The objective of this article is to

The objective of this article is to explore reports of unfair results for African American and other minority students on the Scholastic Assessment Test. Specifically, we studied the correlation between item difficulty and differential item functioning (DIF) values (i.e., African Americans tend to perform better in harder items and White students perform better in easier items) reported by Kulick and Hu (1989) and Freedle (2003). Both investigations used the standardization approach to study DIF.1 In contrast, we will use item response theory (IRT) methods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของบทความนี้คือการสำรวจรายงานผลอย่างไม่เป็นธรรมสำหรับฟริกันอเมริกันและชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ นักเรียนในการทดสอบการประเมินนักวิชาการ โดยเฉพาะเราศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความยากลำบากในรายการและรายการค่าการทำงาน (แตกต่างกัน) ที่แตกต่างกัน (เช่น,แอฟริกันมีแนวโน้มที่จะทำงานได้ดีขึ้นในรายการหนั​​กและนักเรียนสีขาวทำงานได้ดีขึ้นในรายการได้ง่ายขึ้น) ที่รายงานโดย Kulick และ Hu (1989) และ freedle (2003) การสืบสวนทั้งสองใช้วิธีการมาตรฐานในการศึกษา dif.1 ในทางตรงกันข้ามเราจะใช้ทฤษฎีการตอบสนองข้อสอบ (IRT) วิธีการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของบทความนี้คือการ สำรวจรายงานผลที่ไม่เป็นธรรมสำหรับแอฟริกันอเมริกันและนักเรียนชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ Scholastic ประเมิน Test. เฉพาะ เราศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความยากลำบากของสินค้าและสินค้าที่แตกต่างทำงาน (DIF) ค่า (เช่น แอฟริกันอเมริกันมักจะ ทำดีกว่าในสินค้าหนัก และขาวทำดีกว่าในสินค้าง่าย) ที่รายงาน โดย Kulick และหู (1989) และ Freedle (2003) ทั้งสอบสวนใช้วิธีการมาตรฐานการเรียน DIF.1 ในทางตรงข้าม เราจะใช้วิธีสินค้าตอบสนองทฤษฎี (IRT)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ของข้อนี้คือเพื่อการสำรวจรายงานผลการปฏิบัติอันไม่เป็นธรรมสำหรับนักเรียนของชนกลุ่มน้อยชาวอเมริกันและอื่นๆแบบแอฟริกันเกี่ยวกับความรู้ในการประเมินผลการปฏิบัติงานการทดสอบ โดยเฉพาะเราศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความยากรายการและรายการส่วนที่แตกต่างการทำงาน(ชนิด)(เช่นชาวอเมริกันคนแอฟริกันมีแนวโน้มที่จะทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้นในรายการให้หนักขึ้นและนักเรียนสีขาวทำได้ดีขึ้นได้ง่ายขึ้นในรายการ)รายงานโดย kulick และ HU ( 1989 )และ freedle ( 2003 ) การสอบสวนทั้งคู่ใช้วิธีมาตรฐานการศึกษา dif. 1 ในความเปรียบต่างเราจะใช้ทฤษฎีการตอบสนองรายการ( IRT =)วิธีใดวิธีหนึ่ง