Inhibitory effect of the n-hexane,

Inhibitory effect of the n-hexane, dichloromethane, ethyl acetate, and ethanol extracts from Anethum graveolens L. (dill) cultivated under organic (AG-O) and conventional (AG-C) conditions was tested against acetylcholinesterase (AChE), butyrylcholinesterase (BChE), and tyrosinase at 200 μg mL−1. Their antioxidant activity was determined using 2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl (DPPH), N,N-dimethyl-p-phenylendiamine (DMPD), and nitric oxide (NO) radical scavenging assays as well as ferric ion-chelation capacity, ferric-(FRAP), and phosphomolybdenum-reducing antioxidant power (PRAP). The phytochemical analyses have been performed on both of the plant samples. GC–MS analysis pointed out that α-phellandrene was the main component in both of the essential oils in varying amounts (47.75% for AG-O and 27.94% for AG-C), while oleic acid was the dominant in the fruit oils of two samples (36.39% for AG-O and 53.87% for AG-C). HPLC analysis showed that both of the extracts contained rosmarinic acid as the major phenolic acid. The extracts inhibited BChE at moderate level, while the ethanol extracts exerted remarkable NO scavenging effect. The results emphasize that cultivation conditions may have effect on bioactivity and phytochemical content on plant samples

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลิปกลอสไขผล ของเอ็นเฮกเซน dichloromethane, acetate เอทิล เอทานอลสารสกัดจากลาว graveolens L. (ผักชีลาว) cultivated ภายใต้อินทรีย์ (AG-O) และเงื่อนไข (AG-C) ปกติถูกนำมาทดสอบกับ acetylcholinesterase (AChE), butyrylcholinesterase (BChE), และ tyrosinase ที่ 200 μg mL−1 กำหนดกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระโดยใช้ 2,2-ฟีนิลได-1-picrylhydrazyl (DPPH), N, N-dimethyl-p-phenylendiamine (DMPD), และไนตริกออกไซด์ (NO) รุนแรง scavenging assays เฟอร์เป็นเช่นกำลังการผลิตไอออน chelation, ferric-(FRAP) และ phosphomolybdenum ลดอนุมูลอิสระ (ปราบ) การวิเคราะห์สารพฤกษเคมีในตัวอย่างพืชทั้งสอง GC – MS วิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า α-phellandrene เป็นส่วนประกอบหลักในน้ำมันหอมในปริมาณที่แตกต่างกัน (47.75% AG O และ 27.94% AG C) ทั้งสอง ขณะ oleic กรด ในน้ำมันผลไม้ของหลัก สองตัวอย่าง (36.39% AG O และ 53.87% AG C) วิเคราะห์ HPLC พบว่า ทั้งสารสกัดที่อยู่ rosmarinic กรดเป็นกรดฟีนอหลัก สารสกัดที่ห้าม BChE ระดับปานกลาง ในขณะเอทานอลสารสกัดจากนั่นเองไม่โดดเด่น scavenging ผลการ เพาะปลูกที่เน้นผลลัพธ์อาจจะมีผลต่อทางชีวภาพและสารพฤกษเคมีเนื้อหาตัวอย่างพืช

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลยับยั้งของ n-เฮกเซนไดคลอโรมีเทน, เอทิลอะซีเต, และสารสกัดเอทานอลจาก Anethum graveolens L. (ผักชีฝรั่ง) ภายใต้การปลูกอินทรีย์ (AG-O) และธรรมดา (AG-C) เงื่อนไขได้รับการทดสอบกับสาร (เจ็บ) butyrylcholinesterase ( BChE) และไทโรซิเนที่ 200 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร-1 ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของพวกเขาได้รับการพิจารณาโดยใช้ 2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl (DPPH), N, N-dimethyl-P-phenylendiamine (DMPD) และไนตริกออกไซด์ (NO) ตรวจต้านอนุมูลเช่นเดียวกับความจุไอออนขับเฟอริก ferric- (FRAP) และ phosphomolybdenum ลดอำนาจสารต้านอนุมูลอิสระ (ปราบ) การวิเคราะห์สารพฤกษเคมีที่ได้รับการดำเนินการเกี่ยวกับทั้งสองตัวอย่างพืช การวิเคราะห์ GC-MS ชี้ให้เห็นว่าα-phellandrene เป็นองค์ประกอบหลักทั้งในน้ำมันหอมระเหยในปริมาณที่แตกต่างกัน (47.75% สำหรับ AG-O และ 27.94% สำหรับ AG-C) ในขณะที่กรดโอเลอิกเป็นที่โดดเด่นในผลของน้ำมัน สองตัวอย่าง (36.39% สำหรับ AG-O และ 53.87% สำหรับ AG-C) การวิเคราะห์ HPLC เพื่อแสดงให้เห็นว่าทั้งสองของสารสกัดที่มีกรด rosmarinic เป็นกรดฟีนอลที่สำคัญ สารสกัดยับยั้ง BChE ในระดับปานกลางในขณะที่สารสกัดเอทานอลที่กระทำผลที่น่าทึ่งไม่ขับ ผลการเน้นว่าสภาพการเพาะปลูกอาจจะมีผลต่อทางชีวภาพและเนื้อหาพฤกษเคมีในตัวอย่างพืช

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลยับยั้งของบีบ ไดคลอโรมีเทน , เอทิลอะซิเตท และสารสกัดเอทานอลจากชีลาวลิตร ( ผักชีฝรั่ง ) ที่ปลูกภายใต้อินทรีย์ ( ag-o ) และแบบทั่วไป ( ag-c ) เงื่อนไขถูกทดสอบกับทิลโคลีน ( ปวด ) , ยำ ( bche ) และไทโรซีน ที่ 200 มิลลิลิตรμ G − 1 สารต้านอนุมูลอิสระของพวกเขาคือการพิจารณา 2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl ( dpph ) nn-dimethyl-p-phenylendiamine ( dmpd ) และไนตริกออกไซด์ ( NO ) เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ) รวมทั้งเฟอริกไอออน ความจุ chelation เฟอริก - ( VDO ) และสารต้านอนุมูลอิสระ phosphomolybdenum ลดพลังงาน ( ปราบ ) การวิเคราะห์ไฟได้ปฏิบัติทั้งของโรงงานตัวอย่างGC - นางสาวการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าแอลฟาฟิลแลนดรีนเป็นส่วนประกอบหลักในทั้งสองของน้ำมันหอมระเหยที่แตกต่างกันในจํานวน ( ร้อยละ 47.75 ag-o 27.94 ) และ ag-c ) , ในขณะที่กรดโอเลอิกเป็นเด่นในผลไม้ขับสองตัวอย่าง ( ร้อยละ 36.39 และ ag-o 53.87 % ag-c ) การวิเคราะห์ HPLC พบว่าทั้งสารสกัดที่มีอยู่ rosmarinic กรดเป็นกรดฟีโนลิก ที่สําคัญสารยับยั้ง bche ในระดับปานกลาง ในขณะที่สารสกัดเอทานอลนั่นเองที่ไม่มีการผล ผลลัพธ์เน้นว่าเงื่อนไขการปลูก อาจจะมีผลต่อปริมาณสารพฤกษเคมีและฤทธิ์ในตัวอย่างพืช