หมิว : I think I will going to Nakh

หมิว : I think I will going to Nakhon Si Thammarat province tomorrow.
มาย : Ohhh ! really ?
หมิว : yes.
มาย : If you’re going to be in Nakhon Si Thammarat, make sure you stop over in Baan Kiriwong. It’s a local, authentic experience you won’t forget!
หมิว : Where is this location ?
มาย : To travel to Kiriwong village from Muang district, drive along Highway Number 4016. Then turn left into Highway Number 4015, turn right at 9th kilometer into Kiriwong village which is around 9 kilometers away. Another choice is getting on the red minivan from Yao market in Muang district. The van leaves for the village during 7.00 – 16.00 hours. The fee is 20 baht. 
หมิว : Ohh, I see. I just know that It was originated from the old community who migrated to live at KhaoLuang foothill, Kamlon subdistrict which is the pathway to KhaoLuang’s peak. Villagers have peaceful lifestyle and live as groups of their own relatives. 
มาย : The main occupation there is gardening of fruits combination called “SuanSomrom” which has mangosteen, rambutan, durian and Pakria. There are also Kiriwong communities which are tie-dying group, herb group, weaving from coconut shell group, processing fruit juice group, wine group and durian jam group. Each group has its own product, which is popular among the customers and tourists who always buy them back as souvenirs. The products has reasonable price with high quality.
หมิว : But on 21st, November 1988 (the same year as Talumpuk cape, Pak Phanang district incident), there was a big flood 
which flushed away over 100 houses. The temple and Kiriwong people has conserved the president Buddha Image in Ubosot hall and the houses damaged from flood as historical sites.
มาย : Yes but current,  Kiriwong is located amidst the mountain, forest and river, the outstanding feature of Kiriwong village is its natural scenery. For those who would like to visit this place, the interesting activities are staying at homestay-type accommodation and trying local food. For those who visit during fruitful season, you will have a chance to try different types of fruits. From the past until nowadays, the main occupation of Kiriwong people is growing fruits such as durian, mangosteen, rambutan and Longkong.
หมิว : I know that There is an old boat made of the whole log which was called “RuaNuae”. In the past, Kiriwong people used this type of boat to carry fruits in order to trade for food and necessary goods from people living on the hill away from the mountain area. Between April – September, it is the primetime for walking up the hill and trekking. Kiriwong village has its guides and workers who help you carry your bags so tourists can see the view and take photos of historical sites affected from flood in 1975 and 1988 and the river of life. They can also see and buy OTOP products and 
see the making method at the demonstration spots. Kiriwong has various types of products. The one which is selected as 5-star OTOP product is natural color tie-dyed cloth.
มาย : Kiriwong community is the model community of ecological tourism management. They also won the excellent award of Thailand Tourism in 1998 in city and community category. The reasons are the community has a gardener’s lifestyle with close nature; the development for offering service to tourists such as guiding, trekking, providing workers; 
the establishment of conservational tourism as the center of community and create the participation. It is worthwhile to visit this village because you will not only have a chance to experience the beauty of nature, but you can also experience 
the villager’s lifestyle and local food.
หมิว : Wow, I can’t wait I would like to go now!!

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หมิว: ผมคิดว่า จะไปจังหวัดนครศรีธรรมราชวันพรุ่งนี้มาย: โอ้ จริง ๆหมิว: ใช่มาย: ถ้าคุณกำลังจะเป็นในจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้แน่ใจว่า คุณหยุดพักในบ้านนครศรีฯ มันเป็นประสบการณ์ท้องถิ่น แท้จริงคุณจะไม่ลืมหมิว: ที่นี่คือสถานที่มาย: การเดินทางไปหมู่บ้านนครศรีฯ จากอำเภอเมือง ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 4016 จากนั้น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 เลี้ยวขวาที่กิโลเมตร 9 เข้าไปในหมู่บ้านนครศรีฯ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 9 กิโลเมตร อีกทางเลือกจะได้รับบนรถตู้สีแดงยาวตลาดอำเภอเมือง รถตู้ออกสำหรับหมู่บ้านในช่วงเวลา 7.00 – 16.00 น. ค่าบริการเป็น 20 บาท หมิว: โอ้ ฉันเห็น ผมเพิ่งทราบว่า มันมาจากชุมชนเก่าที่ย้ายไปอยู่ที่ KhaoLuang foothill ตำบล Kamlon ซึ่งเป็นทางเดินไปจุดสูงสุดของ KhaoLuang ชาวบ้านมีไลฟ์สไตล์ที่เงียบสงบ และอยู่เป็นกลุ่มของญาติตนเอง มาย: อาชีพหลักมีของสวนผลไม้ผสมเรียกว่า "SuanSomrom" ซึ่งมีมังคุด เงาะ ทุเรียน และ Pakria มีชุมชนนครศรีฯ ซึ่งเป็นกลุ่ม tie-dying กลุ่มสมุนไพร ทอผ้าจากกลุ่มกะลามะพร้าว กลุ่มน้ำผลไม้ผลไม้แปรรูป กลุ่มไวน์ และกลุ่มทุเรียนแยม แต่ละกลุ่มมีผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้า และนักท่องเที่ยวมักจะซื้อกลับเป็นของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์มีราคาเหมาะสมกับคุณภาพ หมิว: แต่บน 21, 1988 พฤศจิกายน (ปีเดียวกันเป็น Talumpuk แหลม เหตุการณ์อำเภอปากพนัง), มีน้ำท่วมใหญ่ซึ่งล้างห่างกันกว่า 100 บ้าน วัดและนครศรีฯ ท่านได้อนุรักษ์พระพุทธรูปในอุโบสถศาลาและบ้านที่เสียหายจากน้ำท่วมเป็นศาสตร์ประธานมาย: ใช่แต่ปัจจุบัน นครศรีฯ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา ป่าไม้ และแม่น้ำ ลักษณะที่โดดเด่นของหมู่บ้านนครศรีฯ คือ ทิวทัศน์ของธรรมชาติ สำหรับผู้ที่ต้องการเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ กิจกรรมน่าสนใจมีพักแบบโฮมสเตย์ และลองอาหารท้องถิ่น สำหรับผู้ที่เยี่ยมชมในช่วงฤดูกาลผล คุณจะได้มีโอกาสลองผลไม้ชนิดต่าง ๆ จากอดีต จนปัจจุบัน อาชีพหลักของคนนครศรีฯ เติบโตผลไม้เช่นทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง หมิว: ฉันรู้ว่ามีเรือเก่าที่ทำจากบันทึกทั้งหมดซึ่งเรียกว่า "RuaNuae" ในอดีต นครศรีฯ คนใช้เรือชนิดนี้ในการดำเนินผลไม้เพื่อค้าสำหรับอาหารและสินค้าจำเป็นจากคนที่อาศัยอยู่บนดอยห่างจากพื้นที่ภูเขา ระหว่างเมษายน – กันยายน ได้ primetime สำหรับเดินขึ้นเขา และเดินป่า หมู่บ้านนครศรีฯ มีคู่มือของ และคนงานที่ช่วยคุณยกกระเป๋านักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิว และนำรูปภาพของศาสตร์ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในปี 1975 และปี 1988 และแม่น้ำแห่งชีวิต พวกเขายังสามารถดู และซื้อสินค้า OTOP และดูวิธีการทำจุดสาธิต นครศรีฯ มีผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด หนึ่งที่ถูกเลือกเป็นสินค้าโอทอป 5 ดาวเป็นผ้า tie-dyed สีธรรมชาติมาย: ชุมชนนครศรีฯ เป็นชุมชนรูปแบบของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ พวกเขายังได้รับรางวัลยอดเยี่ยมของการท่องเที่ยวไทยในปี 2541 ประเภทเมืองและชุมชน เหตุผลมีชุมชนมีไลฟ์สไตล์ของคนสวนใกล้ชิดธรรมชาติ การพัฒนาสำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวเช่นมัคคุเทศก์ เดินป่า ให้แรงงาน การจัดตั้งการท่องเที่ยว conservational เป็นศูนย์กลางของชุมชน และสร้างการมีส่วนร่วม คุ้มค่าที่จะเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้ เพราะคุณจะไม่เพียงแต่มีโอกาสได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติ แต่คุณสามารถสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านและอาหารท้องถิ่นได้หมิว: ว้าว ฉันไม่สามารถรออยากจะไปเดี๋ยวนี้!!

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หมิว:. ฉันคิดว่าฉันจะไปจังหวัดนครศรีธรรมราชในวันพรุ่งนี้
มาย: Ohhh! จริงๆ?
หมิว: ใช่.
มาย: หากคุณกำลังจะไปอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชให้แน่ใจว่าคุณหยุดในบ้านคีรีวง มันเป็นท้องถิ่นประสบการณ์จริงคุณจะไม่ลืม!
หมิว: อยู่ที่ไหนสถานที่นี้
มาย: ในการเดินทางไปยังหมู่บ้านคีรีวงจากอำเภอเมืองขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 4016. จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 เลี้ยวขวาที่ กิโลเมตรที่ 9 เข้าไปในหมู่บ้านคีรีวงซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 9 กิโลเมตร ทางเลือกหนึ่งคือการเดินทางบนรถตู้สีแดงจากตลาดยาวในเขตอำเภอเมือง รถตู้ออกจากหมู่บ้านในช่วง 7.00-16.00 ชั่วโมง ค่าบริการ 20 บาท. 
หมิว: โอ๋ฉันเห็น ผมก็รู้ว่ามันได้มาจากชุมชนเก่าที่อพยพไปอาศัยอยู่ที่เชิงเขา KhaoLuang, กำโลนตำบลซึ่งเป็นทางเดินไปยังจุดสูงสุดของ KhaoLuang ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่สงบสุขและมีชีวิตอยู่กับกลุ่มของญาติของตัวเอง. 
มาย: อาชีพหลักมีสวนผลไม้ของการรวมกันเรียกว่า "SuanSomrom" ซึ่งมีมังคุดเงาะทุเรียนและ Pakria นอกจากนี้ยังมีชุมชนคีรีวงซึ่งเป็นกลุ่มผูกตายกลุ่มสมุนไพรทอจากกลุ่มกะลามะพร้าวกลุ่มแปรรูปน้ำผลไม้กลุ่มไวน์และกลุ่มแยมทุเรียน แต่ละกลุ่มจะมีสินค้าของตัวเองซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่มักจะซื้อพวกเขากลับมาเป็นของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาที่เหมาะสมมีคุณภาพสูง.
หมิว: แต่ในวันที่ 21, พฤศจิกายน 1988 (ปีเดียวกับ Talumpuk แหลมปากพนังอำเภอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น) มีน้ำท่วมใหญ่ซึ่งล้างออกไปกว่า 100 บ้าน วัดและคีรีวงคนได้อนุรักษ์ประธานพระพุทธรูปในพระอุโบสถฮอลล์และบ้านได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์.
มาย: ใช่ แต่ปัจจุบันคีรีวงตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาป่าไม้และแม่น้ำคุณสมบัติที่โดดเด่นของหมู่บ้านคีรีวงเป็นของตน ทิวทัศน์ธรรมชาติ สำหรับผู้ที่ต้องการที่จะเยี่ยมชมสถานที่นี้กิจกรรมที่น่าสนใจจะเข้าพัก ณ โรงแรมแห่งโฮมสเตย์ชนิดและพยายามอาหารท้องถิ่น สำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมในช่วงฤดูผลสำเร็จคุณจะมีโอกาสที่จะลองความแตกต่างของผลไม้ จากอดีตจนถึงปัจจุบันอาชีพหลักของคนที่คีรีวงที่มีการเติบโตผลไม้เช่นทุเรียนมังคุดเงาะและลองกอง.
หมิว: ฉันรู้ว่ามีเรือเก่าที่ทำจากบันทึกของทั้งหมดซึ่งถูกเรียกว่า "RuaNuae" เป็น ในอดีตที่ผ่านมาคนคีรีวงใช้ประเภทของเรือที่จะดำเนินการในการสั่งซื้อผลไม้นี้เพื่อการค้าสำหรับอาหารและสินค้าจำเป็นจากผู้คนที่อาศัยอยู่บนเนินเขาออกไปจากพื้นที่ภูเขา ระหว่างเมษายน-กันยายนมันเป็นที่แพร่หลายสำหรับการเดินขึ้นเนินเขาและเดินป่า หมู่บ้านคีรีวงมีคู่มือและคนงานที่ช่วยให้คุณดำเนินกระเป๋าของคุณเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวและถ่ายภาพของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในปี 1975 และ 1988 และแม่น้ำของชีวิต พวกเขายังสามารถดูและซื้อสินค้า OTOP และดูวิธีการทำที่จุดสาธิต คีรีวงมีหลายประเภทของผลิตภัณฑ์ หนึ่งซึ่งถูกเลือกเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวสินค้า OTOP เป็นสีธรรมชาติผ้าผูกย้อม.
มาย: ชุมชนคีรีวงเป็นชุมชนรูปแบบของการจัดการการท่องเที่ยวในระบบนิเวศ พวกเขายังได้รับรางวัลยอดเยี่ยมของการท่องเที่ยวไทยในปี 1998 ในเมืองและประเภทชุมชน เหตุผลที่มีชุมชนมีวิถีชีวิตชาวสวนที่มีลักษณะใกล้เคียง; การพัฒนาสำหรับการเสนอขายบริการให้กับนักท่องเที่ยวเช่นแนวทางเดินป่าให้คนงาน; สถานประกอบการของการท่องเที่ยวอนุรักษ์เป็นศูนย์กลางของชุมชนและสร้างการมีส่วนร่วม มันคุ้มค่าที่จะเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้เพราะคุณจะไม่เพียง แต่มีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติ แต่คุณยังสามารถสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวบ้านและอาหารท้องถิ่น.
หมิว: ว้าว, ฉันไม่สามารถรอที่ฉันต้องการจะไป ในขณะนี้ !!

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หมิว : ฉันว่าฉันไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในวันพรุ่งนี้มาย : โอ้ ! ! ! จริงเหรอ ?หมิว : ค่ะมาย : ถ้าคุณกำลังจะในจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้แน่ใจว่าคุณหยุดมากกว่าในบ้านคีรีวง . มันเป็นท้องถิ่น แท้ ประสบการณ์ที่คุณจะไม่ลืม !หมิวที่ไหน สถานที่นี้มาย : เดินทางไปหมู่บ้านคีรีวง จากอำเภอเมือง ไปตามทางหลวงหมายเลข๔๐ . แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015   กิโลเมตรเลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านคีรีวง ครั้งที่ 9 ซึ่งเป็นประมาณ 9 กิโลเมตรห่าง อีกทางเลือกคือการบนสีแดงรถตู้จากตลาดยาว ในอำเภอเมือง รถตู้ออกจากหมู่บ้าน ระหว่าง 7.00 - 16.00 ชั่วโมง ทำไมค่าธรรมเนียม 20 บาท ไหมหมิว : โอ้ ผมเห็น ผมรู้แค่ว่ามันมาจากชุมชนเก่าที่อพยพไปอาศัยอยู่ที่เชิงเขา เขา วง ตำบลกำโลน , ซึ่งเป็นทางเดินเขา วงจุดสูงสุดของ ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่สงบและอยู่เป็นกลุ่มของญาติของตัวเอง ไหมมาย : อาชีพหลัก ทำสวนผลไม้ มีการรวมกัน เรียกว่า " suansomrom " ซึ่งมีมังคุด ลองกอง เงาะ ทุเรียน และ pakria . นอกจากนี้ยังมีชุมชนคีรีวงซึ่งเป็นมัดย้อม กลุ่มสมุนไพร กลุ่มทอผ้าจากกะลามะพร้าว กลุ่มแปรรูปผลไม้ กลุ่มไวน์และกลุ่มแยมทุเรียน แต่ละกลุ่มมีผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้าและนักท่องเที่ยวมักจะซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพสูงหมิว : แต่เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2531 ( ปีเดียวกับ talumpuk แหลม , เหตุการณ์ตำบลปากพนัง ) มีน้ำท่วมใหญ่ 
ซึ่งหน้าแดงไปกว่า 100 หลัง วัดคีรีวงศ์ และประชาชนได้อนุรักษ์ประธานพระพุทธรูปในอุโบสถศาลาและบ้านที่เสียหายจากน้ำท่วม เช่น สถานที่ทางประวัติศาสตร์มาย : ใช่ แต่ปัจจุบันรึเปล่า คีรีวง ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา ป่า และแม่น้ำ จุดเด่นของหมู่บ้านคีรีวง เป็นทิวทัศน์ของธรรมชาติ สำหรับผู้ที่ต้องการเยี่ยมชมสถานที่นี้ กิจกรรมที่น่าสนใจอยู่ที่พักประเภทโฮมสเตย์และลองอาหารท้องถิ่น สำหรับผู้ที่มาเยือนในช่วงฤดูกาลออกผล คุณจะมีโอกาสที่จะลองแตกต่างกันประเภทของผลไม้ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน อาชีพหลักของคนคีรีวง คือ ปลูกผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง .หมิว : ฉันรู้ว่ามีเรือเก่าที่ทำจากท่อนซุงที่ถูกเรียกว่า " ruanuae " ในอดีต ทำไมคนคีรีวงใช้ของเรือประเภทนี้จะแบกผลไม้เพื่อการค้าอาหาร และสินค้าจำเป็นจากคนที่อาศัยอยู่บนเนินเขาห่างจากพื้นที่ภูเขา ระหว่างเดือนเมษายน - กันยายน มันเป็นที่แพร่หลายสำหรับเดินขึ้นเขา และเดินป่า หมู่บ้านคีรีวง มี ไกด์และคนช่วยถือกระเป๋าของคุณเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวและถ่ายรูปโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในปี 1975 และปี 1988 และแม่น้ำแห่งชีวิต พวกเขายังสามารถเห็นและซื้อสินค้าโอทอป และ 
เห็นทำให้วิธีที่สาธิตจุด คีรีวงได้ประเภทต่างๆของผลิตภัณฑ์ ที่เลือกเป็นสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว คือ มัดไหมสีธรรมชาติย้อมผ้ามาย : ชุมชนคีรีวง เป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ พวกเขายังได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ปี พ.ศ. 2541 ในประเภทเมืองและชุมชน เหตุผลคือ ชุมชนมีวิถีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติกับสวน พัฒนาการให้บริการให้กับนักท่องเที่ยว เช่น ชี้นำ เดินป่า การให้แรงงาน ;  
จัดตั้งการอนุรักษ์การท่องเที่ยว เป็นศูนย์กลางของชุมชน และสร้างการมีส่วนร่วม มันคุ้มค่าที่จะเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้ เพราะคุณจะไม่เพียง แต่มีโอกาสที่จะได้สัมผัสความงามของธรรมชาติ แต่คุณยังสามารถสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ 
ท้องถิ่นและอาหารหมิว : ว้าว ฉันรอไม่ได้ฉันต้องไปเดี๋ยวนี้ ! !