Morbidity and mortality from myocar

Morbidity and mortality from myocardial infarction are significantly reduced if patients and bystanders recognize symptoms early, activate the emergency medical service (EMS) system, and thereby shorten the time to definitive treatment. Trained prehospital personnel can provide life-saving interventions if the patient develops cardiac arrest. The key to improved survival is the availability of early defibrillation. Approximately 1 in every 300 patients with chest pain transported to the ED by private vehicle goes into cardiac arrest en route. Several studies have confirmed that patients with STEMI usually do not call 911; in one study, only 23% of patients with a confirmed coronary event used EMS.

The first goal for healthcare professionals is to diagnose in a very rapid manner whether the patient is having an STEMI or NSTEMI because therapy differs between the 2 types of myocardial infarction. Particular considerations and differences involve the urgency of therapy and degree of evidence regarding different pharmacological options. As a general rule, initial therapy for acute myocardial infarction is directed toward restoration of perfusion as soon as possible to salvage as much of the jeopardized myocardium as possible. This may be accomplished through medical or mechanical means, such as PCI or CABG.

Further treatment is based on the following:

Restoration of the balance between the oxygen supply and demand to prevent further ischemia
Pain relief
Prevention and treatment of any complications that may arise
Coronary collateral circulation
The coronary collateral circulation is an important factor in terms of the amount of damage to the myocardium that results from coronary occlusion. Well-developed collaterals may greatly limit or even completely eliminate myocardial infarction despite complete occlusion of a coronary artery. Reports vary as to the number of patients who have collaterals at the time of a myocardial infarction; many patients develop collaterals in the hours and days after an occlusion occurs.[46] When the patient is at rest, blood flow through collaterals is normal, a fact that accounts for the absence of resting ischemia. However, blood flow through collaterals does not increase with exercise; this inability accounts for the occurrence of ischemia during periods of stress.[47]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Morbidity และการตายจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเหตุขาดเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญลดลงถ้าผู้ป่วยและ bystanders รู้จักอาการเช้า เปิดใช้งานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) และจึงช่วยย่นเวลาในการรักษาทั่วไป Prehospital บุคลากรผ่านการฝึกอบรมสามารถให้การรักษาช่วยชีวิตหากผู้ป่วยพัฒนาหัวใจ คีย์เพื่อความอยู่รอดที่ดีขึ้นเป็นความพร้อมของต้น defibrillation ประมาณ 1 ในผู้ป่วยทุก 300 กับหน้าอก ปวดที่ขนส่งไป ED โดยรถส่วนตัวไปเป็นหัวใจเส้น หลายการศึกษาได้ยืนยันว่า ผู้ป่วย STEMI มักเรียก 911 ในการศึกษาหนึ่ง เพียง 23% ของผู้ป่วยที่มีเหตุการณ์หัวใจยืนยันใช้ EMSเป้าหมายแรกสำหรับผู้เชี่ยวชาญแพทย์จะวินิจฉัยว่าผู้ป่วยกำลังเป็น STEMI หรือ NSTEMI ได้เนื่องจากการรักษาแตกต่างกันระหว่าง 2 ชนิดของกล้ามเนื้อหัวใจตายอย่างรวดเร็วมาก พิจารณาเฉพาะและความเกี่ยวข้องกับความเร่งด่วนของการรักษาและระดับของหลักฐานเกี่ยวกับตัวเลือกต่าง ๆ pharmacological เป็นกฎทั่วไป รักษาเบื้องต้นสำหรับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเป็นตรงไปทางฟื้นฟูการกำซาบเร็วกู้ myocardium jeopardized เป็นไปได้มากที่สุด นี้อาจทำได้ผ่านทางการแพทย์ หรือเครื่องจักรกลหมายถึง เช่น PCI หรือ CABGรับการรักษาจะขึ้นอยู่กับต่อไปนี้:ฟื้นฟูสมดุลระหว่างอุปทานออกซิเจนและความต้องการเพื่อป้องกันการขาดเลือดเฉพาะที่เพิ่มเติมบรรเทาอาการปวดหลังป้องกันและรักษาภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหมุนเวียนหลักประกันหัวใจการหมุนเวียนหลักประกันหัวใจเป็นปัจจัยสำคัญในจำนวนของความเสียหายของ myocardium ที่เกิดจากหัวใจไม่ควรมองข้าม ห้องพัฒนาชิ้นอาจมากจำกัด หรือขจัดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายแม้ มีสิ่งสำคัญที่สมบูรณ์ของหลอดเลือดหัวใจแม้ทั้งหมด รายงานที่แตกต่างกันไปตามจำนวนผู้ป่วยที่มีชิ้นในขณะกล้ามเนื้อหัวใจตายเหตุขาดเลือด ผู้ป่วยที่พัฒนาชิ้นชั่วโมงและวันหลังจากที่เกิดขึ้นที่ไม่ควรมองข้าม [46] เมื่อผู้ป่วยอยู่ที่เหลือ ไหลเวียนของเลือดผ่านชิ้นเป็นปกติ ความจริงที่บัญชีสำหรับการขาดงานของการขาดเลือดเฉพาะที่พัก อย่างไรก็ตาม ไหลเวียนของเลือดผ่านชิ้นไม่เพิ่มขึ้น ด้วยการออกกำลังกาย นี้ไม่สามารถบัญชีสำหรับการเกิดขึ้นของการขาดเลือดในระหว่างรอบระยะเวลาของความเครียด [47]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจตายจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญหากผู้ป่วยและผู้ยืนดูรับรู้อาการเริ่มแรกเปิดใช้งานหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) ระบบและจึงลดระยะเวลาในการรักษาที่ชัดเจน การฝึกอบรมบุคลากรนอกโรงพยาบาลสามารถให้การแทรกแซงการช่วยชีวิตผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นพัฒนา กุญแจสำคัญในการอยู่รอดที่ดีขึ้นคือการมีการช็อกไฟฟ้าต้น ประมาณ 1 ในทุก 300 ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกเคลื่อนย้ายไปยัง ED โดยใช้ยานพาหนะส่วนตัวที่จะเข้าสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นระหว่างทาง งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าผู้ป่วยที่มี STEMI มักจะไม่ได้โทร 911; ในการศึกษาเพียง 23% ของผู้ป่วยที่มีเหตุการณ์ที่หัวใจได้รับการยืนยันการใช้ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม. เป้าหมายแรกสำหรับมืออาชีพด้านการดูแลสุขภาพคือการวินิจฉัยในลักษณะที่รวดเร็วมากไม่ว่าผู้ป่วยจะมี STEMI หรือ NSTEMI เพราะการรักษาที่แตกต่างระหว่าง 2 ประเภทของกล้ามเนื้อหัวใจตาย . โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาและความแตกต่างที่เกี่ยวข้องกับความเร่งด่วนของการรักษาและระดับของหลักฐานเกี่ยวกับตัวเลือกที่แตกต่างกันทางเภสัชวิทยา ตามกฎทั่วไปการรักษาด้วยการเริ่มต้นสำหรับโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเป็นผู้กำกับที่มีต่อการฟื้นฟูปะเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ที่จะกอบกู้เท่าของกล้ามเนื้อหัวใจอันตรายที่เป็นไปได้ นี้อาจจะประสบความสำเร็จด้วยวิธีการทางการแพทย์หรือเครื่องจักรกลเช่น PCI หรือ CABG. การรักษาต่อไปจะขึ้นอยู่กับต่อไปนี้: การฟื้นฟูความสมดุลระหว่างออกซิเจนและความต้องการที่จะป้องกันการขาดเลือดต่อความเจ็บปวดบรรเทาป้องกันและรักษาภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหัวใจ การไหลเวียนของหลักประกันการไหลเวียนของหลอดเลือดหลักประกันเป็นปัจจัยสำคัญในแง่ของปริมาณของความเสียหายให้กับกล้ามเนื้อหัวใจที่เกิดจากการอุดตันหลอดเลือด หลักประกันการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างมากอาจจะ จำกัด หรือแม้กระทั่งสมบูรณ์กำจัดกล้ามเนื้อหัวใจตายแม้จะมีการบดเคี้ยวที่สมบูรณ์ของหลอดเลือดหัวใจ รายงานแตกต่างกันจำนวนของผู้ป่วยที่มีหลักประกันในเวลาที่กล้ามเนื้อหัวใจตาย; ผู้ป่วยจำนวนมากในการพัฒนาหลักประกันในชั่วโมงและวันหลังจากการอุดตันเกิดขึ้น. [46] เมื่อผู้ป่วยที่เหลือไหลเวียนของเลือดผ่านหลักประกันเป็นปกติความจริงที่ว่าบัญชีสำหรับกรณีที่ไม่มีการขาดเลือดวางอยู่ อย่างไรก็ตามการไหลเวียนของเลือดผ่านหลักประกันไม่ได้เพิ่มขึ้นด้วยการออกกำลังกาย ไร้ความสามารถนี้บัญชีสำหรับการเกิดขึ้นของการขาดเลือดในช่วงระยะเวลาของความเครียด. [47]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเจ็บป่วยและการตายจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจะลดลงถ้าผู้ป่วยและคนภายนอกรับรู้อาการ เปิดบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ( EMS ) ระบบ เพื่อลดเวลาที่จะใช้รักษา บุคลากรผ่านการฝึกอบรมสามารถให้ช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บผู้ป่วย ถ้าผู้ป่วยเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นคีย์เพื่อปรับปรุงการอยู่รอดมีความพร้อมก่อนการกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้า . ประมาณทุก 1 ใน 300 ผู้ป่วยเจ็บหน้าอกส่งไปยังเอ็ดโดยรถส่วนตัวเข้าจับหัวใจไปตลอดเส้นทาง หลายการศึกษาได้ยืนยันว่า ผู้ป่วยมักจะไม่เรียก 911 จำกัด ในการศึกษาหนึ่ง เพียง 23 % ของผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดยืนยันเหตุการณ์ใช้ EMS

เป้าหมายแรกสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวินิจฉัยในลักษณะที่รวดเร็วมากว่าผู้ป่วยมีการจำกัดหรือ 001 เพราะบำบัดแตกต่างระหว่าง 2 ประเภทของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด การพิจารณาโดยเฉพาะ และความแตกต่างที่เกี่ยวข้องกับความเร่งด่วนของการรักษาและระดับของหลักฐานเกี่ยวกับตัวเลือกการใช้ที่แตกต่างกัน เป็นกฎทั่วไปการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันมุ่งไปที่การฟื้นฟูสูงเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ที่จะกู้มากของกล้ามเนื้อหัวใจอาจเป็นไปได้ นี้อาจจะประสบความสำเร็จผ่านแพทย์ หรือเครื่องจักรกล หมายถึง เช่น PCI หรือหัวใจ

การรักษาต่อไปจะขึ้นอยู่กับต่อไปนี้ :

ฟื้นฟูสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานเพื่อป้องกันไม่ให้ออกซิเจนออกซิเจน
เพิ่มเติมบรรเทาอาการปวด
การป้องกันและรักษาภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นใด ๆ

การไหลเวียนของหลอดเลือดลึงค์หลักประกันหลอดเลือดเป็นปัจจัยสำคัญในเรื่องของปริมาณความเสียหายของกล้ามเนื้อที่เกิดจากหลอดเลือดหัวใจอุดตัน การพัฒนาดีง่ายมากอาจจำกัดหรือแม้แต่สมบูรณ์ขจัดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แม้จะมีการสมบูรณ์ของหัวใจรายงานแตกต่างกันไปตามจำนวนของผู้ป่วยที่ได้ง่ายเวลาที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ผู้ป่วยหลายคนพัฒนาหลักประกันในชั่วโมงและวันหลังการอุดตันเกิดขึ้น [ 46 ] เมื่อผู้ป่วยอยู่ที่พัก การไหลของเลือดผ่านง่ายเป็นปกติ เป็นข้อเท็จจริงที่บัญชีสำหรับการพัก การขาดเลือด อย่างไรก็ตาม การไหลของเลือดผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท. ) ไม่เพิ่มด้วยการออกกำลังกายนี้ไม่สามารถบัญชีสำหรับการขาดเลือดในช่วงเวลาของความเครียด [ 47 ]