The first aim of the current study

The first aim of the current study is to explore the levels of emotional
awareness among obese people using the LEAS and to assess
their use of emotional eating. The second aim is to examine the impact
of the level of emotional awareness on emotional eating in obese
women. Finally, this study explores the factors that affect
patient levels of emotional awareness such as parental bonding.
Some studies of patients who suffering from eating disorders
have already explored the relationships among family organization,
emotional awareness and emotion regulation from a developmental
perspective. De Panfilis, Rabbaglio, Rossi, Zita, and Maggini
(2003) found a correlation between maternal care and the abilities
to self-identify and describe feelings among patients who suffer
from an eating disorder, whereas Fukunishi (1998) found the same
results in a sample of college students with subclinical eating disorder
symptoms. Tasca et al. (2009) found that emotion regulation
mediated the relationship between attachment style and eating
disorder symptoms.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายแรกของการศึกษาปัจจุบันเป็นการ สำรวจระดับของอารมณ์การรับรู้ใน หมู่คนอ้วนที่ใช้ LEAS การ และ การประเมินการใช้การกินทางอารมณ์ จุดมุ่งหมายที่สองคือการ ตรวจสอบผลกระทบระดับของการรับรู้อารมณ์ในอารมณ์กินในโรคอ้วนผู้หญิง ในที่สุด นี้ศึกษาสำรวจปัจจัยที่มีผลต่อระดับของการรับรู้อารมณ์เช่นผู้ปกครองยึดผู้ป่วยบางการศึกษาผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากการกินผิดปกติมีสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรครอบครัว แล้วระเบียบรับรู้และอารมณ์ความรู้สึกทางอารมณ์จากการพัฒนามุมมองของ เดอ Panfilis, Rabbaglio รอสซี Zita และ Maggini(2003) พบความสัมพันธ์ระหว่างการดูแลมารดาและความสามารถระบุตนเอง และอธิบายถึงความรู้สึกในผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากการเสพ ในขณะที่ Fukunishi (1998) พบเหมือนกันผลลัพธ์ในตัวอย่างของนักศึกษาวิทยาลัยกับออทิสติ subclinicalอาการ Tasca et al. (2009) พบว่าควบคุมอารมณ์สื่อความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะสิ่งที่แนบและรับประทานอาหารอาการผิดปกติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายแรกของการศึกษาในปัจจุบันคือการสำรวจระดับของอารมณ์
ความตระหนักในหมู่คนอ้วนโดยใช้ LEAS และเพื่อประเมิน
การใช้งานของการรับประทานอาหารอารมณ์ โดยมีจุดมุ่งหมายที่สองคือการตรวจสอบผลกระทบ
ของระดับของการรับรู้อารมณ์ในการรับประทานอาหารอารมณ์ในการเป็นโรคอ้วน
ผู้หญิง สุดท้ายการศึกษานี้เป็นการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อ
ระดับของผู้ป่วยจากการรับรู้อารมณ์เช่นพันธะของผู้ปกครอง.
บางการศึกษาของผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากความผิดปกติของการรับประทานอาหารที่
มีการสำรวจแล้วความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรครอบครัว
การรับรู้อารมณ์และการควบคุมอารมณ์จากการพัฒนา
มุมมอง De Panfilis, Rabbaglio รอสซี, Zita และ Maggini
(2003) พบความสัมพันธ์ระหว่างการดูแลมารดาและความสามารถที่
ตัวเองระบุและอธิบายความรู้สึกของผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมาน
จากความผิดปกติของการรับประทานอาหารในขณะที่ Fukunishi (1998) พบเดียวกัน
ส่งผลให้ ตัวอย่างของนักศึกษาที่มีความผิดปกติของการรับประทานอาหารที่ไม่แสดงอาการ
อาการ Tasca et al, (2009) พบว่าการควบคุมอารมณ์
ไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบความผูกพันและการรับประทานอาหาร
มีอาการผิดปกติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์แรกของการศึกษาในปัจจุบันคือเพื่อศึกษาระดับของอารมณ์การรับรู้ในหมู่คนอ้วนใช้แผน และเพื่อประเมินใช้ของการรับประทานอาหารอารมณ์ เป้าหมายที่สอง คือ เพื่อศึกษาผลกระทบของระดับของการรับรู้ทางอารมณ์ในอารมณ์กินอ้วนผู้หญิง ในที่สุด การศึกษานี้เป็นการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อระดับของความตระหนักทางอารมณ์ของผู้ป่วย เช่น เชื่อมบางการศึกษาผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานจากความผิดปกติของการรับประทานอาหารได้สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร ครอบครัวความตระหนักทางอารมณ์และการควบคุมอารมณ์ จากพัฒนาการมุมมอง เดอ panfilis rabbaglio , รอสซี่ ซีต้า และ maggini( 2003 ) พบความสัมพันธ์ระหว่างการดูแลมารดา และความสามารถด้วยตนเองระบุ และบรรยายความรู้สึกของผู้ป่วยที่ประสบจากความผิดปกติของการรับประทานอาหาร ในขณะที่ฟุกูนิชิ ( 1998 ) พบเหมือนกันผลลัพธ์ในตัวอย่างของนักศึกษากับซับคลินิเคิลกินไม่เป็นระเบียบอาการ รี et al . ( 2009 ) พบว่า การควบคุมอารมณ์โดยความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบความผูกพันและกินอาการของโรค