The aim of the paper was to evaluat

The aim of the paper was to evaluate the environmental burden of the organic waste management

systems implemented in Umbria region in Italy, in order to provide useful information for taking stra-
tegic decisions aimed at the improvement and optimization. The two most widespread scenarios were

analyzed: source-segregated collection followed by organic fertilizer production and not-differentiated

collection followed by mechanical and biological treatment and disposal in landfill of the biostabilized

material. The environmental performance was assessed through Life Cycle Assessment methodology,

assuming one ton of organic waste as functional unit. Most of data for life cycle inventory were provided

by actual facilities while background data were obtained from EcoInvent database. The alternative sce-
narios were compared through the IMPACT 2002þ method and the assessment was carried out on both

midpoint and endpoint levels.

Results showed that the landfilling of the undifferentiated organic waste has the least impact on the

analyzed impact categories, except on the Global Warming, mostly due to the uncollected methane

released by the landfill. As regards the aerobic composting of the source-segregated organic fraction, the

efforts to reduce the impact should be mainly focused on the reduction of the air emissions (hydrogen

sulfide, particulate, ammonia and NMVOC) from the biostabilization process.

Furthermore the sensitivity analysis indicated that the increase of the biogas collection efficiency could

significantly improve the performance of the not-differentiated collection scenario.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของกระดาษคือการ ประเมินภาระด้านสิ่งแวดล้อมของการจัดการของเสียอินทรีย์ระบบที่นำมาใช้ในผู้ผลิตรายภูมิภาคในอิตาลี เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการตรงและระ-ตัดสินใจ tegic มุ่งปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพ สถานการณ์การแพร่หลายมากที่สุดคือสองวิเคราะห์: แยกแหล่งเก็บรวบรวมตาม ด้วยการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และไม่แตกต่างคอลเลกชันตาม ด้วยกล และทางชีวภาพการรักษาและการขายในการฝังกลบ biostabilizedวัสดุที่ สิ่งแวดล้อมได้รับการประเมินผ่านระเบียบวิธีการประเมินวัฏจักรชีวิตสมมติว่าหนึ่งตันของขยะอินทรีย์เป็นหน่วยงาน ส่วนใหญ่ของข้อมูลสำหรับวงจรชีวิตของสินค้าคงคลังได้ความจริงในขณะที่พื้นหลังของ ข้อมูลที่ได้รับจากฐานข้อมูล EcoInvent Sce-ทางเลือกnarios เปรียบเทียบ โดยวิธี 2002þ การผลกระทบ และการประเมินผลการดำเนินการทั้งสองระดับจุดกึ่งกลางและปลายทางผลการศึกษาพบว่า การฝังกลบของเสียอินทรีย์ความแตกต่างมีผลกระทบน้อยที่สุดในการวิเคราะห์ผลกระทบประเภท ยกเว้นบนโลกร้อน ส่วนใหญ่เนื่องจากมีเทนคาดออก โดยฝังกลบ นับถือการแอโรบิกการหมักแยกแหล่งอินทรีย์เศษส่วน การพยายามลดผลกระทบควรจะมุ่งเน้นในการลดการปล่อยอากาศ (ไฮโดรเจนเป็นหลักซัลไฟด์ อนุภาค แอมโมเนีย และ NMVOC) จากกระบวนการ biostabilizationนอกจากนี้ การวิเคราะห์ความไวแสดงว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มประสิทธิภาพของสถานการณ์แตกต่างไม่เก็บ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของกระดาษเพื่อประเมินภาระด้านสิ่งแวดล้อมของการจัดการขยะอินทรีย์

ระบบการดำเนินการในภูมิภาค Umbria ในอิตาลีเพื่อที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการถ่าย stra-
ตัดสินใจ Tegic มุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งสองสถานการณ์ที่แพร่หลายมากที่สุดได้รับการ

วิเคราะห์: คอลเลกชันแหล่งแยกตามด้วยการผลิตปุ๋ยอินทรีย์และไม่แตกต่าง

คอลเลกชันตามด้วยการรักษาทางกลและทางชีวภาพและการกำจัดในหลุมฝังกลบของ biostabilized

วัสดุ ผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการประเมินผ่านวิธีการประเมินวัฏจักรชีวิต

สมมติหนึ่งตันของขยะอินทรีย์เป็นหน่วยการทำงาน ส่วนใหญ่ของข้อมูลสำหรับสินค้าคงคลังวงจรชีวิตได้ให้

สิ่งอำนวยความสะดวกที่เกิดขึ้นจริงในขณะที่ข้อมูลพื้นหลังที่ได้รับจากฐานข้อมูล EcoInvent ทางเลือก sce-
narios ถูกเมื่อเทียบผ่านอิมแพ็ค2002þวิธีการและการประเมินได้ดำเนินการทั้งใน

ระดับจุดกึ่งกลางและปลายทาง.

ผลการศึกษาพบว่าการฝังกลบของเสียอินทรีย์แตกต่างมีผลกระทบน้อยที่สุดใน

ประเภทผลกระทบวิเคราะห์ยกเว้นในภาวะโลกร้อน ส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ได้รับก๊าซมีเทน

ออกโดยการฝังกลบ ส่วนด้านการทำปุ๋ยหมักแอโรบิกของแหล่งที่มาแยกส่วนอินทรีย์

ความพยายามที่จะลดผลกระทบที่ควรจะมุ่งเน้นในการลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ (ไฮโดรเจน

ซัลไฟด์อนุภาคแอมโมเนียและ NMVOC) จากกระบวนการ biostabilization ได้.

นอกจากนี้การวิเคราะห์ความไวที่ระบุ ว่าการเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพการจัดเก็บก๊าซชีวภาพอาจ

มีนัยสำคัญปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของคอลเลกชันสถานการณ์ไม่ที่แตกต่าง