Literature from medicine focuses on

Literature from medicine focuses on the aetiology and relationship of fatigue to other physiological variables. The chronic nature of this type of fatigue is problematic when approached from a biomedical perspective tailored to acute care. Its non-specific nature and elusive aetiology make it a diagnostic challenge (Sharpe & Wilks 2002), and its subjective nature makes measurement difficult, although this has been facilitated by the introduction of psychometrically sound fatigue instruments (Temel et al. 2006, Hewlett et al. 2007). Measurement of fatigue is particularly important in chronic conditions, where it is critical to the testing of interventions. In the absence of identifiable physical disease, fatigue is assumed to have a psychological origin. Unex- plained fatigue is labelled ‘idiopathic’ or ‘unexplained’ chronic fatigue (Schmaling et al. 2003).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วรรณกรรมจากยาเน้นใน aetiology และความสัมพันธ์ของความอ่อนเพลียกับตัวแปรอื่น ๆ สรีรวิทยา ธรรมชาติชนิดนี้ของความอ่อนเพลียเรื้อรังเป็นปัญหาเมื่อทาบทามจากมุมมองทางชีวการแพทย์เพื่อดูแลเฉียบพลัน ธรรมชาติไม่ใช่เฉพาะความ aetiology เปรียวทำให้ท้าทายวินิจฉัย (Sharpe และ Wilks 2002), และลักษณะตามอัตวิสัยทำให้วัดยาก แต่นี้ได้อำนวยความสะดวก โดยการแนะนำเครื่องมือล้า psychometrically เสียง (Temel et al. 2006, Hewlett et al. 2007) วัดล้าเป็นสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรคเรื้อรัง ที่เป็นสำคัญการทดสอบงานวิจัย การขาดงานของโรคบุคคลจริง สันนิษฐานล้ามีจุดเริ่มต้นทางจิตวิทยา Unex - plained ล้าคือมัน 'idiopathic' หรือ 'ไม่คาดหมาย' ล้าเรื้อรัง (Schmaling et al. 2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วรรณกรรมจากยามุ่งเน้นไปที่สาเหตุและความสัมพันธ์ของความเหนื่อยล้ากับตัวแปรทางสรีรวิทยาอื่น ๆ ลักษณะเรื้อรังของประเภทของความเหนื่อยล้านี้เป็นปัญหาเมื่อเข้ามาจากมุมมองด้านชีวการแพทย์ที่เหมาะกับการดูแลผู้ป่วย ธรรมชาติที่ไม่เฉพาะเจาะจงและเข้าใจยากสาเหตุทำให้มันเป็นความท้าทายในการวินิจฉัย (ชาร์ปและวิลก์ส 2002) และลักษณะวิสัยของมันทำให้การวัดยากแม้ว่าเรื่องนี้ได้รับการอำนวยความสะดวกโดยการแนะนำของตราสารความเมื่อยล้าเสียงทางจิตวิทยา (Temel et al. 2006 ฮิวเลตต์และ al. 2007) การวัดความเมื่อยล้าเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรคเรื้อรังที่มีความสำคัญต่อการทดสอบการแทรกแซง ในกรณีที่ไม่มีโรคทางกายที่ระบุความเมื่อยล้าจะถือว่ามีต้นกำเนิดทางจิตวิทยา ความเมื่อยล้า plained Unex- จะมีป้าย 'สาเหตุ' หรือ 'ไม่ได้อธิบาย' อ่อนเพลียเรื้อรัง (Schmaling et al. 2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วรรณกรรมจากยา มุ่งเน้นการศึกษาที่เกี่ยวกับสาเหตุและความสัมพันธ์ของตัวแปรทางสรีรวิทยา ล้าๆ ลักษณะของความเมื่อยล้าเรื้อรังชนิดนี้เป็นปัญหาเมื่อเข้าหาจากทางมุมมองที่เหมาะกับการดูแลเฉียบพลัน การศึกษาที่เกี่ยวกับสาเหตุของธรรมชาติที่ไม่เฉพาะเจาะจงและเข้าใจยากทำให้มันท้าทายการวินิจฉัย ( Sharpe &วิล , 2002 ) และอัตนัยของธรรมชาติทำให้วัดยากแม้ว่านี้ได้รับความสะดวกโดยการแนะนำของ psychometrically เสียงล้าเครื่องมือ ( temel et al . 2006 , Hewlett et al . 2007 ) การวัดค่าความเมื่อยล้าเป็นสำคัญโดยเฉพาะในภาวะเรื้อรัง ซึ่งมีการทดสอบของการแทรกแซง . ในโรคภัยไข้เจ็บทางกายภาพส่วนบุคคล อ่อนเพลียจะถือว่ามีต้นกำเนิดของจิตunex - plained ความเมื่อยล้าคือ labelled ' สาเหตุ ' หรือ ' ไม่ ' อ่อนเพลียเรื้อรัง ( schmaling et al . 2003 )