ที่มาและความสำคัญขนมไทยเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ชาติไทยมานานห การแปล - ที่มาและความสำคัญขนมไทยเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ชาติไทยมานานห ไทย วิธีการพูด

ที่มาและความสำคัญขนมไทยเป็นสิ่งที่อ

ที่มาและความสำคัญ
ขนมไทยเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ชาติไทยมานานหลายร้อยปี คำว่า “ขนม” เข้าใจว่ามาจากคำสองคำที่ผสมกันคือ “ข้าวหนม” และ “ข้าวนม” ข้าวหนมนั้นเข้าใจว่าเป็นข้าวผสมกับน้ำอ้อย น้ำตาล โดยอนุโลมคำว่าหนม แปลว่าหวาน อย่างข้าวหนมก็แปลว่าข้าวหวาน ต่อมาเรียกสั้นๆเร็วๆ ก็กลายเป็นขนมไป ส่วนที่ว่ามาจากข้าวนม(ข้าวเคล้านม) นั้นดูจะเป็นแขกๆอยู่สักหน่อย เพราะอาหารของแขกบางชนิดเขาใช้ข้าวผสมกับนมอย่างข้าวมธุปายาสของแขก โบราณ(ดังที่นางสุชาดาทำถวายพระพุทธเจ้าเมื่อตอนตรัสรู้นั้นก็ว่าเป็นข้าว หุงกับนม)
คำ ว่าขนมมีใช้มาหลายร้อยปีแล้วจะเป็นคำผสมของอะไรบ้างยากจะสันนิษฐานให้แน่นอน ลงไปได้ แต่เดิมของที่เรียกว่าขนมในสมัยโบราณหรือในสมัยที่จะมีคำว่าขนมนั้นเห็นจะ เป็นของที่เกิดจากการตำป่น(แป้ง) แล้วผสมกับน้ำตาลสองสิ่งเท่านั้น นี่เป็นขนมรุ่นแรกๆของไทย จึงเห็นว่าขนมไทยของเรานั้นมีการประยุกต์ดัดแปลงมาตลอดกาลเวลานับหลายร้อยปี จนกระทั่งปัจจุบัน ขนมไทยจึงมีเสน่ห์และชวนแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งความเจริญทางด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีก็ไม่มีเหมือนปัจจุบันทำให้เห็นวัฒนธรรมประเพณีต่างๆที่เป็นของไทยได้เด่นชัด ด้วยเหตุและปัจจัยในด้านต่างๆที่กล่าวมานั้นทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้จักขนมไทยมากนักหรือรู้จักเพียงแค่ผิวเผิน ทั้งที่ขนมไทยนั้นนอกจากจะมีสีสันสวยงามน่ารับประทานแล้ว ยังให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วยแต่ คนส่วนใหญ่คิดว่าขนมไทยเมื่อทานแล้วจะทำให้อ้วน แต่ในขนมไทยก็มีประโยชน์ที่ทุกคนยังไม่รู้ แล้วขนมไทยเป็นอาหารที่คู่สำรับกับข้าวไทยมาตั้งแต่โบราณและยังเป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยอย่างหนึ่งที่รู้จักกันดี ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อน ประณีตในการทำ ตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการทำที่กลมกลืนพิถีพิถันในเรื่องรสชาติ สีสัน และความสวยงาม กลิ่นหอม ขนมไทยยังมีประโยชน์และสามารถใช้เป็นองค์ประกอบในพิธีมงคล จนปัจจุบันวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของชนชาติตะวันตกได้มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตความเป็น อยู่เป็นอย่างมากจนทำให้ขนมไทยในปัจจุบันไม่ค่อยจะได้รับความนิยมสักเท่าใด ทางคณะผู้จัดทำจึงแลเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์และสืบสานขนมไทยของเราให้ เป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากยิ่งขึ้น จึงได้จัดทำโครงงานในครั้งนี้ขึ้นมา เพื่อนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาประวัติและความเป็นมาของขนมไทยมาประยุกต์ทำ เป็นขนมไทยชนิดใหม่ขึ้นมา โดยศึกษาจากวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่มักจะใช้ในการทำขนมของไทย ผสมผสานดัดแปลงเป็นขนมชนิดใหม่ เพื่อสืบสานและอนุรักษ์ขนมของไทยให้อยู่คู่กับชนชาติไทยสืบไป
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ที่มาและความสำคัญขนมไทยเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ชาติไทยมานานหลายร้อยปีคำว่า "ขนม" เข้าใจว่ามาจากคำสองคำที่ผสมกันคือ "ข้าวหนม" และ "ข้าวนม" ข้าวหนมนั้นเข้าใจว่าเป็นข้าวผสมกับน้ำอ้อยน้ำตาลโดยอนุโลมคำว่าหนมแปลว่าหวานอย่างข้าวหนมก็แปลว่าข้าวหวานต่อมาเรียกสั้นๆเร็ว ๆ ก็กลายเป็นขนมไปส่วนที่ว่ามาจากข้าวนม(ข้าวเคล้านม)นั้นดูจะเป็นแขกๆอยู่สักหน่อยเพราะอาหารของแขกบางชนิดเขาใช้ข้าวผสมกับนมอย่างข้าวมธุปายาสของแขกโบราณ (ดังที่นางสุชาดาทำถวายพระพุทธเจ้าเมื่อตอนตรัสรู้นั้นก็ว่าเป็นข้าวหุงกับนม) คำว่าขนมมีใช้มาหลายร้อยปีแล้วจะเป็นคำผสมของอะไรบ้างยากจะสันนิษฐานให้แน่นอนลงไปได้แต่เดิมของที่เรียกว่าขนมในสมัยโบราณหรือในสมัยที่จะมีคำว่าขนมนั้นเห็นจะเป็นของที่เกิดจากการตำป่น(แป้ง)แล้วผสมกับน้ำตาลสองสิ่งเท่านั้นนี่เป็นขนมรุ่นแรกๆของไทยจึงเห็นว่าขนมไทยของเรานั้นมีการประยุกต์ดัดแปลงมาตลอดกาลเวลานับหลายร้อยปีจนกระทั่งปัจจุบันขนมไทยจึงมีเสน่ห์และชวนแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่งทั้งความเจริญทางด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีก็ไม่มีเหมือนปัจจุบันทำให้เห็นวัฒนธรรมประเพณีต่างๆที่เป็นของไทยได้เด่นชัดด้วยเหตุและปัจจัยในด้านต่างๆที่กล่าวมานั้นทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้จักขนมไทยมากนักหรือรู้จักเพียงแค่ผิวเผินทั้งที่ขนมไทยนั้นนอกจากจะมีสีสันสวยงามน่ารับประทานแล้วยังให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วยแต่คนส่วนใหญ่คิดว่าขนมไทยเมื่อทานแล้วจะทำให้อ้วนแต่ในขนมไทยก็มีประโยชน์ที่ทุกคนยังไม่รู้แล้วขนมไทยเป็นอาหารที่คู่สำรับกับข้าวไทยมาตั้งแต่โบราณและยังเป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยอย่างหนึ่งที่รู้จักกันดีซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนประณีตในการทำตั้งแต่วัตถุดิบวิธีการทำที่กลมกลืนพิถีพิถันในเรื่องรสชาติสีสันและความสวยงามกลิ่นหอมขนมไทยยังมีประโยชน์และสามารถใช้เป็นองค์ประกอบในพิธีมงคลจนปัจจุบันวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีของชนชาติตะวันตกได้มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตความเป็นอยู่เป็นอย่างมากจนทำให้ขนมไทยในปัจจุบันไม่ค่อยจะได้รับความนิยมสักเท่าใดทางคณะผู้จัดทำจึงแลเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์และสืบสานขนมไทยของเราให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากยิ่งขึ้นจึงได้จัดทำโครงงานในครั้งนี้ขึ้นมาเพื่อนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาประวัติและความเป็นมาของขนมไทยมาประยุกต์ทำเป็นขนมไทยชนิดใหม่ขึ้นมาโดยศึกษาจากวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่มักจะใช้ในการทำขนมของไทยผสมผสานดัดแปลงเป็นขนมชนิดใหม่เพื่อสืบสานและอนุรักษ์ขนมของไทยให้อยู่คู่กับชนชาติไทยสืบไป
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

คำว่า "ขนม" เข้าใจว่ามาจากคำสองคำที่ผสมกันคือ "ข้าวหนม" และ "ข้าวนม" น้ำตาลโดยอนุโลมคำว่าหนมแปลว่าหวานอย่างข้าวหนมก็แปลว่าข้าวหวานต่อมาเรียกสั้น ๆ เร็ว ๆ ก็กลายเป็นขนมไปส่วนที่ว่ามาจากข้าวนม (ข้าวเคล้านม) นั้นดูจะเป็นแขก ๆ อยู่ สักหน่อย หุงกับนม)
คำ ลงไปได้ เป็นของที่เกิดจากการตำป่น (แป้ง) แล้วผสมกับน้ำตาลสองสิ่งเท่านั้นนี่เป็นขนมรุ่นแรก ๆ ของไทย จนกระทั่งปัจจุบัน ประณีตในการทำตั้งแต่วัตถุดิบ สีสันและความสวยงามกลิ่นหอม จนปัจจุบันวัฒนธรรม เป็นขนมไทยชนิดใหม่ขึ้นมา ผสมผสานดัดแปลงเป็นขนมชนิดใหม่
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ที่มาและความสำคัญ
ขนมไทยเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ชาติไทยมานานหลายร้อยปีคำว่า " ขนม " เข้าใจว่ามาจากคำสองคำที่ผสมกันคือ " ข้าวหนม " และ " ข้าวนม " ข้าวหนมนั้นเข้าใจว่าเป็นข้าวผสมกับน้ำอ้อยน้ำตาลโดยอนุโลมคำว่าหนมอย่างข้าวหนมก็แปลว่าข้าวหวานต่อมาเรียกสั้นๆเร็วๆก็กลายเป็นขนมไปส่วนที่ว่ามาจากข้าวนม ( ข้าวเคล้านม ) นั้นดูจะเป็นแขกๆอยู่สักหน่อยเพราะอาหารของแขกบางชนิดเขาใช้ข้าวผสมกับนมอย่างข้าวมธุปายาสของแขกหุงกับนม )
คำว่าขนมมีใช้มาหลายร้อยปีแล้วจะเป็นคำผสมของอะไรบ้างยากจะสันนิษฐานให้แน่นอนลงไปได้แต่เดิมของที่เรียกว่าขนมในสมัยโบราณหรือในสมัยที่จะมีคำว่าขนมนั้นเห็นจะเป็นของที่เกิดจากการตำป่น ( แป้ง )นี่เป็นขนมรุ่นแรกๆของไทยจึงเห็นว่าขนมไทยของเรานั้นมีการประยุกต์ดัดแปลงมาตลอดกาลเวลานับหลายร้อยปีจนกระทั่งปัจจุบันขนมไทยจึงมีเสน่ห์และชวนแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่งด้วยเหตุและปัจจัยในด้านต่างๆที่กล่าวมานั้นทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้จักขนมไทยมากนักหรือรู้จักเพียงแค่ผิวเผินทั้งที่ขนมไทยนั้นนอกจากจะมีสีสันสวยงามน่ารับประทานแล้วยังให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วยแต่แต่ในขนมไทยก็มีประโยชน์ที่ทุกคนยังไม่รู้แล้วขนมไทยเป็นอาหารที่คู่สำรับกับข้าวไทยมาตั้งแต่โบราณและยังเป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยอย่างหนึ่งที่รู้จักกันดีประณีตในการทำตั้งแต่วัตถุดิบวิธีการทำที่กลมกลืนพิถีพิถันในเรื่องรสชาติสีสันและความสวยงามกลิ่นหอมขนมไทยยังมีประโยชน์และสามารถใช้เป็นองค์ประกอบในพิธีมงคลจนปัจจุบันวัฒนธรรมอยู่เป็นอย่างมากจนทำให้ขนมไทยในปัจจุบันไม่ค่อยจะได้รับความนิยมสักเท่าใดทางคณะผู้จัดทำจึงแลเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์และสืบสานขนมไทยของเราให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเพื่อนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาประวัติและความเป็นมาของขนมไทยมาประยุกต์ทำเป็นขนมไทยชนิดใหม่ขึ้นมาโดยศึกษาจากวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่มักจะใช้ในการทำขนมของไทยผสมผสานดัดแปลงเป็นขนมชนิดใหม่
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: