1. IntroductionDiarrhetic shellfish

1. Introduction
Diarrhetic shellfish poisoning (DSP) was first
described in the 1980s (Yasumoto et al., 1980), it is
caused by the contamination of shellfish with toxins
originating in dinoflagellates that are predominantly
within the genera Dinophysis and Prorocentrum and
has since been reported to occur worldwide (Wright,
1995). So far, however, there have only been three
DSP contamination incidents reported in Australia
that have resulted in illness. The first, in December
1997, was a large outbreak associated with the
consumption of pipis (Plebidonax deltoides, Lamarck,
1818) in New South Wales (NSW), in which 102
people were affected; 56 of these reported to public health units with heal th compla ints (Quaine et al.,
1997). The second outbreak of DSP, in March 1998,
affected 20 individuals in NSW (MacKenzie, 2002).
The third outbreak in March 2000, was again linked to
the consumption of pipis, but affected only one
individual in Queensland (Burgess and Shaw, 2001).
In all of these cases, high concentrations of the
pectenotoxin: PTX-2 seco acid was detected in the
shellfish and the human poisonings were initially
tentatively attributed to this toxin (Burgess and Shaw,
2001). However, it is now known that PTX-2 seco
acid, which is rapidly converted from PTX-2 to PTX-2
seco acid in shellfish tissues (Suzuki et al., 2001), has
little if any oral toxicity (MacKenzie, 2002; Miles
et al., 2004). It is now considered that the human
intoxications experienced during the NSW and
Queensland incidents were due to acyl esters of
okadaic acid (Burgess and Shaw, 2003), which have
previously been established as the cause of human
food poisonings elsewhere (Vale and Sampayo, 2002).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. บทนำDiarrhetic หอยเป็นพิษ (DSP) เป็นครั้งแรกอธิบายในทศวรรษ 1980 (ยะซุโมะโตะ et al., 1980), เป็นเกิดจากการปนเปื้อนด้วยสารพิษหอยเกิดใน dinoflagellates ที่เป็นภายในสกุล Dinophysis และ Prorocentrum และตั้งแต่ได้รับรายงานเกิดขึ้นทั่วโลก (ไรท์1995) มาก อย่างไรก็ตาม เท่านั้นมี 3รายงานเหตุการณ์การปนเปื้อนของ DSP ในออสเตรเลียที่ทำให้เจ็บป่วย ครั้งแรก ในเดือนธันวาคมปี 1997 ถูกระบาดใหญ่เกี่ยวข้องกับการปริมาณการใช้ pipis (Plebidonax deltoides, Lamarck1818) ในนิวเซาธ์เวลส์ (นิวเซาธ์เวลส์), ในที่ 102คนได้รับผลกระทบ th compla ints รักษา 56 นี้รายงานหน่วยสาธารณสุขด้วย (Quaine et al.,1997) ระบาดสองของ DSP ในเดือนมีนาคมปี 1998ได้รับผลกระทบ 20 บุคคลในนิวเซาธ์เวลส์ (แมค 2002)สธ.สามใน 2000 มีนาคม อีกลิงค์ไปปริมาณการใช้ pipis แต่ได้รับผลกระทบเพียงหนึ่งเดียวบุคคลในรัฐควีนส์แลนด์ (แอและ Shaw, 2001)ในกรณีเหล่านี้ ความเข้มข้นสูงของการpectenotoxin: พบกรด seco PTX-2 ในการหอยและ poisonings มนุษย์ได้เริ่มต้นบันทึกนี้พิษ (แอและ Shaw อย่างไม่แน่นอน2001) . อย่างไรก็ตาม เป็นตอนนี้ที่รู้จักกันว่า seco PTX-2กรด ซึ่งเป็นอย่างรวดเร็วแปลงจาก PTX-2 PTX-2seco กรดในเนื้อเยื่อหอย (ซูซูกิและ al., 2001), มีความเป็นพิษปากเล็กน้อยถ้ามี (แมค 2002 ไมล์ร้อยเอ็ด al., 2004) ตอนนี้ว่าที่มนุษย์intoxications ประสบการณ์ระหว่างนิวเซาธ์เวลส์ และปัญหารัฐควีนส์แลนด์ได้เนื่องจาก acyl esters ของกรด okadaic (แอและ Shaw, 2003), ซึ่งมีก่อนหน้านี้ ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นทางของบุคคลอาหาร poisonings อื่น ๆ (เวลและ Sampayo, 2002)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. บทนำ
Diarrhetic พิษหอย (DSP) เป็นครั้งแรก
ที่อธิบายไว้ในช่วงปี 1980 (Yasumoto et al., 1980) ก็จะ
เกิดจากการปนเปื้อนของหอยที่มีสารพิษ
ที่เกิดขึ้นใน dinoflagellates ที่มีส่วนใหญ่
ที่อยู่ในจำพวก Dinophysis และ Prorocentrum และ
ได้รับตั้งแต่ รายงานที่จะเกิดขึ้นทั่วโลก (ไรท์,
1995) เพื่อให้ห่างไกล แต่มีเพียงสาม
DSP เหตุการณ์การปนเปื้อนในออสเตรเลียรายงาน
ว่ามีผลในการเจ็บป่วย เป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม
ปี 1997 คือการระบาดของโรคที่มีขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ
การบริโภคของ pipis (Plebidonax deltoides, มาร์ค,
1818) ในนิวเซาธ์เวลส์ (NSW) ซึ่งใน 102
คนที่ได้รับผลกระทบ 56 ของทั้งรายงานไปยังหน่วยงานด้านสุขภาพของประชาชนที่มีการรักษาครั้ง ints compla (Quaine et al.,
1997) การระบาดของโรคที่สองของ DSP ในเดือนมีนาคมปี 1998
ได้รับผลกระทบ 20 บุคคลในเอ็นเอส (แม็คเคนซี่, 2002).
การระบาดของโรคที่สามมีนาคม 2000 ได้รับการเชื่อมโยงอีกครั้งเพื่อ
การบริโภคของ pipis แต่ได้รับผลกระทบเพียงหนึ่ง
ในแต่ละรัฐควีนส์แลนด์ (ประชากรและชอว์ 2001 ).
ในทุกกรณีเหล่านี้ความเข้มข้นสูงของ
pectenotoxin: PTX-2 กรด Seco ถูกตรวจพบใน
หอยและพิษของมนุษย์ที่ถูกตอนแรก
ลังเลที่จะมาประกอบสารพิษนี้ (ประชากรและชอว์,
2001) แต่ก็เป็นที่รู้จักกันในขณะนี้ว่า Seco PTX-2
กรดซึ่งจะถูกแปลงอย่างรวดเร็วจาก PTX-2 กับ PTX-2
Seco กรดในเนื้อเยื่อหอย (ซูซูกิ et al, 2001.) มี
เล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้ามีพิษทางปาก (แม็คเคนซี่, 2002; ไมล์
et al., 2004) ก็ถือว่าตอนนี้ที่มนุษย์
พิษประสบการณ์ในช่วงเอ็นเอสและ
รัฐควีนส์แลนด์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากเอสเทอ acyl ของ
กรด okadaic (ประชากรและชอว์, 2003) ซึ่งได้
รับการจัดตั้งขึ้นก่อนหน้านี้เป็นสาเหตุของมนุษย์
เป็นพิษอาหารอื่น ๆ (หุบเขาและ Sampayo 2002 )

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . บทนำ
diarrhetic หอยพิษ ( DSP ) คือก่อน
ที่อธิบายไว้ในยุค 80 ( กิ ยะซุโมะโตะ et al . , 1980 ) , มันเป็น
เกิดจากการปนเปื้อนของสารพิษในหอยกับไดโนแฟลเจลเลตที่เด่นขึ้น

ภายในสกุล และ prorocentrum ไดโนไฟซีสและ
มีตั้งแต่รายงานที่จะเกิดขึ้นทั่วโลก ( ไรท์
1995 ) . ดังนั้นไกล อย่างไรก็ตาม มีเพียงสาม
แบบรายงานการปนเปื้อนเหตุการณ์ในออสเตรเลีย
ว่ามีผลในการเจ็บป่วย ครั้งแรกในเดือนธันวาคม
1997 เป็นจำนวนที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค pipis (

deltoides มาร์ค plebidonax , 1818 ) ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่ง 102
คนได้รับผลกระทบ ; 56 เหล่านี้รายงานให้หน่วยสาธารณสุขกับรักษา th compla ints ( quaine et al . ,
1997 ) การระบาดของโรคที่สองของ DSP ,ในเดือนมีนาคม ปี 1998
ได้รับผลกระทบ 20 บุคคลในรัฐ NSW ( แม็คเคนซี่ , 2002 ) .
ระบาดที่สามในเดือนมีนาคม 2000 เป็นอีกครั้งที่เชื่อมโยงกับการบริโภค pipis

บุคคลเพียงคนเดียว แต่กระทบในรัฐควีนส์แลนด์ ( Burgess และชอว์ , 2001 ) .
ในทุกกรณีเหล่านี้ที่ความเข้มข้นสูงของ
pectenotoxin : ptx-2 Seco กรดที่ตรวจพบในหอยและพิษมนุษย์

เริ่มต้นยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากสารพิษนี้ ( เบอร์เกส และ ชอว์
2001 ) อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่า ptx-2 Seco
กรดซึ่งเป็นอย่างรวดเร็วแปลงจาก ptx-2 กรด Seco ptx-2
ในหอยเนื้อเยื่อ ( Suzuki et al . , 2001 ) ได้
เล็กน้อยถ้าปากเป็นพิษ ( แม็คเคนซี่ , 2002 ; ไมล์
et al . , 2004 ) คือตอนนี้ถือว่ามนุษย์

intoxications มีประสบการณ์ใน NSW และควีนส์แลนด์เหตุการณ์เนื่องจากเอซิลเอสเทอร์ของกรด (
okadaic Burgess และชอว์ , 2003 ) ซึ่งมี
ก่อนหน้านี้ถูกก่อตั้งเป็นเพราะพิษอาหารมนุษย์
ที่อื่น ( หุบเขาและ sampayo , 2002 )