The door was locked. Luckily, I had

The door was locked. Luckily, I had a spare key she had given me. Entering the house, I found a message for me on the table: “Food’s in the fridge. Money in the wardrobe. I’ll be back late.” I cooked the dinner and ate it by myself. After that I watched TV and then read An’s letter. “I always ask myself if we really love each other when we still resort to this objective reasoning. We just expect something to come to us naturally, not daring to overcome obstacles to being beside each other,” he wrote.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประตูถูกล็อค โชคดีที่ฉันมีกุญแจสำรองที่เธอมีให้ฉัน เข้ามาในบ้านฉันพบข้อความสำหรับฉันบนโต๊ะ: "อาหารที่อยู่ในตู้เย็น เงินในตู้เสื้อผ้า ฉันจะกลับมาในช่วงปลาย. "i ปรุงอาหารและกินมันด้วยตัวเอง หลังจากนั้นฉันดูทีวีแล้วอ่านจดหมาย "ฉันมักจะถามตัวเองว่าถ้าเรารักกันตอนที่เรายังคงรีสอร์ทเพื่อการนี​​้ให้เหตุผลวัตถุประสงค์เราก็คาดหวังว่าสิ่งที่จะมาให้เราตามธรรมชาติไม่กล้าที่จะเอาชนะอุปสรรคที่จะเป็นข้างกันและกัน "เขาเขียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประตูถูกล็อค โชคดี ผมคีย์อะไหล่ที่เธอมีให้ฉัน ใส่บ้าน พบข้อความสำหรับฉันบนตาราง: "อาหารในตู้เย็น เงินในตู้เสื้อผ้า จะกลับดึก อาหารเย็น และกิน ด้วยตัวเอง หลังจากที่ ผมดูทีวี และอ่านแล้ว อันตัวอักษร "ผมมักจะถามตัวเองถ้า เรารักกันเมื่อเรายังรีสอร์ทเพื่อวัตถุประสงค์นี้ reasoning เราคาดหวังเพียงว่าให้มาหาเราโดยธรรมชาติ อันไม่ฟันฝ่าอุปสรรคการอยู่ข้างกัน ที่เขาเขียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เปิดประตูที่เขาถูกล็อค โชคดีว่าผมมีกุญแจสำรองที่เธอได้ให้ไว้ เข้าบ้านผมพบข้อความสำหรับผมบนโต๊ะ"อาหารในตู้เย็น เงินในตู้เสื้อผ้า ผมจะกลับมาช่วงดึก"ฉันทำอาหารมื้อค่ำและกินด้วยตนเอง หลังจากที่ผมดูทีวีและอ่านหนังสือของ "ผมถามตัวเองว่าเรารักกันเมื่อเรายังรีสอร์ทเพื่อการใช้เหตุผลเป้าหมายนี้เราได้รับอะไรบางอย่างให้เข้ามาหาเราเองตามธรรมชาติไม่กล้าที่จะเอาชนะอุปสรรคในการเป็นอยู่ข้างกัน"เขาเขียน