Global Warming Global warming is th

Global Warming
Global warming is the increase in the average temperature of the Earth's near-surface air and oceans since the mid-20th century and its projected continuation. The Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) concludes that increasing greenhouse gas concentrations resulting from human activity such as fossil fuel burning and factories.
Carbon dioxide is not the only gas released by human activities that can cause warming. Human emissions of methane and nitrous oxide together contribute almost half as much warming. The main cause of the hole in the ozone layer is chlorofluorocarbons (CFCs), gases that are used in refrigerators, air conditioners, and industrial applications. While CFCs alone cause warming, their ozone destruction can cause cooling. So far these warming and cooling influences have approximately balanced.


Effect of global Warming
El Niño-Southern Oscillation is a periodic change in the atmosphere and ocean of the tropical Pacific region. It is defined in the atmosphere by changes in the pressure difference between Tahiti and Darwin, Australia, and in the ocean by warming or cooling of surface waters of the tropical central and eastern Pacific Ocean. El Niño is the name given to its warm phase of the oscillation -- the period when water in that region is warmer than average. La Niña is the name given to the cold phase of the oscillation, or the period when the water in the tropical Eastern Pacific is colder than average. The oscillation has no well-defined period, but instead occurs every three to eight years. Mechanisms that sustain the El Niño-La Niña cycle remain a matter of research.

The El Niño-Southern Oscillation is often is abbreviated in scientific jargon as ENSO and in popular usage is commonly called simply El Niño. The name is Spanish for "the boy" and refers to the Christ child, because periodic warming in the Pacific near South America is usually noticed around Christmas. Conversely the name for the cool phase of the oscillation, "La Niña," is Spanish for "the girl."

El Niño is associated with floods, droughts and is linked to other weather disturbances in many locations around the world. El Niño's effects in the Atlantic Ocean lag behind those in the Pacific by 12 to 18 months. Developing countries dependent upon agricultural and fishing are especially affected. El Niño's effects on weather vary with each event. Recent research suggests that treating ocean warming in the eastern tropical Pacific separately from that in the central tropical Pacific may help explain some of these variations.

Climate scientists define El Niño and La Niña based on sustained differences in Pacific-Ocean surface temperatures when compared with the average value. The accepted difference is anything greater than 0.5C (or 0.9F) averaged over the east-central tropical Pacific Ocean. When this happens for less than five months, it is classified as El Niño or La Niña conditions; if the anomaly persists for five months or longer, it is called an El Niño or La Niña "episode." Typically, this happens at irregular intervals of 2–7 years and lasts nine months to two years.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาวะโลกร้อน ภาวะโลกร้อนคือ การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศใกล้พื้นผิวโลกและมหาสมุทรตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 20 และต่อเนื่องคาดการณ์ แผงว่าด้วยในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) สรุปว่า เรือนกระจกเพิ่มขึ้นแก๊สความเข้มข้นที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์เช่นการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลและโรงงานก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ใช่ก๊าซเท่านั้นที่ออก โดยกิจกรรมของมนุษย์ที่สามารถทำให้เกิดภาวะโลกร้อน มนุษย์ปล่อยก๊าซมีเทนและไนตรัสออกไซด์ด้วยกันร่วมเกือบครึ่งหนึ่งเป็นภาวะโลกร้อนมาก สาเหตุหลักของหลุมในชั้นโอโซนคือ chlorofluorocarbons พลังน้ำ (CFCs), ก๊าซที่ใช้ในตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และงานอุตสาหกรรม ขณะ CFCs คนเดียวทำให้เกิดภาวะโลกร้อน การทำลายโอโซนอาจทำให้ระบายความร้อน เพื่อให้ห่างไกลเหล่านี้ร้อน และเย็นอิทธิพลมีประมาณความสมดุลผลกระทบของโลกร้อนภาคใต้หรั่งสั่นเป็นการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราวในบรรยากาศและมหาสมุทรของภูมิภาคแปซิฟิกเขตร้อน มีกำหนดในชั้นบรรยากาศ โดยการเปลี่ยนแปลง ในความดันที่ตาฮิติและดาร์วินออสเตรเลีย ออสเตรเลีย แตกต่างกัน และ ในมหาสมุทร โดยภาวะร้อน หรือเย็นของพื้นผิวน้ำของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนทางภาคกลาง และภาคตะวันออก เอลนิโญมีชื่อเฟสที่อบอุ่นของสั่นระยะเวลาเมื่อน้ำในพื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่นกว่าเฉลี่ย La Niña เป็นชื่อขั้นตอนการหนาวสั่น หรือรอบระยะเวลาเมื่อน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออกเย็นกว่าค่าเฉลี่ย สั่นมีระยะเวลาไม่ชัดเจน แต่แทน เกิดขึ้นทุก 3-8 ปี กลไกที่รักษารอบหรั่ง-La Niña ยังคง เป็นเรื่องของงานวิจัย สั่นใต้หรั่งคือมักจะย่อว่าในศัพท์แสงทางวิทยาศาสตร์เป็น ENSO และนิยมใช้กันทั่วไปเรียกว่าหรั่งก็ ชื่อเป็นภาษาสเปนสำหรับ "เด็ก" และอ้างถึงพระบุตร เนื่องจากภาวะโลกร้อนเป็นครั้งคราวในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้กับอเมริกาใต้มักจะสังเกตเห็นคริสต์มาส ตรงกันข้าม ชื่อเฟสเย็นสั่นสะเทือน "La Niña เป็นภาษาสเปนสำหรับสาวน้อย" หรั่งเกี่ยวข้องกับน้ำท่วม ภัยแล้ง และเชื่อมโยงกับอื่น ๆ รบกวนสภาพอากาศในสถานที่หลายแห่งทั่วโลก ผลกระทบของหรั่งในมหาสมุทรแอตแลนติกที่ล้าหลังในแปซิฟิก 12 ถึง 18 เดือน ประเทศกำลังพัฒนาขึ้นอยู่กับเกษตรกรรม และตกปลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีผลกระทบ เอลนิโญผลสภาพอากาศแตกต่างกันกับแต่ละเหตุการณ์ งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า รักษามหาสมุทรร้อนในตะวันออกแปซิฟิกเขตร้อนแยกต่างหากจากที่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนอาจช่วยอธิบายบางอย่างของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศกำหนดหรั่ง และ La Niña อิงจากอุณหภูมิพื้นผิวมหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยความแตกต่างอย่างยั่งยืน ความแตกต่างยอมรับเป็นอะไรที่มากกว่า 0.5C (หรือ 0.9F) เฉลี่ยเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออก-กลาง เมื่อเกิดปัญหานี้น้อยกว่าห้าเดือน มันจัดเป็นหรั่งหรือ La Niña เงื่อนไข ถ้าความผิดปกติที่ยังคงมีอยู่ห้าเดือน ขึ้นไป เรียกว่าหรั่งหรือ La Niña "ตอนนี้" โดยทั่วไป นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผิดปกติ 2 – 7 ปี และระยะเวลา 9 เดือนถึงสองปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อนคือการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศใกล้พื้นผิวโลกและมหาสมุทรตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 และต่อเนื่องคาดการณ์ของตน คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) สรุปว่าการเพิ่มความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์เช่นการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลและโรงงาน.
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ได้เป็นเพียงก๊าซที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมของมนุษย์ที่สามารถก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ปล่อยก๊าซเรือนกระจกของมนุษย์ของก๊าซมีเทนและไนตรัสออกไซด์ร่วมกันมีส่วนร่วมเกือบครึ่งหนึ่งเป็นร้อนมาก สาเหตุหลักของหลุมในชั้นโอโซนคือ chlorofluorocarbons (CFCs) ก๊าซที่ใช้ในตู้เย็น, เครื่องปรับอากาศและงานอุตสาหกรรม ในขณะที่สาร CFCs คนเดียวที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนทำลายโอโซนของพวกเขาสามารถทำให้เกิดการระบายความร้อน เพื่อให้ห่างไกลเหล่านี้ภาวะโลกร้อนและความเย็นที่มีอิทธิพลต่อความสมดุลมีประมาณ.


ผลกระทบของภาวะโลกร้อน
เอลนีโญ-ใต้ความผันผวนคือการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ ๆ ในบรรยากาศและมหาสมุทรของภูมิภาคแปซิฟิกเขตร้อน มันถูกกำหนดไว้ในชั้นบรรยากาศจากการเปลี่ยนแปลงในความแตกต่างของความดันระหว่างตาฮิติและดาร์วินออสเตรเลียและในมหาสมุทรโดยภาวะโลกร้อนหรือการระบายความร้อนของน้ำผิวดินของเขตร้อนภาคกลางและตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก เอลนีโญเป็นชื่อที่กำหนดให้ขั้นตอนที่อบอุ่นของการสั่น - ช่วงเวลาที่น้ำในพื้นที่ที่เป็นที่อบอุ่นกว่าค่าเฉลี่ย ลานีญาเป็นชื่อที่กำหนดถึงช่วงเย็นของการสั่นหรือช่วงเวลาที่น้ำในเขตร้อนแปซิฟิกตะวันออกเป็นที่หนาวเย็นกว่าค่าเฉลี่ย ความผันผวนมีช่วงเวลาที่ไม่ดีที่กำหนด แต่แทนที่จะเกิดขึ้นทุก 3-8 ปี กลไกที่รักษารอบเอลนีโญลานีญายังคงเป็นเรื่องของการวิจัย.

เอลนีโญ-ใต้ความผันผวนมักจะสั้นในศัพท์แสงทางวิทยาศาสตร์เป็น ENSO และนิยมในการใช้เป็นที่นิยมเรียกว่าเอลนีโญ ชื่อเป็นสเปนสำหรับ "เด็ก" และหมายถึงเด็กคริสต์เพราะภาวะโลกร้อนเป็นระยะ ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้อเมริกาใต้มักจะสังเกตเห็นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ตรงกันข้ามชื่อสำหรับขั้นตอนเย็นของการสั่น "ลานีญา" เป็นสเปนสำหรับ "สาว."

เอลนีโญมีความเกี่ยวข้องกับน้ำท่วมภัยแล้งและมีการเชื่อมโยงกับระเบิดสภาพอากาศอื่น ๆ ในหลายสถานที่ทั่วโลก ผลกระทบของเอลนีโญในมหาสมุทรแอตแลนติกล่าช้าอยู่เบื้องหลังผู้ที่อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกโดย 12 ถึง 18 เดือน ประเทศกำลังพัฒนาขึ้นอยู่กับการเกษตรและการประมงได้รับผลกระทบโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลกระทบของเอลนีโญกับสภาพอากาศแตกต่างกันกับแต่ละเหตุการณ์ งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการรักษาภาวะโลกร้อนของมหาสมุทรในภาคตะวันออกของแปซิฟิกเขตร้อนแยกต่างหากจากที่ในภาคกลางแปซิฟิกเขตร้อนอาจช่วยอธิบายบางส่วนของรูปแบบเหล่านี้.

นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศกำหนดเอลนีโญและลานีญาอยู่บนพื้นฐานของความแตกต่างอย่างยั่งยืนในเอเชียแปซิฟิกมหาสมุทรอุณหภูมิพื้นผิวเมื่อเทียบกับ ค่าเฉลี่ย. ความแตกต่างที่ได้รับการยอมรับเป็นอะไรมากกว่า 0.5C (หรือ 0.9F) เฉลี่ยเหนือตะวันออกกลางมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นน้อยกว่าห้าเดือนก็จัดเป็นเอลนีโญลานีญาหรือเงื่อนไข; ถ้าความผิดปกติยังคงมีอยู่เป็นเวลาห้าเดือนหรือนานกว่านั้นจะถูกเรียกว่าเอลนีโญหรือลานีญา "ตอน." โดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผิดปกติของ 2-7 ปีและเป็นเวลาเก้าเดือนถึงสองปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาวะโลกร้อนภาวะโลกร้อนคือการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศใกล้ผิวโลกและมหาสมุทรตั้งแต่กลาง - ศตวรรษที่ 20 และฉายต่อเนื่อง แผงระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( IPCC ) พบว่า การเพิ่มความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น โรงงานฟอสซิล เชื้อเพลิงและการเผาไหม้ .ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เพียงก๊าซที่ปล่อยจากกิจกรรมของมนุษย์ที่ทำให้โลกร้อน . มนุษย์ปล่อยก๊าซมีเทนกันร่วมเกือบครึ่งหนึ่งเป็นอุ่นมาก สาเหตุหลักของหลุมในชั้นบรรยากาศโอโซนเป็นก๊าซคลอโรฟลูออโรคาร์บอน ( CFCs ) ที่ใช้ในตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม ในขณะที่สารคนเดียวเพราะโลกร้อนขึ้น การทำลายโอโซนทำให้เกิดความเย็น จนร้อนและเย็นอิทธิพลมีประมาณสมดุลผลกระทบของภาวะโลกร้อนแฟรงก์ ซินาตราเป็นการเปลี่ยนแปลงธาตุในชั้นบรรยากาศ และมหาสมุทรของภูมิภาคแปซิฟิกเขตร้อน มันถูกกําหนดไว้ในบรรยากาศ โดยการเปลี่ยนแปลงในความดันที่ตาฮิติ และความแตกต่างระหว่างเมืองดาร์วิน ออสเตรเลีย และในมหาสมุทรโดยร้อนหรือเย็นของพื้นผิวน้ำของเขตร้อนตอนกลางและตะวันออกมหาสมุทรแปซิฟิก El Ni á o คือชื่อให้ความอบอุ่น ระยะของการแกว่ง -- ช่วงเวลาที่น้ำในเขตที่อุ่นกว่าค่าเฉลี่ย ลานีญาคือชื่อให้ที่ระยะเย็นของการแกว่ง หรือช่วงที่น้ำในเขตร้อนแปซิฟิกตะวันออกหนาวกว่าเฉลี่ย ความผันผวน ไม่มีกำหนดระยะเวลา แต่เกิดขึ้นทุกสามถึงแปดปี กลไกที่สนับสนุน เอล นิ o-la เมืองผมเมืองรอบยังคงเป็นเรื่องของการวิจัยโดยแฟรงก์ ซินาตรามักจะย่อในศัพท์แสงทางวิทยาศาสตร์เป็นปรากฏการณ์และในการใช้งานที่นิยมโดยทั่วไปเรียกว่าเพียงแค่เอล นิá o . ชื่อเป็นภาษาสเปนสำหรับ " เด็ก " และหมายถึงเด็กคริสต์ เพราะธาตุอุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้อเมริกาใต้มักจะสังเกตรอบ ๆคริสมาสต์ ในทางกลับกัน ชื่อเฟสเย็นของการแกว่ง " ลานีญา " เป็นภาษาสเปนสำหรับ " ผู้หญิง "El Ni á o เกี่ยวข้องกับอุทกภัย ภัยแล้ง และเชื่อมโยงกับสภาพอากาศแปรปรวนในอื่น ๆหลายแห่งทั่วโลก เอล นิก็á n ผลในมหาสมุทรแอตแลนติกล้าหลังในแปซิฟิก โดย 12 ถึง 18 เดือน การพัฒนาประเทศขึ้นอยู่กับการเกษตร และประมงได้รับผลกระทบโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอล นิก็á n ผลกระทบต่อสภาพอากาศแตกต่างกันไปในแต่ละเหตุการณ์ การวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า การรักษาความร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออกแยกต่างหากจากที่ในภาคกลางมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนอาจช่วยอธิบายบางส่วนของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศกำหนด El Ni á o และลานีญา ตามความแตกต่างของอุณหภูมิพื้นผิวมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย ยอมรับความแตกต่างอะไรที่มากกว่า 0.5c ( หรือ 0.9f ) เฉลี่ยเหนืออีสานกลางมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนมหาสมุทร เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ น้อยกว่า 5 เดือน มันจัดเป็นเมืองเอล นีโอ หรือลานีญาเงื่อนไข ; หากความผิดปกติคงอยู่เป็นเวลา 5 เดือน หรือนานกว่านั้น มันเรียกว่า เอล นิá o หรือลานีญา " ตอน " โดยปกติ นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาปกติ 2 – 7 ปี เป็นเวลาเก้าเดือนถึงสองปี