Gender and Self-EfficacyThere was n

Gender and Self-Efficacy
There was not a statistically significant difference in self-efficacy scores or perceived barriers for boys and girls. Thus, this study does not support the findings of previous investigations that have reported self-efficacy or perceived competence values as significantly higher for boys compared to girls (Cardon et al., 2005; Eyler et al., 2006).
Gender and Beliefs
Contrary to the findings by Cardon et al. (2005), girls reported significantly higher Beliefs scores than boys. A possible explanation for this is the participant age difference in the two studies. Cardon et al. (2005) used a study sample of ten and 11 year-old children while seven and eight year-old children participated in the current study. Looking at the individual Belief items more closely, significantly more boys perceived being physically active everyday would make them get hurt. This may be associated with the types of activities available to boys (i.e. baseball, football) as well as the time of year the study was performed (early May).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทางเพศและการรับรู้ความสามารถของตนเอง-
มีไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในคะแนนตนเองประสิทธิภาพหรือการรับรู้อุปสรรคสำหรับเด็กหญิงและเด็กชาย ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้ไม่สนับสนุนการค้นพบของการตรวจสอบก่อนหน้านี้ที่ได้รายงานตนเองประสิทธิภาพหรือค่าความสามารถในการรับรู้เป็นอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นสำหรับเด็กผู้ชายเมื่อเทียบกับผู้หญิง (Cardon, et al, 2005;.. eyler et al, 2006).
เพศและความเชื่อ
ตรงกันข้ามกับผลการวิจัยโดย Cardon et al, (2005), หญิงรายงานคะแนนความเชื่ออย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าเด็กผู้ชาย คำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับการนี​​้แตกต่างของอายุมีส่วนร่วมในการศึกษาทั้งสอง อัล Cardon et (2005) ที่ใช้กลุ่มตัวอย่างจากสิบและเด็ก 11 ปีในขณะที่เจ็ดและแปดปีเก่ามีส่วนร่วมในการศึกษาปัจจุบัน กำลังมองหาที่รายการความเชื่อของแต่ละบุคคลอย่างใกล้ชิดชายอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นการรับรู้ทางร่างกายถูกใช้งานในชีวิตประจำวันจะทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บ นี้อาจจะเกี่ยวข้องกับประเภทของกิจกรรมที่มีให้เด็ก ๆ (เช่นเบสบอล, ฟุตบอล) เช่นเดียวกับช่วงเวลาของปีการศึกษาได้ดำเนินการ (ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพศและประสิทธิภาพตนเอง
ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในตนเองประสิทธิภาพคะแนนหรืออุปสรรครับรู้สำหรับเด็กชายและเด็กหญิง ดัง การศึกษานี้สนับสนุนผลการวิจัยของการตรวจสอบก่อนหน้านี้ที่รายงานประสิทธิภาพตนเอง หรือมองเห็นค่าความสามารถเป็นอย่างสูงสำหรับเด็กผู้ชายที่เมื่อเทียบกับผู้หญิง (Cardon et al., 2005 Eyler และ al., 2006) .
เพศและความเชื่อ
ขัดกับผลการวิจัยโดย Cardon et al. (2005), หญิงรายงานคะแนนความเชื่ออย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าชาย คำอธิบายที่เป็นไปได้นี้เป็นความแตกต่างของอายุผู้เข้าร่วมในการศึกษาสอง Cardon et al. (2005) ใช้ศึกษาตัวอย่างของสิบ และ 11 ปีเด็กในขณะที่เจ็ด และแปดปีเด็กเข้าร่วมในการศึกษาปัจจุบัน ดูแต่ละความเชื่อสินค้ามากอย่างใกล้ชิด อย่างมีนัยสำคัญมากกว่าชายมองเห็นการใช้งานจริงทุกวันจะทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บ นี้อาจจะเกี่ยวข้องกับชนิดของกิจกรรมที่ให้เด็กผู้ชาย (เช่นเบสบอล ฟุตบอล) เป็นช่วงเวลาของปีการศึกษามีดำเนินการ (ต้นเดือนพฤษภาคม)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกี่ยวกับเรื่องเพศและ self-efficacy
ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่คะแนนในตัวเอง - ประสิทธิภาพ หรืออุปสรรคการรับรู้สำหรับเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ดังนั้นการศึกษาวิจัยนี้ไม่สนับสนุนการค้นพบของการสืบสวนก่อนหน้าที่มีรายงานว่าค่าด้วยตนเอง - ประสิทธิภาพ หรือการรับรู้และความรู้ความสามารถสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดสำหรับเด็กเมื่อเทียบกับผู้หญิง( cardon et al . 2005 eyler et al . 2006 )..

ทางเพศและความเชื่อขัดต่อการค้นพบโดย cardon et al . ( 2005 )รายงานว่าเด็กผู้หญิงสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคะแนนความเชื่อมากกว่าเด็กผู้ชาย คำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับโรงแรมแห่งนี้คือความแตกต่างในอายุผู้เข้าร่วมประชุมในการศึกษาที่สอง cardon et al . ( 2005 )ที่ใช้ตัวอย่างการศึกษาของ 10 และ 11 ปีเด็กขณะที่เด็กปี 7 และ 8 เข้าร่วมในการศึกษาในปัจจุบัน กำลังมองหาที่รายการความเชื่อแต่ละคนได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้นเด็กมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญการรับรู้การออกกำลังกายทุกวันจะทำให้ได้รับบาดเจ็บ โรงแรมแห่งนี้อาจจะมีการเชื่อมโยงกับ ประเภท ของกิจกรรมที่มีให้กับพวกผู้ชาย(เช่นเล่นฟุตบอลเบสบอล)และช่วงเวลาของปีการศึกษาที่ได้ดำเนินการ(ช่วงต้นเดือน พฤษภาคม )