The debate over whether the statue

The debate over whether the statue represents Poseidon or Zeus hinges on the lost attribute held in the figure's right hand. As Caroline Houser writes, "Sometimes the Artemision protector is called 'Poseidon'. Those who would do so have been known to argue that the image must be that of the great sea god since the statue was found in the Mediterranean. But like other statues of totally different subjects, this one went into the sea simply because it was on board a ship that sank. Others cite the example of the Poseidonia coins, overlooking the much weightier evidence presented by the numerous surviving statuettes of Zeus launching his thunderbolt in a pose matching that of the Artemision figure."[5]

A major additional problem with that hypothesis is that a trident would obscure the face, especially from the profile view, which most scholars (even those who have supported an identification as Poseidon) have held to be the most, or even the only, important view. Iconographic parallels with coins and vase painting from the same time period show that this obscuring pose is extremely unlikely. However, the trident may have been unusually short, avoiding the problem. On the other hand, the statue is essentially a larger version of an extensive series of smaller solid bronze figurines extending back into the late 7th century, all of which strike the same pose and represent Zeus.[6] On the basis of this and other iconographic parallels with vase-painting,[7] most scholars presently think it is a Zeus. However, opinion remains divided.

The god is caught at the moment of pause in the full potentiality of his coming movement, described by Carol Mattusch: "the figure has the potential for violence, is concentrating, poised to throw, but the action is just beginning, and we are left to contemplate the coming demonstration of strength."[8] It is an original work of great strength in the Severe style that preceded the fifth-century classical style, dated to ca. 460 BCE. A comparison can be made with the Charioteer of Delphi, a roughly contemporaneous bronze.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การอภิปรายผ่านว่ารูปปั้นแสดงถึงโพไซดอนหรือซุสแต่แอตทริบิวต์สูญหายในตัวเลขทางขวามือ เป็นแคโรไลน์เฮาเซอร์เขียน "ร่มเกล้า Artemision จะเรียกว่า 'โพไซดอน' ผู้ที่จะทำให้ทราบว่ามีการโต้เถียงว่า ภาพต้องเป็นของพระเจ้าทะเลเนื่องจากพบรูปปั้นในเมดิเตอร์เรเนียน แต่เหมือนรูปปั้นอื่น ๆ ของวิชาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นี้ไปลงทะเลก็ เพราะไม่มีเรือที่จม อื่น ๆ อ้างอิงตัวอย่างเหรียญ Poseidonia หลักฐาน weightier มากที่นำเสนอ โดย statuettes รอดตายจำนวนมากของซุสเปิดตัวสายฟ้าของเขาในการก่อให้เกิดการจับคู่ของตัวเลข Artemision สามารถมองเห็น"[5]สมมติฐานที่ปัญหาเพิ่มเติมสำคัญคือ โรงจะบดบังหน้า โดยเฉพาะจากมุมมองโพรไฟล์ ซึ่งนักวิชาการส่วนใหญ่ (แม้กระทั่งผู้ที่ได้รับการสนับสนุนการระบุเป็นโพไซดอน) ได้จัดขึ้นเพื่อเป็นมุมมองสำคัญที่สุด หรือแม้แต่เดียว Parallels iconographic กับเหรียญภาพวาดแจกันจากระยะเวลาเดียวกันแสดงว่านี้ก่อให้เกิด obscuring มากน่า อย่างไรก็ตาม โรงที่เคยสั้นผิดปกติ การหลีกเลี่ยงปัญหา บนมืออื่น ๆ รูปปั้นจะเป็นรุ่นใหญ่ของชุดเล็กแข็งรูปปั้นทองเหลืองรูปขยายกลับเข้าปลายศตวรรษ 7 ที่ก่อให้เกิดเดียวกัน และได้แสดงซุสกว้างขวาง[6] ค่าของนี้และอื่น ๆ iconographic parallels กับแจกันจิตรกรรม, [7] นักวิชาการส่วนมากปัจจุบันคิดว่า มันเป็นการซุส อย่างไรก็ตาม ความคิดยังคงถูกแบ่งพระถูกจับขณะหยุดในศักยภาพเต็มรูปแบบของการย้ายมาของเขา โดยแครอล Mattusch: "รูปมีศักยภาพสำหรับความรุนแรง เป็น concentrating เตรียมพร้อมที่จะโยน แต่เพียงแค่เริ่มการดำเนินการ และเรามีซ้ายจ่อการสาธิตที่มาของความแข็งแรง"[8] เป็นการงานเดิมของความแข็งแรงในลักษณะรุนแรงที่หน้าสไตล์คลาสสิกของศตวรรษที่ห้า ลงให้ ca 460 ปีก่อนคริสต์ศักราช สามารถทำการเปรียบเทียบกับ Charioteer ของเดลฟี สำริดประมาณ contemporaneous

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถกเถียงกันว่าหมายถึงรูปปั้นโพไซดอนหรือซุสขึ้นอยู่กับคุณลักษณะที่หายไปถืออยู่ในมือด้านขวาของรูป ขณะที่แคโรไลน์เจ้าของบ้านเขียน "บางครั้งป้องกัน Artemision ที่เรียกว่า 'Poseidon'. บรรดาผู้ที่จะทำเช่นนั้นได้รับทราบเพื่อยืนยันว่าภาพจะต้องเป็นที่ของพระเจ้าทะเลใหญ่ตั้งแต่รูปปั้นที่พบในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน. แต่ชอบรูปปั้นอื่น ๆ ของวิชาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงหนึ่งนี้ไปลงไปในทะเลเพียงเพราะมันอยู่บนเรือที่จม. อื่น ๆ ยกตัวอย่างของเหรียญ Poseidonia สามารถมองเห็นหลักฐาน weightier มากที่นำเสนอโดยรูปปั้นที่รอดตายจำนวนมากของซุสเปิดตัวสายฟ้าของเขาในการก่อให้เกิด การจับคู่ที่ของตัวเลข Artemision. "[5] ปัญหาเพิ่มเติมที่สำคัญกับสมมติฐานที่ว่าก็คือตรีศูลจะปิดบังใบหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมุมมองรายละเอียดซึ่งนักวิชาการส่วนใหญ่ (แม้กระทั่งผู้ที่ได้รับการสนับสนุนการระบุว่าเป็นโพไซดอน) ได้จัดขึ้นเพื่อ เป็นส่วนใหญ่หรือแม้กระทั่งเพียงมุมมองที่สำคัญ แนวเข้มข้นกับเหรียญและภาพวาดแจกันจากช่วงเวลาเดียวกันการแสดงระยะเวลาที่ซ่อนเร้นนี้ก่อให้เกิดความไม่น่าเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามตรีศูลอาจจะเป็นระยะสั้นผิดปกติหลีกเลี่ยงปัญหา ในทางตรงกันข้ามรูปปั้นเป็นหลักรุ่นใหญ่ของชุดที่กว้างขวางของกระเบื้องสีบรอนซ์ของแข็งขนาดเล็กขยายกลับเข้ามาในช่วงปลายศตวรรษที่ 7 ซึ่งทั้งหมดตีก่อให้เกิดเดียวกันและเป็นตัวแทนของซุส. [6] บนพื้นฐานของการนี้และอื่น ๆ แนวเข้มข้นกับแจกันภาพวาด [7] นักวิชาการส่วนใหญ่ในปัจจุบันคิดว่ามันเป็นซุส อย่างไรก็ตามความเห็นยังคงแบ่ง. พระเจ้าที่ถูกจับได้ในช่วงเวลาของการหยุดในศักยภาพเต็มรูปแบบของการเคลื่อนไหวของเขามาอธิบายโดยแครอล Mattusch: "รูปที่มีศักยภาพในการใช้ความรุนแรงที่จะมุ่งเน้นทรงตัวที่จะโยน แต่การกระทำเป็นเพียง จุดเริ่มต้นและเราถูกทิ้งให้คิดสาธิตมาของความแข็งแรง. "[8] มันเป็นงานเดิมของความแข็งแรงที่ดีในสไตล์อย่างรุนแรงก่อนที่ห้าศตวรรษสไตล์คลาสสิกวันที่แคลิฟอร์เนีย 460 คริสตศักราช เปรียบเทียบสามารถทำกับสารถีของ Delphi, บรอนซ์พร้อม ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การอภิปรายว่า รูปปั้นโพไซดอน ซุส แสดง หรือแล้วแต่แพ้แอตทริบิวต์ที่จัดขึ้นในมือข้างขวาของรูป ขณะที่แคโรไลน์เจ้าของบ้านเขียน " บางครั้งเทมิสชั่นป้องกันเรียกว่าโพไซดอน คนที่จะทำให้ได้รับทราบเพื่อยืนยันว่าภาพต้องว่าทะเลพระเจ้ายิ่งใหญ่ตั้งแต่รูปปั้นที่พบในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแต่เหมือนรูปปั้นอื่น ๆในวิชาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อันนี้เดินลงทะเลเพียงเพราะมันเป็นเรือที่จม คนอื่นอ้างตัวอย่างของ poseidonia เหรียญมองเห็นมาก weightier หลักฐานที่นำเสนอโดยจำนวนมากของการ statuettes ซุสเปิดตัวในท่า การจับคู่ของเทมิสชั่นรูปสายฟ้าของเขา . " [ 5 ]

ปัญหาเพิ่มเติมหลักด้วยสมมุติฐานว่าสามง่ามจะปิดบังใบหน้า โดยเฉพาะจากมุมมองโปรไฟล์ ซึ่งนักวิชาการส่วนใหญ่ ( แม้แต่คนที่สนับสนุนการเป็นโพไซดอน ) ได้จัดขึ้นเป็น ส่วนใหญ่ หรือแม้แต่คนเดียว ที่สำคัญดู แนวเข้มข้นกับเหรียญและภาพวาดแจกันจากระยะเวลาเดียวกันแสดงว่าปิดบังก่อให้เกิดยากมาก .อย่างไรก็ตาม ตรีศูลอาจจะสั้นผิดปกติ หลีกเลี่ยงปัญหา บนมืออื่น ๆ , รูปปั้นเป็นหลักรุ่นขนาดใหญ่ของชุดข้อมูลที่กว้างขวางของเล็กแข็งสีบรอนซ์รูปปั้นขยายกลับเข้ามาในปลายศตวรรษที่ 7 ซึ่งทั้งหมดตีท่าเดียวกันและเป็นตัวแทนซุส [ 6 ] บนพื้นฐานของเครื่องอื่น ๆและเข้มข้นกับภาพวาดแจกัน[ 7 ] นักวิชาการส่วนใหญ่ในปัจจุบันคิดเป็นซุส ความเห็นที่ยังคงแบ่ง

พระเจ้าอยู่ในช่วงเวลาของการหยุดชั่วคราวในศักยภาพเต็มรูปแบบของเขามาเคลื่อนไหวที่อธิบายโดยแครอล mattusch : " รูปมีศักยภาพในการใช้ความรุนแรง คือ มุ่งเน้น , ทรงตัวเพื่อโยน แต่การกระทำ เป็นเพียงการเริ่มต้นและเราจะไปคิดมาการสาธิต ความแข็งแรง" [ 8 ] มันเป็นงานเดิมของความแข็งแรงที่ดีในลักษณะรุนแรงที่นำหน้าศตวรรษที่ห้าคลาสสิกสไตล์ , ลงวันที่ ประมาณ 460 ปี เปรียบเทียบได้กับรถม้าของ Delphi , ทองแดงประมาณซึ่งเกิดขึ้นในสมัยเดียวกัน