It was in the 1930s that DuPont off

It was in the 1930s that DuPont officials gained a curious insight: sometimes, in order to protect the company name it was important not to trademark a product. Early in the decade the company trademarked its new synthetic rubber as DuPrene, but found it could not safeguard the integrity of the product name. DuPrene was an unprocessed material, and unreliable manufacturers who produced poor goods threatened to give the product and DuPont a bad reputation. As a result, DuPont abandoned the trademark in 1936 and applied the generic name “neoprene” to distinguish it as an original ingredient, not a finished product. DuPont applied similar logic when it chose not to trademark the revolutionary synthetic fiber nylon.

DuPont learned another important lesson in the rules of trademark registration during the 1930s. In 1936 the company sued Sylvania for marketing a plastic wrap using the DuPont trade name cellophane. Sylvania argued that no other common name for the material existed. The court agreed, finding that DuPont had not properly protected its trademark by distinguishing the branded product from the generic cellulose film. The company responded to the defeat by strengthening and expanding the Legal Department’s trademark division.

The economic boom after World War II unleashed a new wave of consumer buying and corresponding concern over branding and trademarks. Increasing competition in the chemical industry, particularly in the production of synthetic fibers, made trademarking a crucial means of establishing a product’s identity while ensuring legal protection and winning the loyalty of consumers. DuPont sewed up the postwar synthetic textile market with Orlon acrylic fiber and Dacron polyester fiber, both with names reminiscent of nylon, but trademarked since corporate officials now believed that DuPont’s reputation as a quality fibers manufacturer was secure. But the marketability of a brand name itself was becoming increasingly important. When DuPont introduced a new elastomeric fiber called “Fiber K” in 1958, it received little attention from consumers. Reintroduced two years later as Lycra, the fiber was an immediate success.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ว่าเจ้าหน้าที่ Dupont ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่อยากรู้อยากเห็น: บางครั้งเพื่อที่จะปกป้องชื่อของ บริษัท มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่เครื่องหมายการค้าผลิตภัณฑ์ ในช่วงต้นทศวรรษที่ผ่านมา บริษัท เครื่องหมายการค้ายางสังเคราะห์ใหม่เป็น duprene แต่ก็พบว่ามันไม่สามารถปกป้องความสมบูรณ์ของชื่อผลิตภัณฑ์ duprene เป็นวัสดุที่ยังไม่ได้,และผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือผู้ผลิตสินค้าดีขู่ว่าจะให้ผลิตภัณฑ์และ Dupont ชื่อเสียงที่ไม่ดี เป็นผลให้ Dupont ละทิ้งเครื่องหมายการค้าในปี 1936 และนำไปใช้ชื่อ "เทียม" ทั่วไปจะแตกต่างเป็นส่วนผสมเดิมไม่ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป Dupont ใช้ตรรกะที่คล้ายกันเมื่อมันเลือกที่จะไม่เครื่องหมายการค้าไนลอนใยสังเคราะห์ปฏิวัติ.

Dupont ได้เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญอีกคนหนึ่งในกฎของการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในช่วงทศวรรษที่ 1930 ในปี 1936 บริษัท ฯ ฟ้องซิลเวเนียสำหรับการตลาดของการใช้พลาสติกห่อกระดาษแก้ว Dupont ชื่อทางการค้า ซิลเวเนียที่ถกเถียงกันอยู่ว่าไม่มีชื่อสามัญอื่น ๆ สำหรับวัสดุที่มีอยู่ ศาลที่ตกลงกันไว้พบว่า Dupont ไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างถูกต้องเครื่องหมายการค้าตามลักษณะตราสินค้าจากฟิล์มเซลลูโลสทั่วไป บริษัท ตอบสนองต่อความพ่ายแพ้โดยการเสริมสร้างและขยายส่วนเครื่องหมายการค้าฝ่ายกฎหมายของ.

เศรษฐกิจบูมหลังสงครามโลกครั้งที่ unleashed คลื่นลูกใหม่ของการซื้อของผู้บริโภคและความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการสร้างตราสินค้าและเครื่องหมายการค้าแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเคมีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ที่ทำ trademarking หมายถึงความสำคัญของการสร้างเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ในขณะที่มั่นใจคุ้มครองทางกฎหมายและชนะความจงรักภักดีของผู้บริโภค Dupont เย็บหลังตลาดสิ่งทอสังเคราะห์ที่มีเส้นใยอะคริลิ orlon และเส้นใยโพลีเอสเตอร์ dacron ทั้งที่มีชื่อชวนให้นึกถึงไนลอน,แต่เครื่องหมายการค้าตั้งแต่เจ้าหน้าที่ของ บริษัท ในขณะนี้เชื่อว่าชื่อเสียงของดูปองต์เป็นผู้ผลิตเส้นใยที่มีคุณภาพเป็นที่เชื่อถือได้ แต่ตลาดของแบรนด์ตัวเองได้กลายเป็นที่สำคัญมากขึ้น เมื่อ Dupont นำเส้นใยยางใหม่ที่เรียกว่า "ใย K" ในปี 1958 จะได้รับความสนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผู้บริโภค แนะนำสองปีต่อมาเป็นไลคร่า,เส้นใยเป็นความสำเร็จในทันที

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ค.ศ. 1930 ว่า ดูปองท์เจ้าหน้าที่ได้รับความเข้าใจที่อยากรู้อยากเห็น: บางครั้ง การปกป้องชื่อบริษัท ก็ไม่ต้องการเครื่องหมายค้าผลิตภัณฑ์ ในช่วงทศวรรษบริษัท trademarked ของยางสังเคราะห์ใหม่เป็น DuPrene ได้พบมันไม่สามารถปกป้องความสมบูรณ์ของชื่อผลิตภัณฑ์ DuPrene เป็นวัสดุไม่ได้ประมวลผล และถูกคุกคามน่าผู้ผลิตที่ผลิตสินค้าที่ดีเพื่อให้ผลิตภัณฑ์และดูปองท์ชื่อเสียงไม่ดี ดังนั้น ดูปองท์ละทิ้งเครื่องหมายการค้าในค.ศ. 1936 และใช้ชื่อทั่วไป "neoprene" แยกแยะเป็นส่วนผสมเดิม ไม่เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ดูปองท์ใช้ตรรกะคล้ายเมื่อมันเลือกไม่ให้เครื่องหมายค้าไนลอนใยสังเคราะห์ปฏิวัติ

ดูปองท์ได้เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญอื่นในกฎของการลงทะเบียนเครื่องหมายการค้าในระหว่างช่วงทศวรรษ 1930 ในค.ศ. 1936 บริษัทฟ้อง Sylvania สำหรับตลาดตัดพลาสติกที่ใช้ cellophane ยี่ห้อดูปองท์ Sylvania โต้เถียงว่า ไม่ทั่วไปชื่ออื่นสำหรับวัสดุที่มีอยู่แล้ว ศาลตกลง หาว่า ดูปองท์ได้ไม่ถูกต้องป้องกันของเครื่องหมายการค้า โดยแยกความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ตราสินค้าจากฟิล์มเซลลูโลสทั่วไป บริษัทตอบรับความพ่ายแพ้ โดยเสริมสร้าง และขยายส่วนเครื่องหมายการค้าของแผนกกฎหมาย.

บูมเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่สองปลดปล่อยคลื่นใหม่ของผู้บริโภคที่ซื้อและสอดคล้องกันที่เกี่ยวข้องกำหนดตราสินค้าและเครื่องหมายการค้า เพิ่มการแข่งขันในอุตสาหกรรมเคมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ ทำ trademarking วิธีสำคัญของการสร้างเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ในขณะที่บริการคุ้มครองทางกฎหมาย และชนะความภักดีของผู้บริโภค ดูปองท์ sewed ค่าตลาดสิ่งทอพ้นสังเคราะห์ Orlon อะครีลิคไฟเบอร์และ Dacron ใยโพลีเอสเตอร์ ด้วยชื่อของไนล่อน แต่ trademarked เนื่องจากเจ้าหน้าที่องค์กรเชื่อชื่อเสียงของดูปองท์ที่ให้ตอนนี้เป็นผู้ผลิตเส้นใยคุณภาพทาง แต่สอบของชื่อแบรนด์ตัวเองได้กลายเป็นสิ่งสำคัญมาก เมื่อดูปองท์นำใย elastomeric ใหม่เรียกว่า "ใย K" ใน 1958 ได้รับความสนใจเพียงเล็กน้อยจากผู้บริโภค สองปี reintroduced ในภายหลังเป็นไลคร่า เส้นใยถูกผิดสำเร็จทันที

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันเป็นในช่วงทศวรรษที่ 1930 s ว่าเจ้าหน้าที่ Dupont ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องแปลกที่บางครั้งในการสั่งซื้อเพื่อป้องกันชื่อบริษัทที่มันเป็นสิ่งสำคัญไม่ได้เป็นเครื่องหมายการค้าของ ผลิตภัณฑ์ ในช่วงต้นทศวรรษที่บริษัทที่ทำจากยางสังเคราะห์เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทใหม่เป็น duprene แต่พบว่าไม่สามารถรักษาความสมบูรณ์ของชื่อ ผลิตภัณฑ์ ที่ duprene เป็นวัสดุที่ยังไม่ได้ประมวลผลผู้ผลิตและผู้ที่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ผลิตสินค้าผู้น่าสงสารถูกคุกคามเพื่อทำให้บริเวณ Dupont Circle และ ผลิตภัณฑ์ ที่มีชื่อเสียงที่ไม่ดี เป็นผลให้บริเวณ Dupont Circle ที่ถูกละทิ้งโดย agent ที่เครื่องหมายการค้าในปี 1936 และนำมาใช้ทั่วไป,ชื่อ"นีโอพรีน"เพื่อสร้างความแตกต่างมันเป็นแบบดั้งเดิมส่วนผสมที่ไม่ให้ ผลิตภัณฑ์ ที่เสร็จสมบูรณ์ได้ Dupont Circle อันนำไปใช้ตรรกะในลักษณะเดียวกันเมื่อเลือกที่จะไม่เครื่องหมายการค้าไนลอนเส้นใยสังเคราะห์ปฏิวัติ.

Dupont Circle /ได้รับบทเรียนสำคัญอื่นๆในกฎระเบียบที่มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในระหว่างปี 1930 ในปี 1936 บริษัทจะฟ้องร้อง sylvania สรุปรวบรวมผลสำหรับการตลาดวุ้นเส้นพลาสติกที่ใช้ชื่อทางการค้าที่บริเวณ Dupont Circle sylvania ให้เหตุผลว่าไม่มีชื่อทั่วไปอื่นๆสำหรับวัสดุที่มีอยู่ ศาลที่ได้ตกลงไว้การค้นหาที่บริเวณ Dupont Circle ก็ไม่ได้รับการป้องกันโดยลักษณะเด่นของเครื่องหมายการค้า ผลิตภัณฑ์ แบรนด์เซลลูโลสจาก ภาพยนตร์ ทั่วไปได้อย่างถูกต้อง บริษัทได้ตอบความพ่ายแพ้จากการแข็งค่าขึ้นและการขยายการแบ่งแยกเครื่องหมายการค้าของแผนกกฎหมาย.

เติบโตทางเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่สองการปล่อยคลื่นลูกใหม่ที่มีปัญหาที่เกี่ยวข้องและการซื้ออุปกรณ์ในเครื่องหมายการค้าและแบรนด์การแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นในอุตสาหกรรมเคมีและโดยเฉพาะในการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ทำ trademarking หมายความว่าความสำคัญของการสร้างรหัสประจำตัวของ ผลิตภัณฑ์ ในขณะที่มีความมั่นใจได้การคุ้มครองทางกฎหมายและความ จงรักภักดี ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศของ ผู้บริโภค Dupont เมาเต็มที่ตลาดสิ่งทอที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์สงครามพร้อมด้วยเส้นใย orlon อะคริลิกใยโพลีเอสเตอร์และผ้าไหมเทียมทั้งสองมีชื่อชวนให้ระลึกถึงช่วงเวลาของไนลอนแต่เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทในตอนนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีชื่อเสียงในด้านของบริเวณ Dupont Circle เป็นผู้ผลิตเส้นใยที่มี คุณภาพ มีความ ปลอดภัย . แต่ประเด็นที่มาของชื่อแบรนด์ของมันก็จะกลายเป็นความสำคัญมากยิ่งขึ้น เมื่อ Dupont แนะนำ Fibre elastomeric ใหม่ที่เรียกว่า"ไฟเบอร์ K "ในปี 1958 ซึ่งได้รับความสนใจจาก ผู้บริโภค นำสองปีต่อมาเป็น Lycraไฟเบอร์แบบนี้ก็เป็นความสำเร็จในทันที