ความรักกับความฝันนั้นเป็นของคู่กันม

ความรักกับความฝันนั้นเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร หนุ่มบางคนก็ฝันอยากมีคู่ครองที่มีขนาดทรวงอกน้องๆภูเขาไฟไปนู่น....โหนี่น่าจะ หาดาวโป๊มาเป็นแฟนซะเลยสิ้นเรื่อง

แต่บางคู่แค่นึกชอบกันที่นิสัยซึ่งพอจะไปกันได้และคุยรู้เรื่องก็โอเคเป็นแฟนกันได้แล้ว กระนั้น ก็เถอะ เรื่องความรักและการมีแฟนน่ะ สังเกตมะ ผู้หญิงมักได้ชื่อว่า เป็นจอมช่างฝัน มากกว่าผู้ชายซะอีก เพราะในขณะที่วันๆหนุ่มๆเอาแต่เล่นเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็ไม่รู้จะ พยายามเป็นผู้พิชิตเกมประหลาดๆเหล่านี้อะไรกันนักหนา ด้านฝ่ายหญิงก็เอาแต่ช็อปปิ้ง ซื้อหาสิ่งของและเครื่องประดับเพื่อประทินโฉมตัวเองให้สวยใสไร้สิวเข้าไว้ หวังให้เป็น ที่หมายปองจะได้มี "ใครสักคน" กะเค้าสักที

แต่อ่ะ อ่ะ ผู้ชายเดี๋ยวนี้รักสวยรักงามไม่แพ้ สาวๆนะยะ อู้ย...กว่าจะแต่งองค์ทรงเครื่องไปไหน มาไหนได้ ต้องส่องกระจกแบบส่องแล้วส่องอีก ส่องให้เกิดความเพอร์เฟกต์ (สมบูรณ์) ซะทุกสัดส่วนก่อน แล้วถึงจะเยื้องกายออกจากประตูบ้านได้ เพราะงั้นใครว่าสมัยนี้ ผู้ชายเป็น ฝ่ายรอสาวข้างเดียว...เชอะ!

แต่ที่เขียนไม่ได้อยากคุยถึงแฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผมนะ อยากเน้นไปที่ความปรารถนาในเรื่อง ความรักของมนุษย์ซะมากกว่า เอ้า ลองจับไต๋ ให้ดีๆ แล้วจะพบว่า คนเราอยากอินเลิฟกับ ความรักแบบไหนมั่ง อ่ะก็แบบนี้ไง......

1. ถ้าผู้ชายก็อยากเป็นหนุ่มหล่อหุ่นเท่ อย่างจอร์จ คลูนีย์, แบรด พิตต์ หรือเดวิด เบคแคม ส่วนผู้หญิงก็อยากงาม, อยากดูดีมีเสน่ห์คล้ายแองเจลีนา โจลี่, นิโคล คิดแมน หรือเจนนิเฟอร์ โลเปซ ไงเล่า

อู้ย...ก็ลองเป็นฝ่ายไม่น่ารัก, ไม่น่าถวิลหา และไม่มีเสน่ห์พอให้ใครๆอยากกระเซาะกระแซะ เข้าไปเซ้าซี้สิยะ แล้วคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะปิ๊งด้วยเรอะ

ดังนั้น "ผู้อยากมีคู่"ถึงได้ฝันเฟื่องเรื่องความสะโอดสะอง, มีหุ่นเพรียวสวยและหน้าตาเลิศ กว่าใครในปฐพีไงล่ะ โถ...บางคนมีการใส่ชุดกระชับสัดส่วน เพื่อไม่ให้ไขมันส่วนเกิน โผล่ออกมาก็มี ส่วนใครที่ใจร้อนอยากสวยแบบสายฟ้าแลบจึงอาศัยการศัลยกรรมชนิดทุ่มไม่อั้น อาตมาก็ไม่อยากคอมเมนต์

เพราะเรื่องความสวยความงามและความหล่อล่ำน่ะ มันไม่ได้เป็นสิ่งคงทนถาวรซะหน่อย เอ้า ถ้าใครมาแนะนำตัวเองกะคุณว่า หล่อนอายุ 50 แต่ เมื่อมองหน้าเค้าแล้วยังตึงเปรี๊ยะเป็น 25 อยู่นั่น คิดดูดิ่ว่าคนที่ได้ยินจะไม่กลัวเอารื้อ? อะไรว่ะ หน้าตางี้ เหมือนโบกปูนฉาบไว้ ไม่ให้มี ริ้วมีรอยเลยแม้แต่น้อย มันก็ชักยังไงๆอยู่นะ ไอ้อยากหน้าตาดีเป็นสาวพันปี หรือเป็นหนุ่ม ตลอดกาลน่ะพอเข้าใจ แต่อย่าเว่อสิ

อ้อ นอกจากอยากให้ตัวเองงดงามแล้ว ก็อยากมีแฟนหน้าตาอินเทรนด์ดูดีด้วยใช่ปะ

2. อยากมีชีวิตรักเหมือนในหนัง หรือ ละครหลังข่าว

โดยติ๊ดต่างว่าตัวเองเป็นนางเอกหรือพระเอกนะเฟ้ย ไม่ใช่เป็นนางมารหรือผู้ร้าย...อุ้ย ไม่เอาด้วยหรอก ถามว่า ทำไมถึงอยากให้ตัวเองมีรักแบบในหนังน่ะเหรอ เอ้า ก็ดูหนัง หรือละครแต่ละเรื่องดิ่ ถึงแม้นางเอกหรือพระเอกจะถูกใครๆทำไม่ดีใส่ในตอนแรก เช่น ถูกกระแหนะกระแหนก็แล้ว, ถูกทรมานทรกรรมก็แล้ว ก็ไม่แคล้วตบจูบอยู่ดีล่ะว้า เพราะพอเรื่องราวคลี่คลาย พายุร้ายพัดผ่านไป นางเอกก็มักได้ดิบได้ดีมีคนรักอย่างที่หล่อนต้องการทู้กที แถมคนรักในหนังในละครก็แสนเพอร์เฟกต์ เป็นมหาเศรษฐีหรือเป็นทายาทเศรษฐี รึดีไม่ดีนางเอก เองนั่นแหละที่เป็นทายาทมรดก บ้านทรายทอง เอ๊ย....นางเอกได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว พ่อแม่ของหล่อนนั้นมียศถาบรรดาศักดิ์ มีสกุลรุนชาติ โอ่ะแล้วงี้ จะไม่ให้ ฝันกลางวันเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆเหมือน ในละครหรือ ในหนังได้ไงเนี่ย เพราะ หนังเกือบทุกเรื่องแฮปปี้เอนดิ้งนี่นา

3. อยากให้ทั้งตัวเราและคู่ของเราอารมณ์ดีขณะรักกันตลอดเวลา

เอ้า อย่าเพิ่งอ้าปากค้านดิ่ว่า ตอนมีความรักแรกๆน่ะใครๆก็อารมณ์ดีกันอยู่แล้ว ก็แหงน่ะซี ไม่มีใครแย้งหรอก แต่ ขอรวมถึงความรักในทุกช่วงเวลาด้วยได้ไหม ไม่ใช่แค่อารมณ์ดี ต่อกันในช่วงแรก แล้วพอรักกันไปเรื่อยๆ อารมณ์นี้เดี๋ยวก็จางหายไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งไม่อยาก ให้เป็นงี้นะ เท่าที่เห็นคู่เลิฟมาเยอะ โอ้โห พอผ่านช่วงรักกันอย่างที่สุดแล้ว เอ้า นอกจากรักจะจืด เป็นนมยูเอชทีไม่มีน้ำตาลแล้ว อารมณ์ของทั้งคู่ยังขุ่นมัวใส่กันอีกด้วย เฮ้อ...งั้นอย่าลืมเติม "ผงชูรัก" ลงไปเรื่อยๆล่ะตัว

แต่ถ้าคู่ของเรายังผูกพันกันไว้ ด้วยอารมณ์ดี ไม่ขี้หงุดหงิด, ไม่หา เรื่องชวนทะเลาะ และไม่ นอกใจซะอย่าง อื้มแบบนี้แหละที่ฝันถึงทุกวันล่ะ

4. อยากมีรักที่มั่นคง ไม่ง่อนแง่น ไม่เอียงกระเท่เร่ชนิดจะจมมิจมแหล่ น่ะสิ

เวลามีแฟน ไม่ว่าจะคบกันแบบยังไม่ทันได้แต่ง หรือแต่งงานเสร็จสมอารมณ์หมายแล้วก็เถอะ ใครว้าคิดอยู่ในใจว่าตูจะเลิกกับ แฟนคนนี้โดยเร็ว เอ้า ถ้าขืนคิดแบบนี้ก็อย่าไปมีฟงมีแฟนซะเลยไม่ดีกว่าเรอะ ตรงข้าม พวกเรามักชอบฝันหวานว่าจะครองคู่อย่างเหนียวแน่นไปจนกว่าความตายจะพรากจากกันมากกว่า

ถึงแม้สมัย นี้จะมีตัวอย่างของการรักๆเลิกๆให้เห็นกันจนชินก็ตาม แต่เชื่อดิ่ เวลาคุณมีความรักเมื่อไหร่ ต่อให้เป็นรักแสนเลี่ยนหรือแม้แต่ทะเลาะกันมั่ง แต่ ทุกคนก็ยังอยากให้รักคราวนี้เป็น Endless Love หรือรักไม่รู้จบ ทั้งนั้นแหละ ก็ใครอยากให้รักล้มเอาล้มเอามั่งล่ะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระนั้นก็เถอะเรื่องความรักและการมีแฟนน่ะสังเกตมะผู้หญิงมักได้ชื่อว่าเป็นจอมช่างฝันมากกว่าผู้ชายซะอีก ซึ่งก็ไม่รู้จะ ด้านฝ่ายหญิงก็เอาแต่ช็อปปิ้ง หวังให้เป็นที่หมายปองจะได้มี "ใครสักคน" กะเค้าสักทีแต่อ่ะอ่ะเดี๋ยวนี้ผู้ชายรักสวยรักงามไม่แพ้สาว ๆ นะยะ มาไหนได้ต้องส่องกระจกแบบส่องแล้วส่องอีกส่องให้เกิดความเพอร์เฟกต์ (สมบูรณ์) ซะทุกสัดส่วนก่อน เพราะงั้นใครว่าสมัยนี้ผู้ชายเป็น อยากเน้นไปที่ความปรารถนาในเรื่องความรักของมนุษย์ซะมากกว่าเอ้าลองจับไต๋ให้ดีๆแล้วจะพบว่าคนเราอยากอินเลิฟกับความรักแบบไหนมั่งอ่ะก็แบบนี้ไง ...... 1 อย่างจอร์จคลูนีย์, แบรดพิตต์หรือเดวิดเบคแคมส่วนผู้หญิงก็อยากงาม, อยากดูดีมีเสน่ห์คล้ายแองเจลีนาโจลี่, นิโคลคิดแมนหรือเจนนิเฟอร์โลเปซ ไงเล่าอู้ย ... ก็ลองเป็นฝ่ายไม่น่ารัก, ไม่น่าถวิลหา เข้าไปเซ้าซี้สิยะ มีหุ่นเพรียวสวยและหน้าตาเลิศกว่าใครในปฐพีไงล่ะโถ ... บางคนมีการใส่ชุดกระชับสัดส่วนเพื่อไม่ให้ไขมันส่วนเกินโผล่ออกมาก็มี มันไม่ได้เป็นสิ่งคงทนถาวรซะหน่อยเอ้าถ้าใครมาแนะนำตัวเองกะคุณว่าหล่อนอายุ 50 แต่ 25 อยู่นั่น อะไรว่ะงี้หน้าตาเหมือนโบกปูนฉาบไว้ไม่ให้มีริ้วรอยมีเลยแม้แต่น้อยมันก็ชักยังไง ๆ อยู่นะไอ้อยากหน้าตาดีเป็นสาวพันปีหรือเป็นหนุ่มตลอดกาลน่ะพอเข้าใจ แต่อย่าเว่อสิอ้อนอกจากอยากให้ตัว เองงดงามแล้ว อยากมีชีวิตรักเหมือนในหนังหรือ ไม่ใช่เป็นนางมารหรือผู้ร้าย ... อุ้ยไม่เอาด้วยหรอกถามว่า เอ้าก็ดูหนังหรือละครแต่ละเรื่องดิ่ เช่นถูกกระแหนะกระแหนก็แล้ว, ถูกทรมานทรกรรมก็แล้วก็ไม่แคล้วตบจูบอยู่ดีล่ะว้าเพราะพอเรื่องราวคลี่คลายพายุร้ายพัดผ่านไป เป็นมหาเศรษฐีหรือเป็นทายาทเศรษฐีรึดีไม่ดีนางเอกเองนั่นแหละที่เป็นทายาทมรดกบ้านทรายทองเอ๊ย .... นางเอกได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว มีสกุลรุนชาติโอ่ะแล้วงี้จะไม่ให้ ในละครหรือในหนังได้ไงเนี่ยเพราะ อย่าเพิ่งอ้าปากค้านดิ่ว่า ก็แหงน่ะซีไม่มีใครแย้งหรอก แต่ ไม่ใช่แค่อารมณ์ดีต่อกันในช่วงแรกแล้วพอรักกันไปเรื่อย ๆ ซึ่งไม่อยากให้เป็นงี้นะเท่าที่เห็นคู่เลิฟมาเยอะโอ้โหพอผ่านช่วงรักกันอย่างที่สุดแล้วเอ้านอกจากรักจะจืดเป็นนมยูเอชทีไม่มีน้ำตาลแล้ว เฮ้อ ... งั้นอย่าลืมเติม "ผงชูรัก" ด้วยอารมณ์ดีไม่ขี้หงุดหงิด, ไม่หาเรื่องชวนทะเลาะและไม่นอกใจซะอย่างอื้มแบบนี้แหละที่ฝันถึงทุกวันล่ะ4 อยากมีรักที่มั่นคงไม่ง่อนแง่นไม่เอียงกระเท่เร่ชนิดจะจมมิจมแหล่น่ะสิเวลามีแฟนไม่ว่าได้จะคบกันแบบยังไม่ทันได้แต่ง ใครว้าคิดอยู่ในใจว่าตูจะเลิกกับแฟนคนนี้โดยเร็วเอ้า ตรงข้าม แต่เชื่อดิ่เวลาคุณมีความรักเมื่อไหร่ แต่ทุกคนก็ยังอยากให้รักคราวนี้เป็นความรักที่ไม่มีที่สิ้นสุดหรือรักไม่รู้จบทั้งนั้นแหละ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความรักกับความฝันนั้นเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไรหนุ่มบางคนก็ฝันอยากมีคู่ครองที่มีขนาดทรวงอกน้องๆภูเขาไฟไปนู่นโหนี่น่าจะหาดาวโป๊มาเป็นแฟนซะเลยสิ้นเรื่อง

. . . . . . .แต่บางคู่แค่นึกชอบกันที่นิสัยซึ่งพอจะไปกันได้และคุยรู้เรื่องก็โอเคเป็นแฟนกันได้แล้วกระนั้นก็เถอะเรื่องความรักและการมีแฟนน่ะสังเกตมะผู้หญิงมักได้ชื่อว่าเป็นจอมช่างฝันมากกว่าผู้ชายซะอีกซึ่งก็ไม่รู้จะพยายามเป็นผู้พิชิตเกมประหลาดๆเหล่านี้อะไรกันนักหนาด้านฝ่ายหญิงก็เอาแต่ช็อปปิ้งซื้อหาสิ่งของและเครื่องประดับเพื่อประทินโฉมตัวเองให้สวยใสไร้สิวเข้าไว้หวังให้เป็นที่หมายปองจะได้มีกะเค้าสักที

แต่อ่ะอ่ะผู้ชายเดี๋ยวนี้รักสวยรักงามไม่แพ้สาวๆนะยะอู้ย . . . . . . .กว่าจะแต่งองค์ทรงเครื่องไปไหนมาไหนได้ต้องส่องกระจกแบบส่องแล้วส่องอีกส่องให้เกิดความเพอร์เฟกต์ ( สมบูรณ์ ) ซะทุกสัดส่วนก่อนแล้วถึงจะเยื้องกายออกจากประตูบ้านได้เพราะงั้นใครว่าสมัยนี้ผู้ชายเป็น. . . . . . . เชอะ !

แต่ที่เขียนไม่ได้อยากคุยถึงแฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผมนะอยากเน้นไปที่ความปรารถนาในเรื่องความรักของมนุษย์ซะมากกว่าเอ้าลองจับไต๋ให้ดีๆแล้วจะพบว่าคนเราอยากอินเลิฟกับความรักแบบไหนมั่งอ่ะก็แบบนี้ไง . . . . .

1 ถ้าผู้ชายก็อยากเป็นหนุ่มหล่อหุ่นเท่อย่างจอร์จคลูนีย์แบรดพิตต์ , หรือเดวิดเบคแคมส่วนผู้หญิงก็อยากงามอยากดูดีมีเสน่ห์คล้ายแองเจลีนา superhero and นิโคล , , คิดแมนหรือเจนนิเฟอร์โลเปซอู้ยไงเล่า

. . . . . . .ก็ลองเป็นฝ่ายไม่น่ารักไม่น่าถวิลหาและไม่มีเสน่ห์พอให้ใครๆอยากกระเซาะกระแซะ , เข้าไปเซ้าซี้สิยะแล้วคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะปิ๊งด้วยเรอะ

ดังนั้น " ผู้อยากมีคู่ถึงได้ฝันเฟื่องเรื่องความสะโอดสะอง " ,มีหุ่นเพรียวสวยและหน้าตาเลิศกว่าใครในปฐพีไงล่ะโถ . . . . . . .บางคนมีการใส่ชุดกระชับสัดส่วนเพื่อไม่ให้ไขมันส่วนเกินโผล่ออกมาก็มีส่วนใครที่ใจร้อนอยากสวยแบบสายฟ้าแลบจึงอาศัยการศัลยกรรมชนิดทุ่มไม่อั้นอาตมาก็ไม่อยากคอมเมนต์

เพราะเรื่องความสวยความงามและความหล่อล่ำน่ะมันไม่ได้เป็นสิ่งคงทนถาวรซะหน่อยเอ้าถ้าใครมาแนะนำตัวเองกะคุณว่าหล่อนอายุ 50 A เมื่อมองหน้าเค้าแล้วยังตึงเปรี๊ยะเป็น 25 อยู่นั่นอะไรว่ะหน้าตางี้เหมือนโบกปูนฉาบไว้ไม่ให้มีริ้วมีรอยเลยแม้แต่น้อยมันก็ชักยังไงๆอยู่นะไอ้อยากหน้าตาดีเป็นสาวพันปีหรือเป็นหนุ่มตลอดกาลน่ะพอเข้าใจแต่อย่าเว่อสิ

อ้อนอกจากอยากให้ตัวเองงดงามแล้วก็อยากมีแฟนหน้าตาอินเทรนด์ดูดีด้วยใช่ปะ

2 อยากมีชีวิตรักเหมือนในหนังค็อคละครหลังข่าว

โดยติ๊ดต่างว่าตัวเองเป็นนางเอกหรือพระเอกนะเฟ้ยไม่ใช่เป็นนางมารหรือผู้ร้าย . . . . . . .อุ้ยไม่เอาด้วยหรอกถามว่าทำไมถึงอยากให้ตัวเองมีรักแบบในหนังน่ะเหรอเอ้าก็ดูหนังหรือละครแต่ละเรื่องดิ่ถึงแม้นางเอกหรือพระเอกจะถูกใครๆทำไม่ดีใส่ในตอนแรกถูกกระแหนะกระแหนก็แล้วเช่น ,ถูกทรมานทรกรรมก็แล้วก็ไม่แคล้วตบจูบอยู่ดีล่ะว้าเพราะพอเรื่องราวคลี่คลายพายุร้ายพัดผ่านไปนางเอกก็มักได้ดิบได้ดีมีคนรักอย่างที่หล่อนต้องการทู้กทีแถมคนรักในหนังในละครก็แสนเพอร์เฟกต์รึดีไม่ดีนางเอกเองนั่นแหละที่เป็นทายาทมรดกบ้านทรายทองเอ๊ย .. . . . . . .นางเอกได้รู้ว่าแท้จริงแล้วพ่อแม่ของหล่อนนั้นมียศถาบรรดาศักดิ์มีสกุลรุนชาติโอ่ะแล้วงี้จะไม่ให้ฝันกลางวันเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆเหมือนในละครหรือในหนังได้ไงเนี่ยเพราะ
3 อยากให้ทั้งตัวเราและคู่ของเราอารมณ์ดีขณะรักกันตลอดเวลา

เอ้าอย่าเพิ่งอ้าปากค้านดิ่ว่าตอนมีความรักแรกๆน่ะใครๆก็อารมณ์ดีกันอยู่แล้วก็แหงน่ะซีไม่มีใครแย้งหรอก A ขอรวมถึงความรักในทุกช่วงเวลาด้วยได้ไหมไม่ใช่แค่อารมณ์ดีต่อกันในช่วงแรกแล้วพอรักกันไปเรื่อยๆ