเตเบิลไซด์
ชั้น 3 ได้ใช้ก่อนหน้านี้ในวรรณคดี แต่การทำซ้ำรูปแบบนี้

ยังไม่ได้กล่าวถึงชัดเจนทฤษฎีใด ๆของเส้นโค้งการต้องอธิบายใหม่
ค้นหาและดังนั้นกลไกการแพซซิ
ได้รับในวรรณคดี ( เช่น อ้างอิงที่ 1 และ 2 เป็นอย่างชัดเจนไม่เพียงพอ .
หนึ่งสังเกตเห็นได้ชัดเจนในรูป 1A , คือว่าไม่มี
ปัจจุบันในภูมิภาคเรื่อยๆจากสอีเอ็ด ดังนั้น มี ควร
ไม่มีสนามไฟฟ้าอยู่ในโซลูชั่นที่เป็นไอออนใน
ฟรีโซลูชั่นจะถูกขนส่ง โดยการแสดงตนของสนามไฟฟ้า .
คำอธิบายเด่นในการแสดงตนของภูมิภาคเรื่อยๆ
เป็นฟิล์มออกไซด์เรื่อยๆจะเกิดขึ้นบนพื้นผิวของ
โลหะซึ่งช่วยป้องกันปฏิกิริยาต่อไป นี้อธิบาย
ดูเหมือนว่าเหมาะสมถ้ารูปที่ 1A จะถือว่าแยก .
แต่มันไม่ถูกกับการสังเกตของเส้นโค้ง
ซ้ำอีกรูปแบบดังแสดงในรูปที่ 1 บี เพราะเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดังนั้น ปัจจุบันทฤษฎีไม่สามารถบัญชีสำหรับคุณสมบัติทั้งหมดของการโพลาไรซ์
.
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์แบบคงที่ได้รับการเสนอการปรับเปลี่ยนความเร็วของปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับ
, ,
4 และแนวคิดอื่น ๆ . 5 , 6 มันอาจเป็นไปได้ว่าบางส่วนของเหล่านี้ทางเลือก
อย่างน้อยทฤษฎีได้ถูกพัฒนาขึ้น เพราะนักวิจัย
สังเกตนี้ย้ำเส้นโค้งรูปแบบและผลปฏิเสธ
ทฤษฎีภาพยนตร์เรื่อยๆคงที่ แต่นี้ยังไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน .
) models5,7,8 กับ Simplifications และการรักษาทางคณิตศาสตร์รายละเอียด

ได้รับการเสนอว่าบางขอบเขตถอดแบบปริมาณารผลใน
ภาคใช้งาน