A dangerous transformationMost of t

A dangerous transformation
Most of the anthropogenic mercury emissions come from industry. However, natural sources such as erosion and volcanic eruptions also contribute to atmospheric mercury. All the air around us contains gaseous mercury that is not that reactive and thus not harmful, either to animals or to humans, at normal concentrations.
Concentrations worldwide are fairly similar. But it appears that a reaction between sea salt, sunlight and atmospheric mercury transforms the less hazardous gaseous mercury in the air into more reactive mercury. When this more reactive type of mercury is deposited on the ground, it can be converted into toxic methylmercury -- which then can poison the entire food chain.
Accumulates in the food chain
When mercury enters the food chain, it is taken up by microorganisms, and then by ever larger organisms. Marine mammals, polar bears and humans are the top of the food chain in the Arctic, and thus are subject to the most contamination, because the farther up the food chain you go, the higher the concentration of mercury becomes.
Mercury is stored in the body and there is much evidence that the contaminant damages the nervous system. Mercury can also have a serious effect animal health, but also threatens people who largely live off marine mammals. Some studies of children in the Faeroe Islands have shown learning disabilities which are suspected to be linked to high mercury concentrations in the food that they eat.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเปลี่ยนแปลงที่เป็นอันตราย
ส่วนใหญ่ของการปล่อยสารปรอทมนุษย์มาจากอุตสาหกรรม แต่แหล่งธรรมชาติเช่นการกัดเซาะและการปะทุของภูเขาไฟยังนำไปสู่​​บรรยากาศปรอท ทั้งหมดอากาศรอบตัวเรามีปรอทก๊าซที่ไม่ได้เป็นปฏิกิริยาที่และจึงไม่เป็นอันตรายทั้งกับสัตว์หรือมนุษย์ที่ระดับความเข้มข้นปกติ. ความเข้มข้น
ทั่วโลกมีความคล้ายคลึงกันอย่างเป็นธรรมแต่ปรากฏว่าเกิดปฏิกิริยาระหว่างเกลือทะเลแสงแดดและสารปรอทบรรยากาศแปลงสารปรอทที่เป็นก๊าซที่เป็นอันตรายน้อยกว่าในอากาศเป็นปรอทที่เกิดปฏิกิริยา เมื่อชนิดนี้ที่เกิดปฏิกิริยาของสารปรอทจะฝากบนพื้นดินมันสามารถแปลงเป็น methylmercury พิษ -. ซึ่งสามารถวางยาพิษในห่วงโซ่อาหารทั้งหมด
สะสมอยู่ในห่วงโซ่อาหาร
เมื่อปรอทเข้าไปในห่วงโซ่อาหารมันจะถูกนำขึ้นโดยจุลินทรีย์แล้วสิ่งมีชีวิตที่เคยมีขนาดใหญ่ เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลหมีขั้วโลกและมนุษย์เป็นชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหารในขั้วโลกเหนือและจึงอาจมีการปนเปื้อนมากที่สุดเพราะไกลห่วงโซ่อาหารที่คุณจะไปที่สูงกว่าความเข้มข้นของปรอทจะกลายเป็น.
ปรอทจะถูกเก็บไว้ในร่างกายและมีหลักฐานมากว่าสารปนเปื้อนความเสียหายต่อระบบประสาท ปรอทยังสามารถมีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงสัตว์ แต่ยังขู่ว่าคนที่อาศัยอยู่ส่วนใหญ่ออกไปเลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเล บางการศึกษาของเด็กในหมู่เกาะแฟโรได้แสดงความบกพร่องทางการเรียนรู้ซึ่งเป็นที่สงสัยว่าจะเชื่อมโยงกับความเข้มข้นของสารปรอทสูงในอาหารที่พวกเขากิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เปลี่ยนแปลงอันตราย
ปล่อยปรอทมาของมนุษย์ส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมการ อย่างไรก็ตาม แหล่งน้ำธรรมชาติเช่นการกัดเซาะและการปะทุของภูเขาไฟร่วมบรรยากาศดาวพุธ อากาศรอบตัวเราประกอบด้วยสารปรอทเป็นต้นที่ไม่เป็นจึงไม่เป็น อันตราย สัตว์ หรือ กับ มนุษย์ ที่ปกติความเข้มข้นขึ้น และปฏิกิริยา
ความเข้มข้นทั่วโลกจะค่อนข้างคล้ายกัน แต่ปรากฏว่า ปฏิกิริยาระหว่างเกลือทะเล แสงแดด และบรรยากาศดาวพุธแปลงปรอทเป็นต้นอันตรายน้อยในอากาศเป็นปรอทขึ้นปฏิกิริยา เมื่อมีการฝากเงินปรอทชนิดนี้มากขึ้นปฏิกิริยาบนพื้นดิน มันสามารถแปลงเป็นพิษ methylmercury - ซึ่งแล้ว สามารถพิษทั้งห่วงโซ่อาหาร.
Accumulates ในห่วงโซ่อาหาร
เมื่อดาวพุธเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร มันจะนำมาขึ้น โดยจุลินทรีย์ และสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กว่าเคย เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเล หมีขั้วโลก และมนุษย์อยู่ด้านบนสุดของห่วงโซ่อาหารในอาร์กติก และดังนั้น อาจ มีปนมากที่สุด เนื่องจากห่วงโซ่อาหารที่คุณไป กลายเป็นความเข้มข้นของปรอทที่สูงขึ้นมากขึ้น
ดาวพุธอยู่ในร่างกาย และมีหลักฐานมากว่า สารปนเปื้อนที่มีความเสียหายที่ระบบประสาท ดาวพุธยังมีสัตว์ร้ายแรงผล แต่ยัง ข่มขู่คนที่อยู่ส่วนใหญ่ออกทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม บางการศึกษาของเด็กในหมู่เกาะ Faeroe ได้แสดงความพิการเรียนที่สงสัยว่าจะเชื่อมโยงกับความเข้มข้นของปรอทที่สูงในอาหารที่พวกเขากิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบอันตราย
ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยสารปรอท anthropogenic ที่ส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรม แต่ถึงอย่างไรก็ตามแหล่งธรรมชาติเช่นการกัดกร่อนและการประทุตัวแบบ ภูเขา ไฟที่ช่วยให้สารปรอทที่มีบรรยากาศที่ อากาศที่อยู่โดยรอบเรามีสารปรอทมีลักษณะเป็นอากาศธาตุที่ไม่สร้างสรรค์ในเชิงบวกและว่าไม่เป็นอันตรายต่อทั้งในสัตว์หรือมนุษย์ที่ความเข้มข้นตามปกติ
ความเข้มข้นทั่วโลกมีความเหมือนอย่างเป็นธรรมแต่ปรากฏว่าการตอบสนองระหว่างแสงแดดทะเลเกลือและสารปรอทสารปรอทรั่วไหลที่มีบรรยากาศที่จะเปลี่ยนพื้นที่อันตรายน้อยกว่าที่อยู่ในอากาศเข้าไปในสารปรอทคอยตามแก้ปัญหามากขึ้น เมื่อพิมพ์เพิ่มเติมในเชิงปฏิกริยาของสารปรอทนี้จะมอบไว้บนชั้นล่างที่สามารถแปลงเป็นไปใน methylmercury เป็นพิษซึ่งอาจจะเป็นพิษห่วงโซ่อาหารทั้งหมด.
สะสมในห่วงโซ่อาหารที่
เมื่อสารปรอทเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารได้เป็นไปได้โดยจุลชีพและจากนั้นจึงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลและหมีขั้วโลกมนุษย์มีทางด้านบนสุดของห่วงโซ่อาหารที่อยู่ในบริเวณอาร์กติกและทำให้มีการปนเปื้อนมากที่สุดเพราะอยู่ไกลออกไปได้ห่วงโซ่อาหารที่คุณไปที่สูงกว่าความเข้มข้นของสารปรอทจะกลายเป็น.
ปรอทจัดเก็บอยู่ในร่างกายและมีหลักฐานว่าการปนเปื้อนในความเสียหายระบบประหม่าได้ ปรอทสามารถมีผลอย่างจริงจังเพื่อ สุขภาพ สัตว์แต่ยังมีทีท่าว่าคนที่ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่สัตว์ทะเลที่เลี้ยงลูกด้วยนมได้ จากการศึกษาของเด็กในหมู่เกาะแฟโรที่ได้แสดงความบกพร่องทางการเรียนรู้ซึ่งสงสัยว่าเป็นสารปรอทซึ่งเชื่อมโยงกับความเข้มข้นสูงในอาหารที่รับประทานอาหาร