About 19%) of the sample reportedin

About 19%) of the sample reported
incomes of less than $20,000 while a
third of subjects reported incomes of
$51,000 or more. The mean number of
years of education for the total sample
was 13,4 (SD = 2,4). About 10% of subjects
had completed less than 12 years
of educafion while nearly 1 /3 had completed
more than 14 years of education.
Differences in periodontal status were
related to the socioeconomic factors. As
socioeconomic status improved, the
presence of plaque, calculus, and gingivitis
generally declined. Differences in
plaque, calculus, and gingivitis among
groups were stafistically significant.
Calculus, for example, was 2-3 x more
prevalent in the lowest income and education
groups compared to the highest
level groups in those categories. Pocket
depths were deeper and there was 2 x as
much attachment loss in the lowest education
group compared to the highest
education group. Generally, all measures
of periodontal status demonstrated
inverse relations with income and education
levels. 70%) of subjects reported
having dental insurance, but oral health
status was not found to be appreciably
different between those with or without
insurance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประมาณ 19%) ของตัวอย่างรายงานรายได้น้อยกว่า $20000 ในขณะสามเรื่องรายงานรายได้ของ$51,000 หรือมากกว่า หมายถึงจำนวนปีการศึกษาตัวอย่างทั้งหมดมี 13,4 (SD = 2, 4) ประมาณ 10% ของเรื่องมีสมบูรณ์น้อยกว่า 12 ปีของ educafion ในขณะที่เกือบ 1 /3 มีสมบูรณ์มากกว่า 14 ปีการศึกษาความแตกต่างในสถานะโรคเหงือกได้ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยประชากร เป็นสถานะของประชากรดีขึ้น การของหินปูน แคลคูลัส และเหงือกอักเสบโดยทั่วไปถูกปฏิเสธ ความแตกต่างในหินปูน แคลคูลัส และเหงือกอักเสบระหว่างกลุ่ม stafistically อย่างมีนัยสำคัญได้แคลคูลัส เช่น มี 2-3 x เพิ่มเติมแพร่หลายในการศึกษาและรายได้ต่ำกลุ่มเปรียบเทียบสูงกลุ่มระดับประเภทเหล่านั้น กระเป๋าความลึกลึก และมี x 2 เป็นขาดทุนในการศึกษาต่ำแนบมากกลุ่มเปรียบเทียบสูงกลุ่มการศึกษา ทั่วไป ทั้งหมดวัดแสดงสถานะโรคเหงือกความสัมพันธ์ผกผันกับรายได้และการศึกษาระดับการ 70%) ของเรื่องรายงานมีประกัน แต่ปากสุขภาพฟันไม่พบสถานะมี appreciablyแตกต่างกันระหว่างผู้ที่มี หรือไม่มีประกันภัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกี่ยวกับ 19%)
ของกลุ่มตัวอย่างรายงานรายได้น้อยกว่า$ 20,000
ในขณะที่สามของอาสาสมัครรายงานรายได้ของ
$ 51,000 หรือมากกว่า จำนวนเฉลี่ยของปีของการศึกษาสำหรับกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดเป็น13,4 (SD = 2,4) ประมาณ 10% ของอาสาสมัครได้เสร็จสิ้นต่ำกว่า12 ปีของeducafion ขณะที่เกือบ 1/3 เสร็จกว่า14 ปีของการศึกษา. ความแตกต่างในสถานะปริทันต์ได้รับการที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่สถานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีขึ้นในการปรากฏตัวของคราบจุลินทรีย์แคลคูลัสและโรคเหงือกอักเสบลดลงโดยทั่วไป ความแตกต่างในคราบจุลินทรีย์แคลคูลัสและโรคเหงือกอักเสบในหมู่กลุ่มอย่างมีนัยสำคัญstafistically. แคลคูลัสเช่นเป็น 2-3 x มากขึ้นแพร่หลายในรายได้ต่ำสุดและการศึกษากลุ่มเมื่อเทียบกับที่สูงที่สุดในกลุ่มระดับในประเภทเหล่านั้น พ็อกเก็ตระดับความลึกได้ลึกและมี 2 x เป็นการสูญเสียสิ่งที่แนบมามากในการศึกษาที่ต่ำที่สุดกลุ่มเมื่อเทียบกับที่สูงที่สุดในกลุ่มการศึกษา โดยทั่วไปมาตรการทั้งหมดสถานะปริทันต์แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ผกผันที่มีรายได้และการศึกษาระดับ 70%) ของอาสาสมัครรายงานมีประกันทันตกรรมแต่สุขภาพช่องปากที่สถานะไม่ได้พบว่ามีการประเมินที่แตกต่างกันระหว่างผู้ที่มีหรือไม่มีประกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประมาณ 19 % ของตัวอย่างรายงาน
รายได้น้อยกว่า $ 20 , 000 ในขณะที่
3
) รายงานรายได้ของ $ 51 , 000 หรือมากกว่า หมายถึงจำนวนปีของการศึกษาสำหรับ

ตัวอย่างรวม 13,4 ( SD = 2 , 4 ) ประมาณ 10% ของคน

ได้สมบูรณ์กว่า 12 ปีของ educafion ขณะที่เกือบ 1 / 3 ก็เสร็จ
มากกว่า 14 ปีของการศึกษา สถานะที่แตกต่างกันของอวัยวะปริทันต์ได้

มีความสัมพันธ์กับปัจจัยทางเศรษฐกิจสังคม สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ปรับปรุงเป็น

, การแสดงตนของจุลินทรีย์ แคลคูลัส และเหงือกอักเสบ
โดยทั่วไปลดลง ความแตกต่างใน
หินปูน แคลคูลัส และโรคเหงือกอักเสบของกลุ่ม stafistically

แคลคูลัสสําคัญ เช่น 2-3 x เพิ่มเติม
แพร่หลายในรายได้ต่ำสุด และกลุ่มเปรียบเทียบกับการศึกษา

กลุ่มระดับสูงสุดในประเภทเหล่านั้น กระเป๋า
ความลึกที่ลึกและมีมากที่แนบมาเป็น 2 x
ขาดทุนในกลุ่มการศึกษา
น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มการศึกษาสูง

โดยทั่วไปมาตรการทั้งหมด

สภาพปริทันต์แสดงความสัมพันธ์ผกผันกับรายได้และการศึกษา
ระดับ 70 % ) ของวิชารายงาน
มีประกันทันตกรรม แต่ภาวะสุขภาพช่องปาก
ไม่พบจะได้แตกต่างกันระหว่างผู้ที่มีหรือไม่มี

ประกัน