farmers, have been under misuse for

farmers, have been under misuse for many years. Excessive grazing which compacts the soil and destroys the organic matter is one of the important reasons of kallar formation. As far as community land is concerned, agricul- tural activities on such lands are limited due to the high and continuous imputs required for soil amendment, and many other complications. On such degraded lands agroforestry with multi-purpose trees is the only viable solution. Recently several authors [3-5] have proposed agroforestry on alkali soils but the practical aspects such as the cost of establishing a plantation, management, production, and economic return have completely been neglected. Grewal & Abrol [3] have concluded that the augerhole planting of Acacia nilotica shows promise in alkali soils. However, many plantations of Acacia nilotica established by the augerhole technique in strongly alkali soils showed stagnation after 3 to 4 years. Singh et al. [4] have evaluated the performance of Prosopis juliflora planted using different techniques in alkali soils. They have studied the reclamation in 21 months under the influence of Prosopisjuliflora and also under the combined effects of this tree species inter-planted with Diplachne fusca grass. They found faster reclamation in the latter case but Diplachne fusca needs sustained irrigation, obviously a very costly proposition. The planting procedure on alkali soils is different from the conventional method and involves a high financial input. It is an open question, whether the technical procedure and cost involved in agroforestry on alkali soils are within the reach of the average farmer or community. In any agroforestry system, the economic viability is as important as the reclamation and restoration of soil productivity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกษตรกร ได้รับภายใต้ผิดหลายปี มากเกินไปเล็มหญ้าที่กระชับดิน และทำลายวัตถุอินทรีย์เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการก่อตัวของ kallar เป็นโฉนดชุมชนเกี่ยวข้อง tural ชุดกิจกรรมบนที่ดินดังกล่าวมีจำกัดเนื่องจาก imputs สูง และต่อเนื่องที่จำเป็นสำหรับการแก้ไขดิน และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ มาก ในดินแดนดังกล่าวเสื่อมโทรม ทำวนเกษตร มีต้นไม้อเนกประสงค์เป็นโซลูชันได้เท่านั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลายผู้เขียน [3-5] ได้เสนอพื้นที่ในดินด่างแต่ในด้านปฏิบัติเช่นต้นทุนของการสร้างสวนยางพารา การจัดการ การผลิต และเศรษฐกิจกลับได้อย่างสมบูรณ์รับอันตราย Grewal และ Abrol [3] ได้สรุปว่า augerhole เสริมการปลูกกระถินนิลแสดงสัญญาในดินด่าง อย่างไรก็ตาม หลายไร่ของนิลอะคาเซียก่อตั้งขึ้น โดยเทคนิค augerhole ในดินด่างขอแสดงให้เห็นว่าความเมื่อยล้าหลังจาก 3-4 ปี สิงห์ et al. [4] ได้ประเมินประสิทธิภาพของ juliflora Prosopis ที่ปลูกโดยใช้เทคนิคที่แตกต่างกันในดินด่าง พวกเขาได้ศึกษาการถมใน 21 เดือนภาย ใต้อิทธิพลของ Prosopisjuliflora และภาย ใต้ผลของต้นไม้ชนิดนี้ปลูก ด้วยหญ้า fusca Diplachne ระหว่าง พวกเขาพบเร็วขึ้นถมในกรณีหลังนี้ แต่ Diplachne fusca ต้องยั่งยืนชลประทาน เห็นได้ชัดว่าข้อเสนอที่ดีที่ค่าใช้จ่ายมาก ขั้นตอนการปลูกในดินด่างแตกต่างจากวิธีดั้งเดิม และเกี่ยวข้องกับการป้อนข้อมูลทางการเงินสูง มันเป็นคำถามเปิด ว่ากระบวนการทางเทคนิคและต้นทุน เกี่ยวข้องในการทำวนเกษตรใน ดินด่างมีมือของเฉลี่ยเกษตรกรหรือชุมชน ในระบบการทำวนเกษตร ในเชิงเศรษฐกิจเป็นที่สำคัญเป็นการบุกเบิกและคืนค่าของผลผลิตดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกษตรกรได้รับภายใต้การใช้ผิดประเภทเป็นเวลาหลายปี ทุ่งเลี้ยงสัตว์มากเกินไปซึ่ง compacts ดินและทำลายสารอินทรีย์เป็นหนึ่งในเหตุผลที่สำคัญของการก่อ Kallar เท่าที่เป็นที่ดินของชุมชนที่เกี่ยวข้องกิจกรรม tural agricul- บนที่ดินดังกล่าวจะถูก จำกัด เนื่องจาก imputs สูงและต่อเนื่องที่จำเป็นสำหรับการปรับปรุงดินและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ อีกมากมาย บนที่ดินเสื่อมโทรมเช่นวนเกษตรที่มีต้นไม้อเนกประสงค์เป็นโซลูชั่นที่ทำงานได้เท่านั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้เขียนหลาย [3-5] ได้เสนอวนเกษตรในดินด่าง แต่ด้านการปฏิบัติเช่นค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสวน, การจัดการการผลิตและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจได้รับสมบูรณ์ที่ถูกทอดทิ้ง Grewal & Abrol [3] ได้ข้อสรุปว่าการปลูก augerhole ของ Acacia nilotica แสดงให้เห็นสัญญาในดินด่าง แต่หลายพื้นที่เพาะปลูกของ Acacia nilotica ที่จัดตั้งขึ้นโดยเทคนิค augerhole ในดินด่างอย่างยิ่งแสดงให้เห็นความเมื่อยล้าหลังจาก 3 ถึง 4 ปี ซิงห์, et al [4] มีการประเมินประสิทธิภาพการทำงานของ Prosopis juliflora ปลูกโดยใช้เทคนิคที่แตกต่างกันในดินด่าง พวกเขาได้ศึกษาถมใน 21 เดือนภายใต้อิทธิพลของ Prosopisjuliflora และยังอยู่ภายใต้ผลรวมของต้นไม้ชนิดนี้ระหว่างการปลูกหญ้า Diplachne fusca พวกเขาพบว่าถมเร็วขึ้นในกรณีหลัง แต่ Diplachne fusca ต้องการชลประทานอย่างต่อเนื่องเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่มีราคาแพงมาก ขั้นตอนการปลูกในดินด่างจะแตกต่างจากวิธีการทั่วไปและเกี่ยวข้องกับการป้อนข้อมูลทางการเงินสูง มันเป็นคำถามเปิดไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนทางเทคนิคและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในระบบวนเกษตรในดินด่างจะอยู่ในอุ้งมือของเกษตรกรเฉลี่ยหรือชุมชน ในระบบวนเกษตรใดมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่สำคัญเป็นถมและฟื้นฟูการผลิตของดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกษตรกรที่ได้รับภายใต้การ เป็นเวลาหลายปี ซึ่งชิ้นงานมากเกินไปบนดินและทำลายอินทรีย์เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของ kallar ก่อตัว เท่าที่แผ่นดินชุมชนเป็นห่วงของกิจกรรมประเภทบนผืนดินนั้นจะถูก จำกัด เนื่องจากการสูงและต่อเนื่อง imputs ที่จําเป็นสําหรับการแก้ไขดินและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ อีกมากมาย เช่นที่ดินเสื่อมโทรมวนเกษตรกับต้นไม้อเนกประสงค์เป็นโซลูชั่นที่ทำงานได้ เมื่อเร็วๆนี้ผู้เขียนหลาย [ 3-5 ] ได้เสนอวนเกษตรในดินด่าง แต่ด้านการปฏิบัติ เช่น ต้นทุนของการปลูก การจัดการ การผลิต และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจทั้งหมดถูกทอดทิ้ง abrol Grewal & [ 3 ] ได้สรุปว่า การปลูก augerhole ของกระถินด้วยแสดงสัญญาในดินด่าง อย่างไรก็ตาม หลายพื้นที่ของกระถินด้วยก่อตั้งขึ้นโดยเทคนิค augerhole ด่างในดินพบซบเซาขอหลังจาก 3 ถึง 4 ปี Singh et al . [ 4 ] ได้ประเมินประสิทธิภาพของ prosopis juliflora ปลูกโดยใช้เทคนิคต่าง ๆในดินด่าง พวกเขาได้ศึกษาเวนคืนใน 21 เดือน ภายใต้อิทธิพลของ prosopisjuliflora และภายใต้ผลกระทบรวมของต้นไม้ชนิดนี้ อินเตอร์ diplachne fallax ปลูกหญ้า พวกเขาพบฟื้นฟูเร็วขึ้นในกรณีหลัง แต่ diplachne fallax ต้องการได้รับน้ำ เห็นได้ชัดว่า เสนอที่ราคาแพงมาก ขั้นตอนการปลูกในดินด่างจะแตกต่างจากวิธีปกติและเกี่ยวข้องกับด้านการเงินข้อมูล มันเป็นคำถามแบบเปิด ว่า กระบวนการทางเทคนิคและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการปลูกในดินด่างที่มีในการเข้าถึงของเกษตรกรเฉลี่ยหรือชุมชน ในระบบวนเกษตร , ความอยู่รอดทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ เช่น การเวนคืน และฟื้นฟูการผลิตของดิน