นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.สายออกบัตรธนาคาร ให้ความเห็นว่า เมื่อเข้าสู่เออีซีแล้ว สัดส่วนของการใช้เงินบาทแลกเปลี่ยนในการค้าชายแดนพม่า ลาว และกัมพูชา จะมากขึ้น เพราะในเขตชายแดนเชื่อมต่อกับประเทศเหล่านี้รับเงินบาทในการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้า ควบคู่กับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่แล้ว แต่เมื่อเป็นเออีซี การใช้เงินบาทในฐานะตัวกลางในการซื้อขายการค้าชายแดนน่าจะมีความต้องการมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เงินบาทคงไม่ได้เป็นสกุลหลักในการค้าขายในภูมิภาค แต่เชื่อว่าบทบาทของเงินบาทน่าจะมีเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงต่อไปอาจจะมีการผ่อนคลายข้อจำกัดในการนำธนบัตร หรือเงินสด ข้ามเขตแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น จากในขณะนี้ที่กำหนดให้นำเงินข้ามแดนได้ไม่เกิน 500,000 บาท
“ในส่วนของการพิมพ์ธนบัตรของ ธปท.นั้น ตามปกติจะเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจของไทย แต่เมื่อเข้าสู่เออีซี การรวมตัวจะทำให้ตลาดและฐานการผลิตใหญ่ขึ้นไปด้วย ดังนั้น จำนวนการพิมพ์ธนบัตรเพิ่มขึ้นในแต่ละปีอาจจะต้องพิจารณาภาพรวมของเออีซีเพิ่มเติมด้วย โดยขั้นตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษา”
แต่ทั้งนี้ การเข้าสู่เออีซีในปี 2558 จะเป็นเพียงการเริ่มต้นเปิดเสรีของระบบการเงินไทยเท่านั้น โอกาสที่การเปิดเสรีทางการเงินทั้งระบบสถาบันการเงิน การเคลื่อนย้ายเงินทุนเต็มรูปแบบคงยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าประเทศไทยจะมีความพร้อมมากกว่านี้ เพราะตามกำหนดเออีซี ยอมให้การเปิดเสรีทางการเงินเต็มรูปแบบเลื่อนไปได้จนถึงปี 2563.
อ่านต่อ: http://www.thai-aec.com/111#ixzz3OQKLYH1E